เมียมาเฟีย
“ว้าว สวยชิบหาย” เซฮุนผิวปากเฟี้ยวก่อนจะพูดตามหลัง
เมื่อสาวสวยรายหนึ่งขึ้นรถหน้าวิลล่าฝั่งตรงข้าม ชุดราตรีสีแดงของเธอขับเน้นผิวกระจ่าง
กระโปรงยาวผ่าขาเกือบถึงสะโพกสวย ดังนั้นยามเธอก้าวขึ้นรถเฟอรารี่ที่มารับนั้นจึงมองเห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมด
“มึงก็เล่นไป เกิดมาดามรู้ว่าเราอู้
ได้ไล่ออกแน่” จงอินมองเพื่อนแล้วส่ายหัวเบาๆ แม้จะรู้สึกว่าแม่สาวนั่นน่ามองจริง
แต่ถ้าเกิดเมียเจ้านายเห็นว่ามีแม่นั่นในงาน ได้ระเบิดอารมณ์แน่
“ทางโล่งแล้ว มึงเรียกท่านเหอะว่ะ”
เซฮุนหันซ้ายหันขวาสองสามครั้งแล้วจึงพูดกับจงอินด้วยเสียงจริงจัง
“ทางสะดวก ให้ท่านลงมาได้”
จงอินกดหูฟังไร้สายแล้วพูดออกไปกับไมค์ที่ซ่อนในเสื้อพวกเขาอีกที
จงอินและเซฮุนนั้นยืนอยู่หน้าวิลล่าหลังงามแห่งหนึ่งของโรงแรม
ถัดไปคือรถยนต์เฟอร์รารี่ที่พร้อมรับ ‘เจ้านาย’ ของเขาแล้ว
ทั้งสองแต่งชุดสูทสีดำสนิท
สวมแว่นตากรอบกลมเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยฟังก์ชั่นเช่นการมองระยะไกล
ล็อกเป้าและยิงยาสลบไว้
ที่สนับเข่ามีปืนสำรองสองกระบอกและมีอาวุธลับเป็นมีดอาบยาพิษตรงปลายรองเท้าแบบโบรคส์หนังมันปลาบ
บอดี้การ์ดส่วนตัวของมาเฟียระดับโลก
แต่งกายและมีอาวุธแค่นี้ถือว่าน้อย
แต่ถ้าเทียบกับฝีมือการใช้อาวุธจากร่างกายพวกเขา
ยูโดสายดำแบบเซฮุนและคาราเต้สายดำแบบจงอินก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อไม่เบา
บนบันไดเบื้องหลังพวกเขาปรากฏร่างสูงของ
‘เจ้านาย’ ขึ้น ความสง่างามนั้นหากนับจากสูทยาวสีดำเรียบหรูมีผ้าเช็ดหน้าสีขาวเหน็บตรงกระเป๋าหน้าอก
ทับเสื้อตัวในเป็นเชิ้ตผ้าลินินสีขาวและเนคไทสีดำผ้าไหมรวมรองเท้าแบบออกซ์ฟอร์ดหนังสีดำแล้วก็ถือว่าเหนือกว่าคนทั่วไป
แต่หากรวมใบหน้าหล่อเหลา ตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสันและปากอิ่มน่าจูบแล้ว ‘เจ้านาย’ ก็ถือว่าควรจะมีบอดี้การ์ดจริงๆ
ปาร์คชานยอลหนุ่มเนื้อหอมแห่งศตวรรษเพิ่งโด่งดังในหมู่สาวๆ
ไม่นานมานี้ เพราะแม้จะโลดแล่นในโลกธุรกิจทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมานานแต่ก็เพิ่งจะยอมให้สัมภาษณ์ในนิตยสารแทบลอยด์ฉบับหนึ่งราวสามเดือนก่อนเท่านั้น
จากนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานสังคมหรืองานระดับคนใหญ่คนโตเข้าร่วม พวกสาวๆ
ในงานก็มักจะแอบมองหรือส่งสัญญาณว่าอยากจะนอนกับเขาไม่น้อยกว่าสามสี่รายเสมอ
แต่ที่บางคนไม่รู้คือชานยอลมีเมียแล้ว
และมาดามของจงอินนั้นดุมากด้วย
คืนนี้งานกาล่าการกุศลคือสถานที่ ‘คุยงานลับๆ’ สำหรับชานยอลนั่นเอง งานเบื้องหลังเช่นค้าอาวุธหรืออะไรที่ร้ายแรงกว่านั้น
พวกเขามักจะใช้งานการกุศลบังหน้าเสมอเพราะไม่มีใครคิดว่างานแบบนี้จะมีคนชั่วปะปนมาหรอกจริงไหม
“คืนนี้มาดามบอกว่าจะรอคุณกลับไปหาครับ”
จงอินรายงานจากนั้นก็ได้คำตอบเป็นการพยักหน้าของเจ้านายกลับมา แต่หากเซฮุนกลับสังเกตว่ามุมปากร่างสูงตรงหน้าเขายกขึ้นเล็กน้อย
สงสัยก่อนจะกลับไปหามาดาม ชานยอลจะต้อง ‘อุ่นเครื่อง’
กับสาวคนใดคนหนึ่งในงานนี้แน่
ที่จริงคฤหาสน์หลังงามของเจ้านายและมาดามอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
หากใช้เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวก็แค่สิบห้านาทีเท่านั้น แต่เพราะชานยอลยืนยันว่างานนี้เขาต้องไม่สาย
จึงได้มาเช่าวิลล่าที่โรงแรมไว้หนึ่งคืนก่อนงานเริ่ม เพื่อความสะดวก
มีแค่เซฮุนเท่านั้นที่รู้ว่าชานยอลกะจะพาสาวสวยสักคนในงานมา
‘จัดการ’ ที่นี่มากกว่า
พนักงานขับรถเปิดประตูให้ชานยอลเข้าไป
จากนั้นเซฮุนจึงเปิดรถอีกด้านเพื่อเข้าไปนั่งและจงอินนั่งข้างคนขับด้านหน้า
ขับรถจากวิลล่าไปถึงหน้าบอลรูมที่จัดงานแค่ห้านาที เท่านี้พวกเขาก็พร้อมทำงานแล้ว
งานกาล่าการกุศลมีผู้มาร่วมงานมากมาย
หนึ่งในนั้นคือสาวสวยชุดแดงที่เซฮุนผิวปากใส่เมื่อครู่นี้
ยามเมื่อมองจากมุมไกลว่าสวยแล้ว มันเทียบไม่ได้เลยจากมุมนี้เมื่อใกล้กว่ามากๆ
สาวสวยคนนั้นคล้ายว่าพวกเขาเคยเจอกันมาก่อนแต่เซฮุนกลับคิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
บอดี้การ์ดผิวขาวหันมามองเจ้านายชั่วครู่ก็สังเกตว่าชานยอลนั้นพอใจแม่สาวชุดแดงนั่นไม่น้อย
แม้ว่าส่วนใหญ่ชานยอลจะมองไปทางคู่ค้าทางธุรกิจซึ่งเป็นชายแก่ร่างอวบตรงหน้า
แต่เมื่อมีโอกาสกลับเหลือบมองหญิงสาวผู้โดดเด่นที่สุดในงานด้วยชุดแดงแบบตาเป็นมัน
สงสัยว่าสาวที่จะหิ้วกลับวิลล่าคงเป็นคนนี้เสียแล้ว
“มึงทำไมมองแม่สาวนั่นแล้วขมวดคิ้ววะ”
เซฮุนเอ่ยถามเพื่อนบอดี้การ์ดผิวไหม้พร้อมยักคิ้ว ในขณะที่เขามองว่าชานยอลจะหิ้วแม่สาวนั่นกลับไป
แต่จงอินกลับทำหน้าสงสัยใส่สาวชุดแดงไม่หยุด
“กูคุ้นหน้าเขา
แต่จำไม่ได้ว่าเจอที่ไหน” จงอินตอบกลับเสียงเบา
“เอ้า ก็หน้าวิลล่าไง
คนที่กูผิวปากใส่ พักอยู่วิลล่าตรงข้ามเราเว้ย”
เซฮุนพูดราวกับเยาะเย้ยในความทรงจำเพื่อน
“เออ อันนั้นกูรู้
แต่กูว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น”
สุดท้ายก็ไม่ได้สนทนากันต่อเพราะจงอินต้องโชว์ตัวอย่างสินค้าให้ลูกค้าดูก่อน
หลังการเจรจาธุรกิจเป็นไปด้วยดี
ชานยอลก็มีใบหน้าผ่อนคลายลง
