Monday, April 6, 2015

Give me a baby special uncensored version [NC-17]



Give me a baby
Special for BBH and PCY



เคยคิดว่าคนเราจะเขินอายกับคนที่เรียกว่าแฟนสักเท่าไหร่กัน?

แบคฮยอนก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะสักเท่าไหร่ แต่บอกได้แค่ว่าตอนนี้น่ะเขินสุดๆ

วันนี้ชานยอลนัดเขาไปพบกับวิศวกรเครื่องกลที่เป็นเพื่อนพี่เขา เพื่อนคนนี้มีสตูดิโอถ่ายภาพด้วยเพราะความชอบส่วนตัว ดังนั้นจึงนัดกันที่สตูดิโอนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือในการปรับแปลนไลน์ผลิตสินค้าใหม่ซึ่งมีซัพพลายเออร์มาเสนอหลายรายจนแบคฮยอนเลือกไม่ถูก

อากาศค่อนข้างเย็นวันนี้ชานยอลจึงมารับแบคฮยอนที่บ้าน ร่างสูงใส่เสื้อสเวตเตอร์คอเต่าสีเทากับกางเกงขายาวสีดำขายาวสีเข้ากัน ผมที่มักจะเซ็ตให้เข้าทรงวันนี้มาเรียบๆ ชานยอลเป็นคนผมหยักศกผมหน้าม้าของเขาก็เลยฟูฟ่องนิดหน่อยแต่ก็เท่ไปอีกแบบ

แต่แบคฮยอนเป็นคนขี้ร้อนนี่สิ เขาไม่ได้รู้สึกหนาวขนาดนั้น ร่างบางเลยใส่แค่เสื้อยืดสีขาวข้างในทับด้วยเสื้อลายสก็อตแดงดำที่เคยซื้อคู่กับชานยอลเมื่อหลายวันก่อน ผ่านมาก็สองวันแล้วที่เขากับชานยอลคบกันอย่างเป็นทางการ ก็เลยไปซื้อเสื้อคู่กันมาแต่เพราะไม่ได้นัดว่าจะใส่ด้วยกัน ชานยอลเลยใส่สเว็ตเตอร์สีเทามาแทน

เปิดประตูรถขึ้นไปก็โดนสายตาจิกกัดนิดหน่อยเพราะแบคฮยอนเองชอบตามแฟชั่น อย่างเช่นกางเกงขาดเข่าที่เขาใส่ก็ทำให้ชานยอลไม่ค่อยพอใจนัก

“ทำไมใส่กางเกงขาขาดขนาดนั้นล่ะครับน้องแบค” จิกด้วยสายตาแล้วคนตัวเล็กก็ยังไม่รู้ตัวเลยต้องพูดซะ
“ง่า พี่ชาน คือมันเป็นกางเกงแฟชั่นไงครับรีบออกรถสิครับ เดี๋ยวเพื่อนพี่รอนะ” แบคฮยอนรีบเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องเพื่อนก่อนชานยอลจะไล่ให้เขาไปเปลี่ยนกางเกง คนเป็นพี่เลยถอนหายใจแล้วขับรถออกไปที่สตูดิโอที่นัดไว้

เมื่อถึงที่หมายแบคฮยอนแปลกใจไม่น้อยที่คนเป็นเจ้าของสตูดิโอเป็นวิศวกรด้วย มันตกแต่งเหมือนสตูดิโอของนักถ่ายรูปมืออาชีพเลยทีเดียว ในสตูดิโอนอกจากจะมีอุปกรณ์ถ่ายทำเช่น ขาตั้งกล้อง ฉากสีขาวและอุปกรณ์ประกอบฉากรวมถึงรีเฟล็กเตอร์แล้ว ยังมีเก้าอี้และโซฟาสำหรับจัดเป็นที่พักผ่อนด้วย

“ว้าววววว สตูดิโอใหญ่จังเลยนะครับ” เพราะชานยอลสนิทกับเจ้าของพอสมควรจึงพาน้องเข้ามาในสตูดิโอก่อน พอเข้ามาถึงแบคฮยอนก็ร้องว้าวอย่างกับเด็กๆ เรียกให้คนที่มาด้วยมองแล้วอมยิ้มได้ทีเดียว