เมื่อครู่นั้นทำได้แค่เหลือบมองหญิงสาวชุดแดงผ่านทางหางตาเท่านั้น รู้สึกว่าเธอคล้ายจะเชิญชวนไม่น้อย
แต่ไม่มีโอกาสยิ้มให้เลย ตอนนี้นักธุรกิจหนุ่มจึงต้องออกล่าเสียหน่อย
“เซฮุน จงอิน ถอยออกไปสามก้าวละกัน”
ร่างสูงออกเสียงสั่งลูกน้องให้ยืนห่างตนเองหน่อย
แม้ว่าทั้งสองจะสนิทและรู้ธาตุแท้เขาหมดแล้ว
แต่ว่าชานยอลก็อยากจะมีเวลาส่วนตัวในการจีบสาวสักหน่อย ไม่นับว่าจงอินนั้นสนิทกับ ‘เมีย’ เขามากด้วย
“แซนด์วิชแซลมอนที่นี่อร่อยนะครับ”
เริ่มจากเอ่ยทักพลางตักอาหารแบบพอดีคำหรือค็อกเทลวางบนจานของหญิงสาว
ซึ่งได้รับรอยยิ้มหวานกลับมาให้ใจสั่นเล่น
“ลิปสติกสีไวน์ของคุณสวยมากนะครับ”
ชานยอลจึงรีบเติมไฟโดยชมอีกฝ่ายพลางจ้องมองไปยังปากอิ่มสวย “เหมือนสีชาโตว์ไวน์ปี
1960 เลย...ไม่รู้ว่าจะหวานหอมเหมือนกันรึเปล่า”
ยิ้มส่งหลังจากเอ่ยชมก็พบว่าใบหน้าอีกฝ่ายแดงระเรื่อ
พลางทำท่าจะจากเขาไปนั่งเสียอย่างนั้น
แต่เพราะกระโปรงของหญิงสาวยาวกรอมเท้าจึงทำให้ร่างเล็กสะดุดชายกระโปรงจนเซเกือบจะล้ม
ชานยอลจึงเข้าไปชาร์จอีกฝ่ายไว้ทัน
โอบร่างอวบอัดให้เข้ามาในอ้อมกอดทันเวลาพอดี ยามนี้อกอิ่มจึงแนบชิดกับกล้ามของชานยอลจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นหนักทั้งสองฝ่าย
หญิงสาวหน้าแดงจัดพลางทำท่าจะลุกขึ้นหากแต่เมื่อครู่รองเท้าส้นสูงนั้นพลิกจนส้นหัก
จึงได้แต่หน้าเบ้พลางเอามือกุมเท้าซ้ายเอาไว้
“โอ๊ย” เสียงอุทานเบาๆ
ออกจากปากเล็กเรียกความเอ็นดูให้ชานยอลหนักขึ้น
ตอนแรกเขาคิดว่าจะคว้าน้ำเหลวเสียแล้วแต่ไม่คาดคิดว่าจะเนื้อจะเข้าปากเสือง่ายขนาดนี้
ร่างสูงจึงส่งสัญญาณให้จงอินไปเรียกรถส่วนเซฮุนมาช่วยเขาจัดการสาวสวยก่อน
มือหนารวบตัวหญิงสาวขึ้นมาอุ้มแนบอกอย่างรวดเร็วและพูดเสียงดังว่าคุณบาดเจ็บ
เดี๋ยวผมพาไปรักษา
จากนั้นก็ออกจากงานไปท่ามกลางสายตาเสียดายของหญิงสาวที่จ้องเขาตาเป็นมันและจ้องทางสาวชุดแดงด้วยความคั่งแค้นราวกับแย่งเนื้อกวางหนุ่มไปจากพวกหล่อน
แต่กลายเป็นว่าเมื่อชานยอลอุ้มร่างบางออกจากงานมาถึงหน้าประตูก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
เสียงปืนดังขึ้นแล้วรถเฟอรารี่ที่มารับเขาก็ล้อแตกไปหนึ่งวงทันที
ชานยอลจึงต้องวางหญิงสาวให้ยืนด้วยขาตัวเองก่อนจะโอบกอดเธอไว้ เขาหยิบปืนที่อยู่ในอกเสื้อออกมาเตรียมพร้อมระหว่างรอจงอินระบุว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นอยู่ตรงไหนและเป็นใคร
ร่างสูงแปลกใจไม่น้อยที่สาวร่างบางยกปืนมาจากต้นขาด้านในซึ่งถูกชุดราตรีบดบังไว้
ชานยอลขยิบตาให้สาวสวยหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยชม “คุณก็รู้วิธีป้องกันตัวเองไม่เบา
แบบนี้ผมชอบ”
หญิงสาวไม่ตอบแต่ยิ้มแหยให้เขาพลางหน้าแดงอีกครั้ง
หลังจากจงอินเข้ามาบอกชานยอลที่หลบมุมกับสาวสวยชุดแดงว่าลูกปืนมาจากคู่แข่งทางธุรกิจของเขา
ซึ่งตอนนี้เซฮุนเรียกกำลังเสริมแล้ว
มาเฟียหนุ่มจึงพยักหน้าพลางสั่งให้ลูกน้องคุ้มกันเขากับหญิงสาวตัวเล็กออกงานอย่างปลอดภัยด้วย
จงอินเหลือบมองปืนในมือหญิงสาวที่ส่งยิ้มเป็นมิตรให้เขาด้วยความประหลาดใจ
แต่ไหนแต่ไรหญิงสาวที่ชานยอลแอบควงมักจะอ่อนหวานเรี่ยวแรงน้อย
เรียกว่าไม่เคยสร้างปัญหาหลังร่วมเตียงจบแต่สาวชุดแดงคนนี้กลับมีปืนซ่อนไว้ด้วย
มันจะมีปัญหาภายหลังไหมเนี่ย
บอดี้การ์ดผิวแทนพยักเพยิดไปทางหญิงสาวให้ชานยอลเห็น
ซึ่งก็ได้คำตอบกลับมาทางสายตาว่าชานยอลเอาอยู่ เท่านั้นลูกน้องที่ดีก็เลยไม่ถามต่อ
กดหูฟังส่งสัญญาณไปทางเซฮุนทันที
เมื่อได้ยินว่ากำลังเสริมพร้อมแล้ว ชานยอลจึงออกจากหลังเสา
จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังรถที่มารับ
เสียงสาดกระสุนระหว่างพวกเขาและฝ่ายตรงข้ามดังขึ้น
แม้กำลังเสริมจะสกัดกระสุนที่พุ่งมาทางชานยอลได้เกือบทั้งหมด
แต่ก็มีไม่น้อยที่ฝ่าเข้ามา
เจ้าพ่อมาเฟียจึงใช้ปืนคู่ใจยิงสกัดก่อนเข้าร่างหญิงสาวข้างตัว
เขากังวลว่าเธอจะหวาดกลัวหรือไม่ แต่เมื่อมีกระสุนนัดหนึ่งอยู่นอกวิถีที่เขาจะสกัดได้
ก็พบว่ากระสุนจากปืนกระบอกเล็กนั้นช่วยเขาไว้
สาวชุดแดงสามารถสกัดกระสุนฝ่ายตรงข้ามให้เขาได้ด้วย
เห็นแววตาไม่กลัวใครจากเธอแล้วชานยอลยิ่งถูกใจ ถ้าได้บดขยี้สาวงามใจเด็ดอย่างนี้
คืนนี้เขาอาจจะหาข้ออ้างไม่ไปพบ ‘เมีย’ ก็ได้
วิ่งกันมาเกือบถึงประตูรถก็พบกับชายในชุดไอ้โม่งหลายคนกระโดดมาขวาง
เซฮุนจัดการพวกนั้นด้วยยูโดและจงอินก็จัดการด้วยท่าต่อสู้ของวิชาคาราเต้ทันที
แต่เพราะจู่ๆ พวกนั้นก็เฮโลเข้ามาเป็นยี่สิบคนได้
ชานยอลจึงต้องให้หญิงสาวหลบอยู่ด้านหลังแล้วก็ใช้ตัวเองเป็นโล่มนุษย์
เตะต่อยพวกนั้นด้วยมวยไทยที่เขาถนัดจากนั้นก็คอยระวังหลังด้วย
ไอ้โม่งไม่กลัวตายล้มลงทีละคน
จากตอนแรกยี่สิบรุมสี่ก็กลายเป็นเหลือไม่กี่คน
ชานยอลย่ามใจจึงปล่อยให้บอดี้การ์ดจัดการที่เหลือ
คาดไม่ถึงว่าจะมีคนหนึ่งอาศัยตอนเขาเผลอต่อยเข้ามาที่ชานยอลอย่างแรงจนทรุด
จากนั้นก็ลากหญิงสาวซึ่งหลบด้านหลังเขาไปเป็นตัวประกันจนได้
ไอ้โม่งนั่นเอาแขนสกปรกของมันล็อกคอสาวชุดแดงเสียจนเธอแทบหายใจไม่ได้
ปืนในมือเธอดันถูกใช้เป็นอาวุธจี้ไปยังศีรษะของเธอเอง
ชานยอลเมื่อลุกขึ้นและเห็นภาพนั้นก็สบถออกมาอย่างหัวเสีย
“บ้าเอ๊ย!”
จงอินกับเซฮุนจัดการไอ้โม่งคนอื่นได้แล้วจึงค่อยมาสนใจหญิงสาวและไอ้โม่งคนสุดท้ายด้านหน้า
“อย่าเข้ามานะเฟ้ย
ไม่งั้นยัยนี่ตายแน่” ไอ้โม่งพูดพร้อมกับล็อกคอหญิงสาวหนักขึ้น
ทำเอาใบหน้าสวยแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
“ปล่อยผู้หญิงซะ”
ชานยอลตะโกนใส่เจ้านั่นด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว แม้ว่าจะมีกำลังเสริมที่คอยเล็งสไนเปอร์ให้พวกเขาอยู่
แต่ก็ยิงมันไม่ได้เพราะอาจพลาดโดนหญิงสาวเข้า สร้างความหงุดหงิดให้ชานยอลมากนัก
“ปล่อยให้โง่สิวะ” ไอ้โม่งตอบกลับ
“วางปืนลงกับพื้นให้หมด ไม่งั้นยัยนี่ตายแน่”
มันยังขู่กลับเมื่อเห็นว่าชานยอลไม่กล้ากระทั่งเข้ามาใกล้
มาเฟียหนุ่มส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดวางปืนในมือลงกับพื้นแล้วตนเองก็วางตาม
เขาทำเป็นยอมให้มันก่อนเผื่อเจ้านั่นจะบ้าคลั่งเพราะพวกของมันลงไปกองบนพื้นหมดแล้ว
“ดีมาก เท่านั้นแหละ”
ไอ้โม่งได้ทีก็ขยับมาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ
ส่งผลให้ชานยอลและบอดี้การ์ดทั้งสองต้องถอยร่นไปข้างหลัง
จากนั้นเมื่อมันพยายามก้มลงเก็บปืนที่พวกเขาวางไว้
เจ้านายหนุ่มก็ออกคำสั่งทางสายตาให้จงอินและเซฮุนพุ่งเข้าชาร์จไอ้โม่งทันที
แต่ชั่วขณะที่ทั้งสองกำลังพุ่งตัวไปนั้น
ก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก
หญิงสาวที่คล้ายอ่อนแรงเพราะโดนล็อกคอจนหายใจไม่ออกนั้น
อาศัยจังหวะที่ไอ้โม่งก้มตัวเช่นเดียวกัน
ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาเป็นมุมตั้งฉากส่งให้เท้าข้างขวากระแทกใบหน้าตรงคางคนร้ายอย่างรวดเร็ว
จากนั้นอาศัยช่วงที่ไอ้โม่งกำลังมึน ใช้แขนสองข้างงัดให้แขนที่ล็อกเธอนั้นง้างออก
จากนั้นก็หมุนตัวกลับง้างหมัดหนักซัดเข้าท้อง คนร้ายคนสุดท้ายจึงทรุดลงก่อนจะโดนเธอใช้ส้นสูงกระทืบซ้ำจนจุกและสลบไปเลย
สามหนุ่มที่กำลังคิดว่าจะเข้าช่วยหญิงสาวพากันชะงักค้างแข็งกันทั้งหมด
จวบจนกำลังเสริมซึ่งขับรถคันใหม่มาเรียกพวกเขา
ชานยอลจึงกุมมือสาวชุดแดงให้วิ่งจากนั้นก็ขึ้นรถกลับเซฟเฮาส์กันอย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงเซฟเฮาส์
อย่างแรกที่ชานยอลเช็คกับทางบ้านคือถามสายสืบของเขาว่า ‘เมีย’
อยู่ในบ้านใช่ไหม เมื่อได้ยินคำตอบว่าใช่ แถมอาจจะเข้านอนแล้วด้วย ชานยอลจึงโล่งใจ
หันมายิ้มให้หญิงสาวข้างตัวซึ่งได้รับยิ้มหวานตอบอย่างรวดเร็วทันที
“คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณจะเก่งขนาดนี้
บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
น้ำเสียงนุ่มเอ่ยถามพลางใช้ทักษะมือปลาหมึกจับนั่นจับนู่นจนหญิงสาวหน้าแดงก่ำ
หากแต่เธอกลับไม่ปฏิเสธหรือหลบหนีเขา อย่างนี้น่าจะใช้ได้
แม้หญิงสาวไม่ตอบแต่ชานยอลจำได้ว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายเท้าแพลงจึงพาไปนั่งโซฟาในห้องนอนแขก
จากนั้นก็หากล่องยามาปฐมพยาบาลด้วยการทายาแก้ปวดให้
หญิงสาวไม่ปฏิเสธใดๆ
พาให้ชายหนุ่มย่ามใจ
หลังจากเขาก้มลงทายาตรงข้อเท้าสวยนั่นแล้วก็พบว่าใบหน้าของเธอกำลังก้มมาหาเขาพอดี
จึงได้ขยับไปใกล้
ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจจากนั้นก็ทดลองเข้าใกล้ให้มากกว่าเดิมด้วยการประกบปากสีไวน์นั้นดู
จูบเบาๆ หนึ่งครั้งก่อน
เมื่อไม่มีการปฏิเสธชานยอลจึงจูบอีกครั้งพร้อมใช้แรงนั้นดันอีกฝ่ายให้ขยับใบหน้าไปข้างหลังหน่อย
ได้ผลไม่น้อยเมื่อหญิงสาวโอนอ่อน
จูบแล้วถอนออกสักสองสามรอบเขาก็เริ่มดีพคิสแล้วค่อยๆ
ดันร่างเล็กนั่นให้นอนราบลงเตียงไปทีละน้อย
ลิ้นหนาส่งเข้าไปกระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กเพื่อดำเนินกระบวนการผูกเงื่อนสัมพันธ์เสียก่อน
ภายหลังเมื่อน้ำหวานจากหญิงสาวส่งให้เขาเคลิบเคลิ้ม
ชานยอลจึงถอนปากออกมาหนึ่งครั้ง พักหายใจเล็กน้อยก่อนจะจูบดื่มด่ำอีกรอบ
ขบกัดริมฝีปากสวยให้สีไวน์นั้นเข้มขึ้น เมื่อรู้สึกว่าได้รับอนุญาตให้ทำมากกว่าจูบได้จึงเริ่มไล่ขบเม้มจากปลายคางมาตรงคอและไหปลาร้าสวย
มือข้างหนึ่งค้ำยันตัวเองและข้างหนึ่งรูดซิปชุดสีแดงออกจากเรือนร่างอวบอัดทีละน้อย
ยกทรงลายลูกไม้สีแดงเพลิงปรากฏต่อสายตาพร้อมเนินอกแน่นทำให้ชานยอลสติกระเจิง
หากแต่เมื่อเขาปลดชั้นในสีแสบตานั้นออกไปแล้ว กลับพบว่ามันมีอะไรแปลกไปเล็กน้อย
ยอดปทุมถันที่ควรจะมีสีชมพูสวยกลับมีสีซีดเหลือง
สัมผัสราวกับพลาสติกหยุ่นๆ ไม่เหมือนเนื้อคนสักนิด หลังจากรับรู้
ชานยอลก็ผงะเล็กน้อย
“อะเอ่อ หน้าอกคุณ”
ชานยอลพยายามจะถามแต่กลายเป็นว่าโดนหญิงสาวกดใบหน้าให้จมลงกับเนื้อหยุ่นราวกับซิลิโคนนั่น
“ทำไมล่ะคะ”
น้ำเสียงหญิงสาวถามออกมาดูคล้ายคนดัดเสียง
ชานยอลกำลังจะตอบแต่ก็โดนกดหน้าจมอกปลอมจนพูดไม่ได้
“อกซิลิโคนมันไม่หนึบติดมือเหมือนนางแบบแม็กซิมคนก่อนงั้นเหรอ?”