ก็แบคฮยอนน่ะ เวลาเจออะไรที่ชอบแล้วยิ้มจนตาหยีมันน่ารักมากๆ เลย

“สวัสดีครับน้องแบคฮยอน”

รอไม่นานเจ้าของสตูดิโอก็เข้ามา คนคนนี้ผิวขาวมากๆ ขาวจนแบคฮยอนสงสัยเลยว่าเวลาเขาถ่ายรูปอาจไม่ต้องใช้ไฟรีเฟลกซ์รึเปล่า ริมฝีปากอิ่มและจมูกสันเป็นคมนั้นก็รับกับดวงตาไม่เล็กไม่ใหญ่ หากรวมเข้ากับใบหน้ารูปไข่นั้นแล้วคิดว่าหล่อมากๆ ทีเดียว

“สวัสดีครับ เอ่อ พี่...” แบคฮยอนไม่สงสัยว่าทำไมพี่คนนี้รู้จักชื่อเขาเพราะชานยอลอาจจะบอกไป แต่ก็รู้สึกตัวเองซุ่มซ่ามจริงๆ ที่ลืมถามชื่อพี่เขาจากชานยอล
“อ้าว นี่แกไม่ได้บอกน้องเหรอวะ ว่าฉันชื่ออะไร” แต่ปฏิกิริยาของพี่เขาตอนเห็นแบคฮยอนพูดชื่อไม่ออกนี่สิ ตลกชะมัด

พี่วิศวะคนนี้พอรู้ว่าเขาไม่รู้ชื่อตัวเองก็ตบหัวชานยอลเข้าหนึ่งฉาดแล้วก็แยกเขี้ยวแหกตาใส่จนหมดหล่อไปเลย

พี่นี่ความมหัศจรรย์ของชาติเลยครับ อยู่เฉยๆ โคตรหล่อ แต่พอพูดหรือทำหน้าตลกปั๊บ ก็งงเลยว่าพี่เคยหล่อมาก่อน

พอเห็นแบคฮยอนจ้องอย่างนั้น เจ้าของสตูดิโอเลยเลิกทำหน้าแยกเขี้ยวใส่ชานยอลแล้วหันมาเก็กหล่อทันที

“อ้อ พี่ชื่อจุนมยอนครับ คิมจุนมยอนครับ” พอเก็กหล่อแล้วก็มาจับมือแบคฮยอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อ่า เวลาพี่เขายิ้มก็แอบตลกนะเพราะตาจะหยีไปหมดแถมยังมีรอยย่นที่แก้มอีกต่างหาก

“มือน้องแบคนุ่มจังเลยนะครับ” จุนมยอนแกล้งแซวแต่ผลที่ได้คือชานยอลรีบมาจับแยกออกทันที
“อะแฮ่ม จุนมยอนไหนนายบอกจะช่วยเลือกแบบไง”
“อ้อ เอ้อ จริงด้วย แบบที่น้องแบคส่งมาให้วันก่อนอยู่ไหนน้า”

แบคฮยอนกำลังคิดว่าพี่จุนมยอนนี่นอกจากหน้าหล่อแล้วก็ตลกจริงๆ พี่เขาค้นห้องไปทั่วเพื่อจะทำท่าแบบว่า อ้อ แบบอยู่ที่ห้องนอนนี่เอง แล้วก็เดินออกจากสตูดิโอไปที่บ้านเพื่อไปเอามา มองแล้วก็ขำจริงๆ

“คิกๆ เพื่อนพี่ชานน่ารักดี”
“ห้ามหลงรักล่ะ” แซวให้คนตัวเล็กหน้าแดงนิดหน่อย เพราะจุนมยอนไปเอาแบบเครื่องจักร ชานยอลก็ชวนให้แบคฮยอนนั่งลงที่โซฟาก่อน
“ฮื่อ ใครจะไปหลงรัก ก็มีพี่ชานแล้วนี่” พูดให้คนเป็นพี่เขินนิดหน่อยแล้วก็นั่งลงข้างๆ

อากาศในสตูดิโอไม่ค่อยเย็นมากนักเพราะผลของฮีตเตอร์ที่จุนมยอนเปิดไว้ แบคฮยอนจึงนั่งเอาขายกขึ้นมาวางบนโซฟาในท่านั่งขัดสมาธิ แต่ชานยอลนั้นติดนั่งไขว่ห้างก็เลยนั่งท่านั้น

รอสักพักมือคนตัวเล็กก็อยู่ไม่สุขเพราะรู้สึกว่ามันเงียบเกินไปขยับนิดหน่อยไปตามไหล่คนพี่เพื่อเรียกร้องความสนใจแต่ชานยอลก็แกล้งทำเป็นนั่งมองไปทางอื่นซะงั้น

แอบแกล้งเพิ่มโดยการเอามืออีกข้างไปจิ้มเอวคนพี่ จิ้มเสร็จเมื่อชานยอลหันหน้ามาก็อมยิ้มแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พอเขาหันกลับไปอีกครั้ง แบคฮยอนก็เอามือไปจิ้มเอวอีก คราวนี้ทำหน้ามึนใส่ชานยอลว่าหันมาทำไมเหรอจนคนเป็นพี่อดไม่ไหวบีบจมูกไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว

“ง่า พี่ชานบีบตะหมูกกันทำไม” จับที่จมูกตัวเองแล้วทำหน้าเศร้าปากเบะด้วยนะ
“ก็ใครไม่รู้ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่เป็นแอบมาแกล้งคนอื่น” ตอบพลางยิ้มขำกับท่าทางน่ารักนั่นเบาๆ
“ใครกันน้อ แกล้งพี่ชานของน้องแบค” แต่คนตัวเล็กกลับเอามือมากอดอกพลางทำหน้าคิดหนักเหมือนกำลังไม่พอใจคนที่แกล้งแฟนตัวเองซะงั้น
“ถ้าจับได้ล่ะก็จะทำโทษให้เข็ดเลยล่ะ”

แล้วแบคฮยอนก็สะดุ้งโหยงเมื่อชานยอลเอามือทั้งสองข้างมายกตัวเองไปนั่งบนตักพี่ไว้

“ง่า พี่ชาน อย่าทำอะไรน้องแบคเลยนะ” พูดแล้วก็หันหน้าไปอ้อนสักหน่อยเผื่อพี่เขาจะเห็นใจบ้าง

ใครมาเห็นแบคฮยอนตอนนี้คงไม่เชื่อว่าเป็นคุณแบคฮยอนหัวหน้าฝ่ายการตลาดแน่ๆ เจ้าตัวกำลังเบะปากงอนขึ้นจนเกือบชิดจมูกโด่งรั้น สองขาก็นั่งขัดสมาธิดิ้นไปมาอยู่บนตัวแฟนร่างใหญ่อย่างชานยอลไม่หยุด เรียกให้คนที่รองรับน้ำหนักแม่หมูแทบทนไม่ไหว ขืนปล่อยให้นั่งนานกว่านี้มีหวังกางเกงคับพองแน่ๆ

ชานยอลก็เลยจับคนดื้อมานั่งที่เดิมแต่เพราะแบคฮยอนดิ้นไปมา คนพี่ก็เลยเสียหลักล้มทับคนน้องซะงั้น

ก็อย่างที่บอกไว้ต้นเรื่องน่ะ

เคยคิดว่าคนเราจะเขินอายกับคนที่เรียกว่าแฟนสักเท่าไหร่กัน?

แบคฮยอนก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะสักเท่าไหร่ แต่บอกได้แค่ว่าตอนนี้น่ะเขินสุดๆ


ท่าทางตอนนี้พาหัวใจให้เต้นตึกตักไม่น้อย ชานยอลกำลังนั่งคร่อมคนตัวเล็กที่นั่งเอนหลังค่อนไปทางนอนหงายอยู่บนโซฟานุ่มของสตูดิโอ มือใหญ่ที่พยายามจับคนนั่งดิ้นยกมือเล็กๆ นั่นยกไปชูไว้เหนือหัวเหมือนกำลังจะลงโทษคนตัวเล็กจริงๆ

ตาก็จ้องตา ใจทั้งสองก็เต้นตึกตักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อชานยอลตัดสินใจทำตามกฎของนิวตันที่ว่าแรงโน้มถ่วงของโลกนั้นดึงดูดให้ทุกอย่างตกลงสู่เบื้องล่าง หรือบางทีอาจจะเป็นกฎแบคฮยอนก็ได้เมื่อใดก็ตามที่อยู่ด้วยกันจะทำให้เขาห้ามใจตนเองไม่ได้สักที