ชานยอลอึ้ง เจ้าหล่อนรู้ได้อย่างไรว่าหญิงสาวที่เขาคั่ว ไม่สิ เกือบจะได้กินตอนนั้นเป็นนางแบบแม็กซิม
ก็ในตอนนั้นมัน...
“สงสัยใช่มั้ยคะที่รัก
ว่าฉันรู้ได้ยังไง หืม”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงดัดแปลงอย่างเห็นได้ชัดและยังคงจับหน้าเขาให้ฟุบลงกับอกอวบ
เหลือแค่ตากับจมูกไว้หายใจฮึดฮัดด้วยความหงุดหงิด
“ก็ฉันเป็นคนจับยัยนั่นได้คาหนังคาเขาคาเตียงคุณยังไงล่ะ”
คราวนี้เสียงเธอไม่ดัดจริตอีกต่อไปแล้ว กลายเป็นน้ำเสียงไม่แหลมไม่ทุ้ม
เอกลักษณ์คล้าย ‘เมีย’ ของเขามากๆ
เมื่อมือสวยนั้นปล่อยเขาออก
ชานยอลก็สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “บะ แบคฮยอนงั้นเหรอ?” ถามอย่างไม่แน่ใจนักเพราะมาดามเมียนั้นได้ข่าวว่านอนไปแล้วนี่!
“เออสิ ผัวเจ้าชู้ เมียไม่อยู่ด้วยแค่วันเดียวทำเป็นออกลาย
กล้าพาสาวแปลกหน้ามานอนเซฟเฮาส์ ได้เห็นดีแน่!” แบคฮยอนตวาดเพราะเหลืออด
จากนั้นก็เริ่มเกมวิ่งไล่จับกับมาเฟียหนุ่มทันที
แรกเริ่มชานยอลวิ่งไปทางประตูแต่ก็พบว่าถูกล็อกจากข้างนอก
แย่เสียแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงพยายามดึงประตูให้เปิดออกแต่ก็ทำไม่ได้
“อย่าหวังซะให้ยาก จงอินล็อกไว้แล้ว”
แบคฮยอนตะโกนใส่ จากนั้นก็อาศัยช่วงชานยอลเผลอ
จับอีกฝ่ายบิดข้อมือขวางัดมาไพล่หลัง ใช้เข่าซุกเข่าร่างสูงให้เสียหลัก จากนั้นก็งัดมือซ้ายมาบิดก่อนจะงัดมาไพล่หลังอีกข้าง
ตอนนี้ชานยอลเลยมีสภาพกึ่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าแบคฮยอนพร้อมสองแขนไพล่หลังแบบขยับไปไหนไม่ได้
“ยอมรึยัง ห๊ะ
ถ้าไม่ยอมจะหักข้อมือแม่ง”
ขู่ด้วยเสียงเหี้ยมอย่างที่เคยและบิดข้อมือให้หนักขึ้นจนชานยอลครางด้วยความเจ็บ เจ้าพ่อหนุ่มใช่จะไม่รู้ว่าเมียตัวเองสามารถทำได้หรือไม่
เพราะแบคฮยอนเป็นถึงฮับกิโด้สายดำระดับอาจารย์ แถมยูโดก็สายดำเช่นกัน
ไม่รวมคาราเต้ที่ไม่รู้ว่าจงอินสอนถึงขั้นไหนแล้ว
ชานยอลนึกถึงตรงนี้แล้วก็อยากเขกหัวตัวเองอย่างแรง
เขาน่าจะรู้นานแล้วว่าท่าที่สยบไอ้โม่งเมื่อครู่นี้มันเมียเขาชัดๆ
ไม่น่าหูตามืดบอดอยากจับนมเด้งดึ๋งจนลืมท่าเมียเล้ย
“พอแล้วจ้ะ เมียจ๋า ยอมแล้ว”
เอ่ยเสียงอ่อย จากนั้นก็รู้สึกถึงแรงตรงข้อมือมันลดลงจนเขาหายปวด
พอหลุดจากมือเมียแล้วชานยอลก็กอดขาแบคฮยอนพลางร้องขอโทษทันที
“ผัวผิดไปแล้วจ้า เมียอย่าโกรธน้า” ชานยอลกอดขาเมียรักพร้อมกับพรมจูบขาเรียวจนแบคฮยอนใจอ่อนไปครึ่งหนึ่ง
ร่างเล็กในชุดสีแดงคิดหาวิธีจัดการผัวเจ้าชู้พลางทบทวนว่าตอนแรกตนเองกะจะเนียนแต่งหญิงมาสอดส่องเสียหน่อยว่าชานยอลจะหิ้วสาวคนไหนกลับไปนอนกก
แบคฮยอนจึงได้พยายามหลบจากชานยอล ตอนชานยอลเข้ามาตักอาหารให้เขายังอึ้งจนไม่รู้จะตอบอย่างไร
แต่หลังจากอีกฝ่ายเข้ามาช่วยรับไว้ตอนกำลังจะล้ม
แบคฮยอนก็รู้ว่าต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว จึงได้ยินยอมไปกับสามีด้วยดี
กะว่าจะมาจัดการผัวตัวดีที่ชอบพาสาวมาแอบคั่วในโรงแรม
มันก็ผิดแผนไปหน่อยตรงที่ชานยอลกลับมาจีบตนเองซะอย่างนั้น แบคฮยอนเลยใจอ่อน
อย่างน้อยคนที่ชานยอลพามาคราวนี้คือตนเอง เขาจะไม่โกรธก็ได้
แต่ก็ต้องลงโทษเสียหน่อย
“นี่แน่ะ”
พอคิดว่าจะลงโทษเลยเอามือหนีบหูพ่อตัวดีให้ลุกขึ้นมา
เล่นเอาชานยอลร้องจ๊ากก่อนจะลุกขึ้นตามโดยดีให้แบคฮยอนไม่เปลืองแรงมาก
“โอย เจ็บ”
ชานยอลครางแล้วร้องว่าเจ็บเพื่ออ้อน แต่เหมือนจะคิดผิดถนัดเมื่อเมียรักไม่เล่นด้วย
“ไหนตอบมาซิว่า
คราวหน้าจะพาสาวที่ไหนไม่รู้มานอนกกอีกไหม”
แบคฮยอนปั้นเสียงดุแล้วถลึงตาพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขณะพูด
“ไม่ละจ้า มีเมียรักคนเดียว
ขนาดแต่งหญิงพี่ยังเลือกน้องเลย”
ชานยอลตอบพลางเอามือไปทำเครื่องหมายเอ็กซ์เพื่อแคนเซิลคำตอบไว้ในใจ
คราวหน้าคือไม่ให้รู้ต่างหากเล่า
“หึ ทำเป็นพูดดี
ที่แท้จำไม่ได้ต่างหากถึงได้พามาน่ะ ใช่มั้ย!” คนที่ยังไม่หายโกรธเท่าไหร่พูดเสียงดังใส่จำเลยจนต้องร้องจ๊าก
เพราะตอนแบคฮยอนพูดว่า ‘ใช่มั้ย’ เจ้าตัวก็ยกเท้ามากระทืบชานยอลด้วย
“จำได้สิ
พี่จำเมียได้แต่พี่แกล้งอำเท่านั้นเอ๊ง”
ชานยอลรีบเอาตัวรอดก่อนแม่เสือฮับกิโด้สายดำจะกระทืบเท้าเขาจนกระดูกหักเสียก่อน
“เห็นมั้ยว่าเมื่อกี้แบคพูดมาประโยคเดียว พี่ก็จำได้แล้ว”
“แน่นะ”
แบคฮยอนเริ่มใจอ่อนเมื่อเห็นตามคำพูดพ่อตัวดี
ยอมรับว่าช่างแต่งหน้าที่จ้างมาค่อนข้างจะเก่งในการดัดแปลงเพราะเคยเป็นช่างแต่งหน้าของฮอลลีวู้ดมาก่อน
ขนาดเขาเองยังแอบงงไปเลยว่าแม่สาวชุดแดงปริศนานี่คือใคร เจ้าตัวยังไม่รู้
จะให้ชานยอลรู้แต่แรกคงไม่ใช่
“แน่สิ ยกโทษให้พี่นะ” พอเมียใจอ่อน
ชานยอลก็ไม่ทิ้งโอกาส รีบเข้ามาใช้จังหวะนั้นหอมแก้มน้องสักหน่อย
ฟอด!