จูบละมุนจูบแรกหลังเป็นแฟนกันจึงถูกประทับลงกับปากน้อยด้วยแรงสิเน่หาอันห้ามไม่อยู่ของชานยอลต่อแบคฮยอนตัวน้อยใต้ร่าง

มือใหญ่ที่เคยจับมือน้อยชูเหนือหัวตอนนี้ละทิ้งหน้าที่มาจับตรงท้ายทอยคนสวยเพื่อยกหน้าอีกคนให้ได้รับจูบอย่างถนัดขึ้นแล้ว มืออีกข้างก็กำลังตีกับแรงนิวตันเพื่อค้ำตัวเองไม่ให้ทับคนตัวเล็กทั้งหมดพลางขาทั้งสองข้างก็คุกเข่าเมื่อต้องยึดตัวเองไว้ไม่ให้ทาบทับส่วนล่างกับคนตัวเล็กไม่งั้นอารมณ์เตลิดไปไกลห้ามไม่อยู่แน่ๆ

แต่กลายเป็นแบคฮยอนรุกเขาด้วยการพยายามเอามือซุกซนลูบขึ้นลงตรงจุดอ่อนไหวเรียกให้ใบหูแดงเป็นริ้วเพราะกำลังอดทนอย่างหนักที่จะไม่ตื่นตัวตอนนี้ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ฟังคำขอร้องในใจปาดลูบไปมาจนมือใหญ่ต้องละจากท้ายทอยมาจับมือน้อยที่วุ่นไปมาพร้อมกับถอนปากมาปรามคนดื้อ

“เดี๋ยวจุนมยอนก็มาแล้ว” ชานยอลบอกถึงข้อจำกัดที่แบคฮยอนควรจะรู้ก่อนเตลิดแต่กลายเป็นเขาเองต้องโดนกระแทกใจจากคำพูดคนขี้อ้อน
“อยากอ่ะ พี่ชานไปล็อกประตูหน่อย”
“แต่...” โดนหนึ่งดอกชานยอลก็ต้องอดทนปรามกันต่อ ที่นี่ไม่มีใครก็จริงแต่เดี๋ยวจุนมยอนมาล่ะก็ได้หน้าแหกทั้งคู่แน่ๆ
“นะ แบคไม่ไหวแล้ว” ไม่พูดเปล่าจับมือคนพี่มาลูบๆ ส่วนกลางลำตัวของตัวเองด้วย จนสุดท้ายชานยอลเลยต้องไปล็อกประตูห้องเพื่อไม่ให้มีใครเข้ามา

เขาเองก็ใช่จะอดทนได้เพราะคนตรงหน้ายั่วเสียเหลือเกิน ดีหน่อยที่สตูดิโอนี้ชานยอลเข้ามาใช้บ่อยเพราะเวลาวันหยุดไม่ได้ไปไหนก็จะมาแวะหาจุนมยอนที่นี่ประจำจึงรู้ว่าถ้าล็อกจากข้างในแล้วข้างนอกจะเปิดไม่ได้

ร่างสูงเดินตรงมาหาคนตัวเล็กที่นอนหงายบนโซฟาพร้อมกับใจเต้นตึกตัก ยิ่งแบคฮยอนกำลังหน้าแดงเพราะเริ่มมีอารมณ์จากการจูบนั้นชานยอลก็รู้เลยว่าคนตรงหน้าต้องการแค่ไหน ดูแปลกไปนิดเพราะเขารู้สึกว่าแบคฮยอนดูเปลี่ยนไปนิดหน่อยหลังจากหมอบอกเป็นโรคกระเพาะ นอกจากแบคฮยอนจะบ่นว่าคลื่นไส้อาเจียนบ่อย เขาก็รู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กมีเนื้อหนันมากขึ้นกว่าปกติแถมยังเหมือนจะอารมณ์มาเร็วกว่าปกติด้วย

นี่ก็เป็นอาการของคนเป็นโรคกระเพาะงั้นเหรอ? (อาการคนท้องต่างหากพี่ชาน)

(คนท้องมักมีอารมณ์ขึ้นง่ายเพราะเลือดหมุนเวียนเยอะ ลองไปดูหนัง The back up plan นะ /) (\ )


“ไหนดูซิ ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”

เอ่ยถามคนตัวเล็กที่นอนหน้าแดงรอเขามาช่วย หลังจากนั้นชานยอลก็ก้มลงมอบจูบวาบหวามให้คนที่รออยู่อีกครั้ง มือที่รู้ทุกจุดของร่างเล็กลูบไปเจอส่วนบวมเป่งใต้กางเกงก็ค่อยใช้มือเดียวรูดซิปปลดกระดุมเพื่อปลดปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ

“อ่าส์ พี่ชาน อื้อ”

หลังจากลูบหัวแบคน้อยไปมาเพื่อเร่งอารมณ์ก็ถอนปากให้แบคฮยอนหายใจหายคอก่อน มือน้อยยกขึ้นมาซุกใต้เสื้อสเวตเตอร์สีเทาเพื่อลูบไปมาปลุกอารมณ์คนพี่ไปพลางปลดปล่อยอารมณ์ที่กำลังโดนกระทำอย่างช่ำชองทุกครั้ง

ชานยอลจะรู้จักแบคฮยอนดีเกินไปแล้วเมื่อมือใหญ่ที่คอยปรนเปรอส่วนล่างของเขาขยับไปมาราวกับรู้ว่าจังหวะไหนควรเร็วหรือควรช้า ซึ่งมันก็ทำให้แบคฮยอนต้องละมือน้อยลงมาจิกกับโซฟาเพื่อดึงรั้งร่างไม่ให้โหนโจนทะยานไปกับอารมณ์ที่ชานยอลช่วยก่อ

แต่ชานยอลเห็นว่าโซฟาของจุนมยอนอาจจะขาดคามือของแบคฮยอนได้ถ้าคนตัวเล็กของเขายังจิกเล็บเข้ากับเบาะนุ่มขนาดนี้ มือใหญ่จับค้ำตัวเองไว้จึงจับเอามือเล็กทั้งสองข้างมาคล้องคอไว้พลางเอ่ยเสียงปลอบ

“ไม่จิกโซฟานะคนดี จับหลังพี่ไว้ก็ได้”
“อะ อื้อ พี่ชาน อ๊า”

แบคฮยอนว่าง่ายอยู่แล้วเพราะพี่ชานของเขามักจะตามใจเสมอ อะไรที่พี่ชานขอเขา เขาก็จะให้อย่างเช่นการจับเสื้อสเวตเตอร์สีเทานุ่มนี้ด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นทุกขณะจนกระทั่งน้ำสีขุ่นไหลเปรอะมือคนตัวใหญ่แบบที่อีกคนแทบไม่ทันตั้งตัว แบคฮยอนจะเสร็จเร็วเกินไปแล้ว

“ไปไวเหลือเกินนะคนดี ขอพี่ชื่นใจหน่อย” จูบขมับปลอบคนที่ทะยานสู่ฟ้าด้วยมือเขาแล้วชานยอลก็ถอดกางเกงตัวเองลงไปกองระดับเข่า เขาเองก็ทนไม่ไหวแล้ว แบคฮยอนตอนนี้เหงื่อเย็นชื้นเหนอะไปทั่วตัวจนเขาได้กลิ่นหอมจางๆ ของอีกคนตลอด กลิ่นที่เขาชอบใจเสมอกลิ่นหลังการหลั่งน้ำ

แบคฮยอนก็แปลกใจเหมือนกันที่ตนเองไปไวจนแทบจะเหนื่อยหอบกับอารมณ์ที่พุ่งสูง เพราะเขาไม่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตน้อยๆ อยู่ในมดลูกซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์จากพระเจ้านามว่าชานยอลนั่นเอง การสร้างเนื้อสร้างตัวของทารกต้องการเลือดไปเลี้ยงอย่างมากจึงทำให้เขากินเยอะกว่าที่ควรแถมยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากๆ ด้วย

ที่สำคัญคือเลือดลมที่ไหลเวียนเนี่ยแหละที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ง่ายมาก ง่ายจนตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าต้องการให้ชานยอลมาเติมเต็มขนาดไหน

“พี่ชาน เข้ามาเลย อ๊า”

เสียงครางกระเส่าจากแม่เสือสาวของชานยอลชักชวนให้เขาทำตามอย่างไม่รอท่า ส่วนนั้นของเขามันแข็งขืนตั้งแต่ได้ยินเสียงของแบคฮยอนแล้ว รอก็แต่ว่าช่องทางของแบคฮยอนพร้อมรึยังเพราะเจลก็ไม่ได้พกมา แถมการหลั่งของแบคฮยอนเมื่อกี้ก็น้อยจนเอาไปใช้ช่วยไม่ได้เลย