“แบคฮยอนน่ารักขนาดนี้
ผมจะไปมีคนอื่นได้ยังไง” ถือโอกาสเมียอยู่นิ่ง ชานยอลก็เข้ามากอดมาหอมทันที อืม
ที่จริงตัวแบคฮยอนก็หอมอยู่แล้ว แต่นี่ไม่รู้ใครพรมน้ำหอมให้
รู้สึกน่ากินกว่าเดิมอีก
คิดในใจไม่สู้ทำเลย พอคิดว่าแบคฮยอนน่ากิน
มือปลาหมึกก็พยายามลูบไปมาใต้ชุดกระโปรงไม่หยุด
พอเจอจุดยุทธศาสตร์ซึ่งแบคฮยอนจับมันซ่อนไว้ใต้กระโปรงก็ลูบนิด
รู้สึกเหมือนขนาดขยายตามแรงมือก็ลูบจนเมียรักเริ่มครางเข้าให้
“อา... ปาร์คชานยอล! ฉวยโอกาสนักนะ อื้อ”
แบคฮยอนพยายามห้ามแต่ก็กลายเป็นว่าคล้ายกำลังยุ
เมื่อชานยอลเริ่มใช้มือเดียวฉีกถุงน่องที่รัดจุดกลางกายคนรักออก
อันเดอร์แวร์ที่เขาเคยปลดได้ง่ายก็ปรากฏให้เห็น ชานยอลจึงค่อยๆ
ล้วงเข้าไปด้านในแล้วล้วงจับนั่นนี่ด้วยความเคยมืออย่างรวดเร็ว
ตอนนี้แบคฮยอนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อชานยอลถืออภิสิทธิ์สามีเข้ารุกจุดกลางตัวอย่างฮึกเหิม
เล่นเอาความคิดจะลงโทษอีกฝ่ายหายไปเกือบหมด
แต่ถ้าปล่อยไปง่ายอย่างนี้คนรักก็จะเคยตัวแล้วอาจจะหิ้วสาวหลบเขาอีก
มือเล็กเลยจับมือใหญ่ให้หยุดก่อน แล้วพูดเสียงนุ่ม
“ใจเย็นที่รัก”
แล้วปากเล็กก็หันไปประกบปากใหญ่
ก่อนมือสวยจะกลายเป็นฝ่ายเริ่มจับท่อนไม้อันใหญ่ของชานยอลก่อนบ้าง
ชานยอลนั้นคิดว่าเมียรักให้อภัยแล้วเพราะถูกรุกจูบและจับเอง
จึงยอมถอยไปนั่งลงบนเตียงโดยมีแบคฮยอนนั่งบนหน้าขาเอาก้นงอนบดเบียดท่อนซุงของเขาและมอบจูบวาบหวามสไตล์แบคฮยอนให้
ก่อนจะรู้ตัวอีกทีว่ามือแบคฮยอนไล้ไปตามแขนเขาทั้งสองข้างจากนั้นไขว้ไว้ด้านหลังแล้วล็อกด้วยกุญแจมือซะอย่างนั้น!
“ที่รัก! ใส่กุญแจมือผมทำไมเนี่ย”
ชานยอลท้วงแล้วก็เสียหลักนอนลงเตียงมองเมียรักที่ยังนั่งอยู่บนหน้าขาเขาไม่ขยับไปไหน
“หึ คิดเหรอว่าจะให้อภัยง่ายๆ”
ว่าไม่พอ แบคฮยอนยังบดเบียดก้นลงมาให้กางเกงชานยอลคับพองไปหมด
“อาส์ เมียจ๋า
ทำอย่างนี้ไม่ไหวนะครับ” ชานยอลพยายามเอาน้ำเย็นลูบ
“รอตรงนี้ก่อน”
แต่แบคฮยอนกลับบอกให้เขารอก่อน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำไปเป็นนาน
ระหว่างที่รอ ชานยอลพยายามจะแกะกุญแจมือด้วยอุปกรณ์ลับที่เขาเก็บไว้ใต้เสื้อ
แต่เสียงจากห้องน้ำก็ทำให้เขาต้องอยู่นิ่งๆ จนได้
“ถ้าคิดจะถอดกุญแจมือเอง
รับรองว่าได้นอนนอกห้องเดือนนึงแน่ๆ” เสียงขู่นั้นดูคล้ายจะไม่ใช่เล่นๆ
ชานยอลจึงได้พยายามนอนนิ่งรออีกฝ่ายแม้ว่าน้องชายร่วมกางเกงมันจะยังไม่ลดขนาดจนรู้สึกอึดอัดก็ตาม
จนเวลาผ่านไปเกือบสิบนาที
ร่างเล็กที่คุ้นเคยจึงออกจากห้องน้ำในที่สุด ซิลิโคนหน้าอกปลอมหายไปแล้ว
เหลือเพียงอกแบนๆ
พร้อมนมหวานเย็นสีชมพูที่ชานยอลชอบและบ็อกเซอร์ลายสุพรีมยี่ห้อโปรดของเมียเท่านั้น
แถมด้วยผมเปียกจึงทำให้ร่างกายส่วนบนของแบคฮยอนมีน้ำหยดนิดหน่อย
ดูแล้วเซ็กซี่กว่าอกแน่นเต่งตึงของแม่สาวชุดแดงจำแลงนั่นเสียอีก
พาให้กางเกงที่ยังไม่ยุบของชานยอล
พองขึ้นอีกนิดเสียด้วยซ้ำ
“เสร็จแล้วเหรอจ๊ะ”
น้ำเสียงโอนอ่อนสุดๆ ส่งไปให้เมียรัก
พร้อมสายตาเว้าวอนอ้อนเพราะอยากจับต้องอีกคนมากกว่าโดนจับให้นอนเตียงแบบนี้
“อือ” แต่แบคฮยอนกลับไม่ใจอ่อนตาม
เนื่องจากตอนถอดซิลิโคนที่ใช้ปลอมตัวนั้นมันเจ็บไม่ใช่น้อย ชุดราตรีก็ถอดยาก
ถ้าไม่ใช่ว่าชานยอลรูดซิปลงกว่าครึ่ง เขาคงถอดออกไม่ได้เอง นั่นทำให้หงุดหงิดขึ้นนิดๆ
เมื่อคิดว่าต้องทำตัวลำบากเพราะความเจ้าชู้ของใคร
“ปล่อยผัวได้รึยัง” ชานยอลไม่ยอมแพ้
ถามมาอีกครั้ง
“ไม่ปล่อย
ให้กางเกงคับตายอยู่นั่นแหละ” ร่างเล็กใช้ผ้าขนหนูซับผมเปียกอย่างไม่แยแสสักนิด
ต้องแกะวิกออกแล้วล้างเจลเหนียวๆ ออกอีก แบคฮยอนหงุดหงิดนัก
จากเมื่อกี้เหมือนจะใจอ่อนนิดหนึ่งก็พาลโกรธขึ้ง
“โธ่ ผมผิดไปแล้ว
อย่าปล่อยให้ผมทรมานเลยนะ” คนทำผิดพยายามอ้อนอีกครั้ง
ไอ้น้องชายใต้กางเกงนี่มันพยศหนักแล้ว
เห็นเมียรักกับหัวนมชมพูเข้าหน่อยฮึกเหิมกว่าเมื่อกี้อีก
“งั้นสัญญาก่อนว่าจะไม่พาสาวอื่นมาอีก
ถ้าเจอล่ะก็... เลิกกัน!”
แบคฮยอนประกาศกร้าว
“ไม่ทำแล้ว สัญญาเลย”
“ห้ามแอบทำแบบไม่ให้จับได้ด้วย เพราะยังไงคุณก็จะโดนจับได้ตลอด
จำไว้!”