ร่างสูงจึงค่อยๆ เสือกกายเข้าสู่จุดที่ต้องการเพราะไม่อยากให้แบคฮยอนเจ็บ แต่กลายเป็นว่าแบคฮยอนนั้นรู้สึกดีมากๆ เพราะช่องทางของเขามันสร้างน้ำได้เองและรอคอยท่ามานานแล้ว เสียงน้อยๆ จึงร้องอย่างขัดใจเมื่อพี่ชานไม่เริ่มบทรักเสียทีอย่างหงุดหงิด

“เข้ามาเลยสิ อ๊า”
“แบคเจ็บรึเปล่า” หากแต่คนเป็นแฟนก็ยังคงแสนดีอยากถนอมร่างเล็กไว้เหมือนทุกทีจนคนน้องต้องขยับเอง
“ไม่เจ็บ เข้ามาสิ อ่าส์” สุดท้ายแบคฮยอนก็เป็นฝ่ายขยับส่วนสะโพกแน่นเข้าไปให้สุดด้ามของแข็งนั่นเองโดยที่ชานยอลเกือบไม่ทันตั้งตัว แม่เสือสาวลายสก็อตของเขาจะรุกหนักไปแล้ว หลั่งไปรอบนึงยังอารมณ์พุ่งอยู่หรือไง

หากชานยอลจับความคิดของแบคฮยอนได้ก็จะรู้ว่าร่างเล็กนั้นกำลังต้องการอย่างหนักเพราะเขามีจุดปลดปล่อยถึงสองจุดในร่างกายไม่รู้ตัว ปล่อยไปรอบหนึ่งไม่ใช่ว่ามันจะสบายเสียหน่อย ยิ่งเลือดลมเดินดีแบบนี้หลายรอบก็ยังไหว

เห็นอารมณ์พุ่งแรงขนาดนี้พ่อเสือเลยยกเลิกความคิดจะถนอมแฟนของเขา แบคฮยอนโหมดต้องการรุนแรงแบบนี้เขาก็ชอบเหมือนกัน เรียกว่าตื่นเต้นที่ได้ทำกันนอกสถานที่แล้วยังตื่นเต้นในอารมณ์แรงของอีกฝ่ายด้วย

สะโพกคนพี่เลยขยับเข้าออกตามใจชอบและตามความฟิตที่เข้ายิมบ่อยๆ เรียกเสียงอู้อ้าจากคนน้องที่รองรับด้านล่างให้ดังขึ้นๆ เรื่อยๆ จนคิดว่าถ้าห้องนี้ไม่ใช่ห้องเก็บเสียงเขาคงเข้าหน้าจุนมยอนไม่ติดแหงมๆ

“อา พี่ชาน อา อ๊า แรงอีก อ๊า”

เสือกกายเข้าออกแรงกว่าปกติก็ยังไม่พอใจแม่เสือสาวอีก ร่างใหญ่เลยเอามือสอดใต้รักแร้ช้อนอุ้มคนตัวเล็กให้เข้ามากอดพลางเอาคนตัวเล็กมานั่งทับหน้าขาเขาเอาไว้ แบคฮยอนครางแรงขึ้นอีกนิดเมื่อการขยับเปลี่ยนท่ามันทำให้แท่งของชานยอลเข้ามาในร่างเขามากขึ้นกว่าเดิมอีก

“ช่วยกันขยับไหม?”

เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูพร้อมกับงับเข้าที่ใบหูน้อยนั่นทีนึงด้วยความหมั่นเขี้ยว แบคฮยอนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัวแล้วตอนนี้ในเมื่อท่อนล่างก็ติดพันกันอยู่ ส่วนด้านบนก็มีคนปรนเปรอทั้งปากทั้งคออย่างนี้ไม่หยุดหย่อน

ร่างเล็กเลยเริ่มขยับขึ้นลงเพื่อให้เกิดจังหวะกระตุ้นการปล่อยน้ำของสองฝ่าย ชานยอลเอามือจับขาทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมาเป็นตัวเอ็มของคนรักไว้เพื่อให้คนข้างบนได้มีแรงขยับได้ถนัด สองมือน้อยจับและคล้องไว้ที่ท้ายทอยเขาเรียบร้อยแล้วเมื่อแรงอารมณ์ของทั้งสองกำลังพุ่งเรื่อยๆ อย่างไร้ขีดจำกัดอย่างตอนนี้