คราวนี้แบคฮยอนไม่พูดเปล่า
เอาอกเปลือยมาล่อถึงตรงหน้าแล้วเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อบิดข้อมือชานยอลขู่อีกครั้ง
เล่นเอาคนเป็นพี่กลืนน้ำลายเอื้อก ก่อนจะพูดละล่ำละลัก
“ไม่แอบแล้ว ปล่อยพี่เถอะนะ”
“รู้รึเปล่าว่าปลอมตัวมันเหนื่อย
แถมยังต้องช่วยสู้กับคู่แข่งอีก” ร่างเล็กยังบ่นเรื่อยๆ
“ให้พี่ทำอะไรชดเชยก็ได้”
ชานยอลจึงง้อสุดฤทธิ์
“แน่นะ”
“แน่สิ”
“ถ้างั้น...” แบคฮยอนแสยะยิ้มก่อนจะเดินไปสวมเสื้อและกางเกงให้ตนเองแล้วหยิบอุปกรณ์บางอย่างซึ่งซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าออกมา
เอาสิ่งนั้นสวมให้สามีที่รัก
จากนั้นแต่งตัวนิดหน่อยก็พาออกไปข้างนอกเมื่อจงอินมาปลดล็อกห้องให้เรียบร้อย
“อุปส์ เจ้านาย”
จงอินนั้นเมื่อเห็นสภาพเจ้านายในกำมือมาดามถึงกับกลั้นขำไม่ไหว
สภาพสวมแค่กางเกงบ็อกเซอร์ลายการ์ตูนโดเรม่อนและหูแมวหางแมวพร้อมปลอกคอนั้น
ทำเอาชานยอลคล้ายแมวเชื่องๆ ตัวนึงเลย
“จงอิน! ห้ามขำนะ”
ชานยอลทำเสียงดุก่อนจะโดนสายตาพิฆาตหันมาจัดการเสียอยู่หมัด
“บอกให้เป็นแมวไง ร้องเหมียวๆ สิ
มาพูดภาษาคนได้ยังไง” แบคฮยอนดุ
“เมี้ยวๆ”
ชานยอลจำต้องทำอย่างขัดเมียไม่ได้ ตอนนี้น้องชายใต้กางเกงเต้นตุบๆ แล้ว
เขาไม่อยากอึดอัดตาย แค่เจอจงอินนี่จิ๊บๆ เขาทนได้
“ดีมากเจ้าเหมียว
ฉันไปเดินเล่นก่อนนะจงอิน” ว่าแล้วคุณนายของบ้านก็เดินจากไป
แม้ว่าจะเป็นเซฟเฮาส์แต่ก็มีคนรับใช้ที่ไว้วางใจอยู่เฝ้าและคอยบริการอยู่ไม่น้อย
แถมทุกคนก็ถูกคัดสรรมาพิเศษ
เมื่อพวกเขาทราบว่าเจ้านายและมาดามยังไม่นอนจึงยังไม่นอนเช่นกัน
ออกมาสักพักก็มีเมดสาวยืนรอคำสั่งแบคฮยอนเรียงเป็นแถบ
แต่ละคนเมื่อเห็นเจ้านายในสภาพน้องเหมียวต่างพากันหน้าแดงหมด
“ว่าไง
เจ้าเหมียวน้อยของฉันน่ารักไหม” แบคฮยอนลากคอชานยอลออกมายืนกลางโถงชัดๆ
ก่อนจะพูดกับสาวรับใช้ราวกับเอาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาอวด เมื่อเมดสาวเห็นมาดามถาม
จึงได้เงยหน้ามาตอบแต่ก็พบกับบ็อกเซอร์โดเรม่อนที่จมูกนูนผิดปกติ คนที่ยังสาวอยู่ก็ก้มหน้าหลบอีกครั้ง
อีกส่วนเป็นป้าวัยแก่ก็กลั้นหัวเราะมอง ‘ชานยอลน้อย’ แบบไม่ปิดบังแล้วตอบขำๆ
“น่ารักดีเจ้าค่ะ
โดยเฉพาะโดเรม่อนน้อย”
แม้จะรู้ว่าป้าเมดนั้นพูดแซวเล่นแต่ชานยอลก็หน้าม้านไม่น้อย
“พูดได้ดี ป้าแมรี่ใช่มั้ย
พรุ่งนี้ไปเอาของรางวัลที่ห้องฉันนะ” แบคฮยอนหัวเราะ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มสวย
เล่นเอาเมดสาวที่ไม่กล้าพูดเมื่อครู่พากันแย่งชม ‘เจ้าแมวน้อย’
ของแบคฮยอนกันยกใหญ่ บ้างก็ว่าหางน่ารัก หูน่ารักหรือกล้ามแน่นก็ว่ากันไป
เล่นเอาหนุ่มร่างใหญ่ต้องยกมือซึ่งสวมถุงมือแมวอันใหญ่มาปิดกล้ามไว้แทบไม่ทัน
แทนที่เมียรักของชานยอลจะหวงหรือหึง
กลับหัวเราะยกใหญ่ก่อนจะบอกทุกคนว่าพรุ่งนี้จะแจกรางวัลให้หมดแล้วหันมามองสามีพลางพยักพเยิด
“หืม?”
มาเฟียในคราบแมวหนุ่มเอียงคอสงสัย
“เอ้า ตอบสิเจ้าเหมียว”
“เมี๊ยว”
ชานยอลเลยต้องทำเสียงแมวแม้จะหน้าแดงไปเป็นแถบแล้ว
“ดีมาก”
หลังจากนั้นชานยอลก็กลายเป็นเจ้าเหมียวให้คนรับใช้หัวเราะทั้งบ้าน
หากใครไม่ยอมชมเจ้าแมวของแบคฮยอนในตอนแรกก็จะโดนเมียเขาขู่ว่าจะไล่ออกจนต้องยอมเล่นด้วยทั้งหมด
ซึ่งแม้ว่าตัวเขาเองจะอับอายขายขี้หน้าขนาดไหน
แต่เห็นว่ามาดามของบ้านเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นไม่โมโหอย่างเมื่อครู่ก็คิดซะว่าทำเพื่อความบันเทิงก็แล้วกัน
เผื่อไอ้น้องชายใต้กางเกงไม่ต้องปลดปล่อยด้วยมือตนเอง เท่านี้พี่ยอมได้
ใช่เหรอ?
ชานยอลพบว่าเขาคิดผิดถนัด
เพราะหลังจากเดินรอบบ้านด้วยสภาพน่าอายแล้ว
เมียรักก็ยอมพาเขากลับห้องนอนแล้วบอกว่าเหนื่อยแล้ว จากนั้นก็นอนเอาดื้อๆ
ทั้งอย่างนั้น
มาเฟียหนุ่มจึงได้แต่ทำหน้าอึ้งแล้วเข้าห้องน้ำไปตามระเบียบ
อาบน้ำสระผมชักว่าวเสร็จก็ขึ้นเตียงนอนตาม อ่าส์ กลิ่นตัวเมียนี่หอมจัง
ว่าแล้วก็ขอหอมสักหน่อย
ฟอด!
“หายโกรธแล้วใช่ไหมครับคนดี” ชานยอลกระซิบข้างหูก่อนจะจูบข้างแก้มอีกนิดแล้วถาม
“ฮื่อ”
เสียงงัวเงียตอบมาให้เข้าใจว่าหลับแล้วอย่ากวน ชานยอลจึงกอดคนรักไว้หลวมๆ
จากนั้นก็ปิดไฟพร้อมเข้าสู่ความฝันกับที่รัก
“คราวหน้าอย่าเอาสาวอื่นมานอนด้วยนะ”
แต่พอจะเคลิ้มหลับ แบคฮยอนก็พูดเสียงเบาคล้ายกึ่งละเมอกึ่งพูดกับเขาซะงั้น ชานยอลจึงปล่อยให้น้องพูดต่อโดยไม่ตอบ
“คุณก็รู้ว่าอาชีพเบื้องหลังมันน่ากลัว
เกิดวันนี้ตัวประกันไม่ใช่ฉันแล้วคนร้ายมันเอาผู้หญิงมาขู่จนคุณเจ็บจะทำยังไง”
เสียงอู้อี้ในอกชานยอลเล่นเอาหัวใจตกร่องไปหนึ่งจึ๊ก นี่หมายความว่าแบคฮยอนห่วงเขาอย่างนั้นเหรอ
“หรือถ้าแม่นั่นเป็นอย่างสาวแม็กซิมคราวที่แล้ว
แอบมาลวงเอาข้อมูลของคุณให้ศัตรู
ถ้าฉันมาไม่ทันจะมีเรื่องอะไรมากมายอีกรึเปล่าก็ไม่รู้”
ชานยอลนิ่งเงียบ
เขาปล่อยให้แบคฮยอนบ่นต่อเหมือนกับว่าบ่นให้เขาซึ่งหลับไปแล้ว
“คนบ้า คนเจ้าชู้ คนอื่นเขาห่วง
เขาก็อยากดูแลนะรู้บ้างมั้ยเนี่ย” น้ำเสียงแบคฮยอนเปลี่ยนไปจนชานยอลเริ่มใจสั่นไหว
นึกย้อนทวนถึงเหตุการณ์ที่เขามักจะพาหญิงสาวแปลกหน้ามาร่วมหลับนอน
ทุกครั้งแบคฮยอนก็จะโผล่มาทันเวลาพร้อมกับซ้อมเขาปางตาย
มีครั้งนี้เท่านั้นที่ไม่เป็นแบบนั้น
“ฉันเหนื่อย วิ่งตามนายไม่ไหวแล้วนะชานยอล
ฮือ” เสื้อชานยอลเปียกตรงที่ใบหน้าแบคฮยอนแนบอยู่ เขาเองเป็นคนเจ้าชู้มาตลอด แม้ว่าจะยกให้แบคฮยอนเป็นมาดามแต่ติดที่นิสัยเจ้าชู้มันตัดไม่ขาดและเหตุผลส่วนตัวบางอย่างถึงได้ท้าทายอำนาจผู้บัญชาการที่บ้านบ่อยๆ
แต่ตอนนี้คงต้องเคลียร์สักหน่อยแล้ว
“คนดี พี่เข้าใจแล้ว
ไม่เอาไม่ร้องนะ” ชานยอลเลิกแกล้งเงียบแล้วกอดแบคฮยอนแน่นขึ้นพลางเอ่ยปลอบ
“คนบ้าๆๆๆ”
แต่แบคฮยอนกลับดิ้นแล้วทุบอกเขาอย่างแรงจนจุก
“โอ๊ย” ชานยอลเลยแกล้งร้องเสียงหลง
“เจ็บเหรอ” จึงได้ผลเมื่อแบคฮยอนหยุดทุบแล้วเงยหน้ามาถาม
“เจ็บตรงนี้” ชานยอลชี้ที่หัวใจ
“โกหก”
“จริงๆ นะ”
“หึ ไม่เชื่อหรอก
เดี๋ยวคราวหน้าก็คงพาสาวคนใหม่มาขึ้นเตียงอีก”
เอ่ยแล้วเบะปากงอนก่อนจะหันหน้าไปนอนอีกทาง
เล่นเอาชานยอลต้องตามไปประกบแล้วโอบร่างเล็กแนบอกไว้
“รู้รึเปล่าว่าบางครั้งพี่ก็พาแม่สาวพวกนั้นมานอนเพื่องานน่ะ”
“เชื่อก็บ้าแล้ว”
“จริงๆ นะแบคฮยอน”
คราวนี้ชานยอลใช้กำลังบังคับให้แบคฮยอนหันกลับมาจ้องตากันในความมืด
“บางทีก็ไม่ได้นอนกับแม่สาวพวกนั้นจริงๆ หรอก
รีดข้อมูลพวกเธอเสร็จก็ให้เซฮุนเอาไปเก็บที่อื่น” มาเฟียหนุ่มบอกความจริง
“แล้วครั้งนี้ล่ะ”
แบคฮยอนยังไม่ยอมแพ้
“ก็ถูกชะตาไง
ใครจะรู้ว่าคนที่ผมรักน่ะ
ไม่ว่าจะแต่งหญิงหรือไม่แต่งอะไรเลยก็ทำให้ผมชอบได้ทั้งนั้น”
ชานยอลตอบแบบไม่อายปาก
“ฮึ คนบ้า”
“ต่อไปผมจะพาใครมา
จะถามแบคฮยอนก่อนดีไหม”
“ไม่อนุญาตหรอก”
“ถ้างั้นให้สาวชุดแดงเมื่อตอนเย็นไปงานกาล่ากับผมตลอดได้รึเปล่า”
ชานยอลพูดหยอกเรียกปากเบะส่งมาให้เพราะแบคฮยอนคิดว่าถูกล้อเลียนเข้าให้
“จะได้พาสาวคนนั้นกลับมานอนกกตลอดเลย”
จากนั้นคนตัวเล็กก็หน้าแดงแทน
“ฮื่อ ห้ามพาใครมานอนกกอีกนะ”
แบคฮยอนย้ำ
“ถ้าจะพาใครมารีดข้อมูลน่ะไม่แน่”
ชานยอลยังเอ่ยเย้า “แต่ถ้าพามารีดน้ำจากท่อนซุงผมเนี่ย ให้แบคฮยอนคนเดียวเลย”
“บ้า”
แบคฮยอนหน้าแดงเมื่อชานยอลพูดประโยคหน้าไม่อายนั่น
จึงได้ขยับตัวออกจากอ้อมกอดหันหลังให้ชานยอลอีกครั้ง แต่เมื่อถูกคนตัวใหญ่จูบเบาๆ
ที่ต้นคอก็พาให้ขนลุกบอกไม่ถูก
“รู้รึเปล่าว่าตอนแบคฮยอนเปลือยอกออกจากห้องน้ำ”
ชานยอลพูดไปหนึ่งประโยคก็งับเข้าหูแบคฮยอนหนึ่งที เล่นเอาหูน้อยๆ นั่นแดงเป็นแถบ
“ผมน่ะอยากให้คุณรีดน้ำให้ผมมากเลยนะ”
แล้วจากนั้นมือหนาก็ซุกเข้าเสื้อคนตรงหน้า ไล้ไปตามยอดอกสีนมเย็นที่เขาเป็นเจ้าของ
ปากนั้นเมื่อพูดจบก็จูบคอระหง กัดนิดให้เกิดรอยแล้วงับหูอีกครั้ง
เมื่อแบคฮยอนไม่ขัดขืนและครางเสียงเบา
ชานยอลจึงดึงร่างเล็กให้หันหน้ามาเจอกันสักหน่อย
ฟังจากเสียงอารมณ์เขาก็เตลิดไปครึ่งหนึ่งแล้ว
พอเห็นใบหน้ายังมีคราบน้ำตาและปากเผยอเพราะเริ่มมีอารมณ์ตาม ชานยอลก็ไล่จูบเบาๆ
ตั้งแต่หน้าผากลากไปหัวคิ้วขมวด
วนไปหางตาเพื่อชิมน้ำตาเค็มปนหวานของอีกฝ่ายไล่ไปเรื่อยถึงแก้มแล้วดมดอมความหอมของคอสวย
เสื้อตัวบางของแบคฮยอนก็ถูกปลดออกไปตามด้วยของชานยอลแบบผลัดกันช่วยถอด
เมื่อไร้ซึ่งอาภรณ์ชิ้นบน ชานยอลก็โหมเข้าจูบน้องแบบแทบจะไม่ถนอม
ได้กันมากี่ครั้งแล้วก็ไม่เคยนับ
แต่คราวนี้ชานยอลว่ามันน่าจะมีความหมายมากที่สุดเพราะเขากับแบคฮยอนเหมือนจะเข้าใจกันและเปิดอกคุยกันมากกว่าที่ผ่านมา
จูบไม่นานเจ้าน้องชายคับติ้วของชานยอลก็พร้อมออกปฏิบัติการอีกครั้ง
มือหนึ่งรีบซุกเข้ากางเกงคนรักแล้วปลดบ็อกเซอร์ออกก่อนจะปรนเปรอด้วยมือ เพราะปากกำลังยุ่งกับการดูดนมหวานสีชมพูเบื้องบนอยู่
“อา... ชานยอล”
แบคฮยอนครางเป็นชื่อคนรักเมื่อจุดนั้นถูกลูบคลำจนถูกจริต ปากสวยกัดเม้มแน่นเมื่อความรู้สึกบนหน้าอกก็อัดแน่นไม่แพ้ความรู้สึกส่วนล่างเลย
“อ๊ะ ไม่ต้องก็ได้นะ อา...”