แบคฮยอนถึงกับเอาหน้าซบลงกับไหล่ของชานยอลเมื่อการขยับของตัวเองทำให้อารมณ์พุ่งแรงแบบตั้งตัวไม่ทัน เพราะเลือดที่ไหลเวียนดีของว่าที่คุณแม่ทำให้เขาควบคุมตัวเองแทบไม่ได้เมื่อมีอารมณ์ขึ้นในเรื่องนี้ สองมือจึงเปลี่ยนจากคล้องอยู่ท้ายทอยคนรักมาจับขยุ้มไว้ที่เสื้อสเวตเตอร์ชานยอล จิกจนเกือบขาดคามือตามแรงปรารถนาที่เกือบทำขาดใจ

ชานยอลก็รู้สึกถึงแรงอารมณ์ที่พุ่งจนเกือบถึงจุดของตนเองและแบคฮยอนเหมือนกัน หากแต่เขาอยู่ด้านล่างตอนนี้จะสะดวกอะไรในการจบเกม พอแม่เสือสาวของเขาขยุ้มเสื้อสเวตเตอร์จนเกือบขาด ร่างสูงจึงตัดสินใจดันตัวเองและแฟนสุดที่รักลงสู่แรงโน้มถ่วงของโซฟาอีกครั้ง แบคฮยอนร้องอย่างขัดใจเล็กน้อยเมื่อโดนขัดจังหวะแต่เพราะเขากระแทกแทรกกายทันทีจึงทำให้อีกฝ่ายพอใจอย่างรวดเร็ว

“โอ้ อ๊า พี่ชาน อ๊า อื้อ”

เสียงครางหวานแทบทำชานยอลขาดใจตายเพราะยิ่งร้องยิ่งกระแทกหนักตาม ดีที่ช่องทางของแบคฮยอนสร้างน้ำหล่อลื่นได้เอง การชักเย่อเข้าออกของคนสองคนถึงไม่ติดขัดและปวดแสบแบบทั่วไป ไม่รู้เขาคิดไปเองรึเปล่าว่ายาโรคกระเพาะนี่ดีจริงๆ ทำให้ช่องทางมีน้ำเยอะกว่าที่คิดไว้อีก

น้ำหล่อลื่นช่วยให้สองร่างไปถึงสวรรค์อย่างรวดเร็วเมื่อชานยอลสวนกระแทกเร็วขึ้นแล้วแบคฮยอนก็กรีดร้องออกมาครั้งหนึ่ง ผ่านไปสองจังหวะชานยอลก็กระตุกร่างของตนบ้างเมื่อถึงจุดหมายเช่นกัน กิจกรรมเสียเหงื่อนี้แทบทำชานยอลขาดใจตายจริงๆ ในเมื่อฮีตเตอร์ยังทำงานให้ห้องอุ่นแต่เขากลับให้มันร้อนด้วยแรงอารมณ์และตอนนี้เหงื่อกาฬก็ไหลโทรมกาย

“อ๊า พี่ชาน สุดยอด อื่อ”
“แบคก็สุดยอดเหมือนกันที่รัก” จูบขมับเมื่ออีกคนออกเสียงชมอย่างไม่เขินอาย แบคฮยอนตอนนี้เรียกว่าน่าเอามากกว่าตอนยังไม่เป็นแฟนกันอีก ทั้งอารมณ์ของคนตัวเล็กที่ปะทุง่ายและการไปถึงจุดหมายก่อนเขาถึงสองครั้งในเวลาไม่ห่างกัน ยอมรับเลยว่าปาร์คชานยอลคนอึดคงต้องยอมแม่เสือสาวแบคฮยอนเลยเรื่องนี้เวลานี้

คิดในใจยังไม่ทันขาดคำมือสวยก็ลูบไปมาใต้เสื้อให้ใจสั่นอีกครั้ง ปากน้อยก็ขยับขึ้นมาประกบปากใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง ลิ้นเล็กตะกรุมตะกรามเข้ามารุกรานโพรงปากใหญ่ก่อนจะสำรวจไปมาอย่างชอบใจในความขี้เล่นของตน