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ
ชานยอลย้ายมือมาวางบนตุ่มไตสีชมพูเบื้องบนแล้วก้มหน้าลงไปครอบส่วนล่างเอาไว้แทน
แต่ร่างใหญ่ก็ไม่หยุด เขาตั้งใจแล้วว่าเพื่อไถ่โทษที่ทำให้แบคฮยอนเป็นห่วง
วันนี้เขาจะใช้ปากทำให้อีกคนมีความสุขให้ได้
“ชะ ชานยอล อ๊า อีกนิด”
จากที่เคยห้ามก็เริ่มคล้อยตามและขอร้อง มือน้อยข้างหนึ่งจิกเข้ากับหมอนเพื่อผ่อนอารมณ์ที่กำลังขึ้นสูง
ส่วนอีกมือจับศีรษะร่างสูงเอาไว้ แบคฮยอนจะไม่ไหวแล้ว
“อื้อ ชานยอลสุดยอด อ่าส์”
แล้วสุดท้ายของเหลวจำนวนหนึ่งก็เข้ามาในปากของชานยอล
เขาเองแม้จะเคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะไม่กล้าทำแต่ถ้าเป็นแบคฮยอนแล้วชายหนุ่มคิดว่าอะไรที่เป็นของคนตัวเล็กนั้นอร่อยทั้งหมด
จึงได้กินเข้าไปหมดจนแทบจะเกลี้ยงเกลา
“เดี๋ยวทำให้บ้าง...”
แบคฮยอนเมื่อปลดปล่อยไปหนึ่งรอบก็เสนออย่างใจดี
“ไม่เป็นไรที่รัก”
แต่ชานยอลกลับปฏิเสธ เขาเอื้อมมือไปคว้าดูเร็กซ์เพลย์รสสตรอเบอร์รี่ตรงหัวเตียงออกมา
ทาลงหน้าอกตัวเองนิดหน่อย
“กินนมช็อกโกแลตกลิ่นสตรอเบอร์รี่มั้ย”
เอ่ยยั่วให้แบคฮยอนหัวเราะแล้วก็นอนอ่อย ปากเล็กก็เข้ามา ‘กินนม’ ตามคำเรียกร้องทันที
เมื่อทุกอย่างกลับด้าน
ชานยอลนอนเบื้องล่างแล้วแบคฮยอนนั่งข้างบนเพื่อ ‘กินนมช็อกโกแลต’ ที่ว่าแล้ว ชานยอลก็ถือโอกาสเอาดูเร็กซ์เพลย์ที่เหลือทาบนไอ้น้องชายคับกางเกงของตนเองและทาบนช่องทางน้อยซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ไม่ห่างจากน้องชายนั่นเท่าไหร่นัก
“อื้ม อ๊า ชานยอล”
เมื่อนิ้วสองนิ้วพร้อมเจลหล่อลื่นสัมผัสเข้ากับช่องทางร้อน
มันก็สร้างความเย็นให้แบคฮยอนจนต้องร้องครางด้วยความสุข ชานยอลใช้นิ้วกลางกับนิ้วชี้นำเข้าไปก่อนจะนำนิ้วนางเข้าไปอีก
สาวนิ้วเข้าออกพลางกดจุดที่คิดว่าแบคฮยอนจะชอบไปด้วย สักพักก็ได้คำตอบ
“จุดนั้น อ๊า ตรงนั้น อืม อีก
เอาอีก” ตอนนี้แบคฮยอนหยุดกินนมช็อกโกแลตแล้ว
แต่กำลังแนบใบหน้าลงกับกล้ามท้องได้รูปของชานยอลแทน
เมื่อเห็นน้องกำลังอยากระบายอารมณ์ คนพี่ก็เลยใช้มือที่ว่างอยู่รั้งใบหน้าสวยเข้ามาจูบ
จากนั้นก็เอานิ้วสามนิ้วนั้นออกเปลี่ยนเป็นประคองแท่งซุงเข้าช่องทางนั้นแทน
“อ๊า เดี๋ยว อืม อา ได้แล้ว อืมมมม”
แบคฮยอนสะดุ้งเฮือกพลางถอนปากออกจากชานยอลแล้วครางพร้อมกับมองหน้าสามีไปด้วย
เล่นเอาชานยอลไม่กล้าแทงเข้าแรง แต่เมื่อมีคำว่าได้แล้วออกมาเขาก็เข้าไปจนสุดทันที
“ขยับหน่อยคนสวย”
เมื่อเข้าไปได้ตามต้องการชานยอลก็ไม่ลืมขยับเข้าออก
แต่เพราะเขานอนอยู่เลยขยับคนเดียวไม่ถนัด
มือทั้งสองข้างพยายามประคองก้นอวบให้ขยับด้วยกันหน่อยซึ่งก็ไม่เสียศักดิ์ศรีฮับกิโด้สายดำแม้แต่น้อย
เมื่อแบคฮยอนขยับแรงจนได้ใจ
“อา โอเคมั้ย”
แบคฮยอนถามพลางกัดปากเมื่ออารมณ์จากกลางตัวมีมือชานยอลมาช่วยอีกมือหนึ่ง
“อ่าส์ อย่างนั้นที่รัก”
ซึ่งชานยอลก็อยากจะตอบว่ามันยิ่งกว่าโอเคเสียอีก เขาค้นพบว่าเซ็กส์ครั้งนี้มันเร้าใจยิ่งกว่าอะไร
“ฮะ อะ อ๊า อ๊า ชานยอล อ๊า”
แบคฮยอนครางหนักเมื่อยิ่งเร่งแรงขยับตรงก้น ชานยอลก็เร่งแรงมือที่กุมแท่งไอติมของคนตัวเล็กด้วย
รอไม่นานความร้อนก็พุ่งเข้าช่องด้านหลังแบคฮยอนพร้อมๆ กับจุดกลางตัวปลดปล่อยรอบสอง
แบคฮยอนทิ้งตัวลงซบกับกล้ามอกชานยอล
มือใหญ่มาเชิดคางให้เข้ามาจูบอีกครั้ง
ไม่นานจากนั้นทั้งสองหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย
หลายวันต่อมา...
“นังนี่เป็นใคร ห๊ะ?”
แบคฮยอนชี้หน้าหญิงสาวที่ชานยอลพาเข้าบ้านมาด้วยใบหน้าแสดงความโกรธ
เรียกเสียงหัวเราะให้หญิงสาวไม่น้อย
มาดามยิ่งเลือดขึ้นหน้าไปใหญ่
หลังจากวันนั้นที่ตกลงกันว่าชานยอลจะไม่พาสาวที่ไหนไปนอนกกอีก
แต่วันนี้กลับพาสาวสวยแปลกหน้าเข้าบ้าน แบบนี้มันหยามชัดๆ
“เธอคือแบคฮยอนเหรอเนี่ย
น่าร้ากกกกก” หญิงสาวปริศนาเมื่อโดนชี้หน้ากลับไม่โกรธจากนั้นก็เข้ามากอดแบคฮยอนจนเจ้าตัวงงไปหมด
“ชานยอล นี่ใครเนี่ย?”
มาดามจึงตั้งสติได้ ถามคุณสามีเสียหน่อย
“พี่ยูรา พี่สาวฉันไง”
ชานยอลตอบพลางกลั้นขำ
“ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ” แบคฮยอนหน้าเสีย
“ขอโทษครับพี่ยูรา” ก้มหน้าแล้วโค้งเกือบทิ่มพื้น
“เรื่องมันยาวน่ะ”
พี่สาวคนสวยหัวเราะ “ว่าแต่เราน่ะเหนื่อยใช่มั้ยที่คอยดูแลน้องชายเจ้าชู้ของพี่”
ยูรากล่าวแบบไม่เกรงใจน้องสักนิด ทำเอาชานยอลขมวดคิ้ว
“นิดหน่อยเองครับ”
“นี่ พี่จะมาอยู่ด้วยนะต่อไปนี้”
ยูราพูดน้ำเสียงราบเรียบแต่ชานยอลกลับหน้าเสีย
“จะมาช่วยเราปราบเจ้านี่ให้อยู่หมัด”
“ดีครับดี” แบคฮยอนกล่าวกลั้วหัวเราะ
“เฮ้ย พี่
ไหนว่ามาเยี่ยมไม่กี่วันไง”
ชานยอลพยายามตามหลังพี่สาวและเมียรักแต่ก็โดนปิดประตูใส่เสียอย่างนั้น
มาเฟียหนุ่มกุมหัว
พี่สาวเขาน่ะยิ่งกว่ายุ่ง
ตอนนี้เขาน่ะรัก ‘เมียมาเฟีย’
มาก ไม่นอกใจแล้วเฟ้ย!
End
จบเอาดื้อๆ งี้เลย
กราบขอบคุณคนที่หลงผิดเข้ามาอ่าน ณ
ที่นี้
No comments:
Post a Comment