เรียกเสียงครางในลำคอของคนพี่เมื่อคนน้องยังใช้ลิ้นและริมฝีปากตัวเองเล่นซุกซนไปทั่วแถมมือที่ไม่อยู่นิ่งก็ลูบไล้ติ่งไตใต้เสื้อชานยอลราวกับไม่เกรงกลัวอำนาจแท่งไฟขนาดใหญ่ที่ยังเสียบคาช่องทางตัวเองเลยสักนิด

จนปากเล็กผละออกจากปากใหญ่พร้อมน้ำลายของเจ้าตัวที่ย้อยยืดเพราะตักตวงไปไม่หมดปรากฏต่อหน้าชานยอลอีกที ร่างสูงก็ได้แต่เอ่ยปากถาม

“ยังไม่อิ่มเหรอคนดี”

ถามไปถึงส่วนบนส่วนล่างถามให้หมดเพราะเห็นชัดๆ ว่าด้านบนน่ะแบคฮยอนยังเข้ามาประกบปากเขาเองแถมด้านล่างก็ยังค้างเติ่งกันอย่างนี้ เดี๋ยวได้เล่นชักเย่อกันอีกรอบแน่ๆ

“ไม่อิ่มอ่ะ ชิมพี่ชานยังไงก็ไม่อิ่ม”

ตอบได้กวนบาทามากๆ ถ้าเป็นเวลาปกติคงได้กินจูบกันสักสามสี่จูบแล้วแต่นี่เวลาเข้าด้ายเข้าเข็มคงไม่วายปักสอยเย็บด้นถอยหลังกันอีกหลายยก

“งั้นเตรียมอิ่มได้เลย”

ขู่ให้เห็นภาพแต่กลายเป็นเด็กน้อยในเสื้อลายสก็อตของเขาแลบลิ้นออกมาแบบน่าหมั่นเขี้ยวที่สุดในสามโลก แถมมือที่ว่างอยู่ก็ตีก้นพี่ดังป๊าบ ท้าทายอำนาจปาร์คชานยอลใช่ไหม ได้เลยได้

มือหนาตบแก้มก้นคนในปกครองดังป๊าบเพื่อตอบแทนคำพูดแล้วหลังจากนั้นจูบจากเบื้องบนก็เริ่มต้นดำเนินเพลงรักอีกครั้ง ในขณะที่ด้านล่างก็ซ้อมแข่งโอลิมปิกกันยกใหญ่เมื่อกีฬาที่ต้องกระแทกกันถูกเอามาใส่ไว้ในตัวปาร์คชานยอลแต่จัดการแข่งขันไว้ที่ร่างแบคฮยอนไม่หยุดหย่อน

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไปสู่สวรรค์ในสตูดิโอเก็บเสียงและโซฟาราคาแพงชั้นดีนั้นทั้งสองไม่รู้เลยว่ากล้องตัวที่ตั้งไว้ด้านข้างนั้นบันทึกภาพและเสียงไว้แบบฟูลเอชดีตลอด

โดยเพื่อนสนิทนั้นลืมปิดตอนที่เดินหาแปลนเมื่อกี้ พอเขาเห็นภาพที่ส่งตรงจากกล้องมายังคอมพิวเตอร์ จุนมยอนก็ปิดหน้าจอทันที แต่ก็ไม่ปิดการทำงานของกล้อง

เอาคลิปนี้ไว้เป็นของขวัญแต่งงานของทั้งคู่แล้วกัน.... เจอกันงานแต่งนะพวก


.............................................
อิอิ ใครไปอ่าน clean ver ในเด็กดีมาแล้วบ้าง
อันนี้เวอร์กามพี่ขออภัยที่ไม่มีความหวานเลย 555
อันนี้ก็ไม่เกี่ยวกับตอนปกตินะ แค่คีพคาแรกเตอร์และความกามมาเฉยๆ
นี่จะบอกว่าอยากแต่งแนวคุณแม่อารมณ์แรงเพราะ back up plan อ่ะ
เป็นหนังที่ตลกดีนะ แต่ก็แฝงความคิดไว้หลายอย่าง ว่างๆ ไปดูกัน
ชอบก็แท็ก #ยกมดลูกให้แบค ละกันเนาะ
..............................................................................


No comments:

Post a Comment