[SF] Park Chan Bad Guy – ChanBaek [EXO] [NC-17]
#parkchanbadguy
Park Chan Bad Guy
Byunbaek’s part…
เพราะรัก
ผมจึงยอมทำให้เขาทุกอย่าง
แม้แต่การกระทำอันโง่เง่ารังแต่สร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นในตอนนี้
“อ่าส์ เบบี้ คุณ อ่าส์ สุดยอด”
เขาส่งเสียงเมื่อผมกำลังทำให้ความพึงพอใจพุ่งขึ้นเกือบสุด
มือหนาจับหัวสั่นคลอนของผมไว้พลางขย้ำไม่เหลือชิ้นดี
แต่ก็โทษเขาไม่ได้หรอกในเมื่อการกระทำดั่งการดูดน้ำหวานจากปลายท่อเกิดจากปากหิวกระหายความรักของผมเอง
เพื่อปาร์คชาน...หนุ่มฮ็อตแห่งสกายไลท์คอลเลจ
“อ่าส์ เบบี้ คุณ อ่าส์
ทำดีมากที่รัก”
คำบอกรักจอมปลอมมักมีไว้กับสาวๆ
ทุกคนที่เขาคั่วด้วย แน่นอนว่าเขาก็หมายถึงชายหนุ่มที่ไม่มีอะไรเลยอย่างผมเช่นกัน
ยิ่งเวลาเขาเมาจนแทบไม่เหลือสติอย่างนี้แล้ว
ผมก็มักจะกลายเป็นทุกอย่างของเขาเสมอ
ปากสวยเข้ามาประกบทันทีเมื่อผมเงยหน้าหลังจากจัดการส่วนล่างเขาเสร็จเรียบร้อย
แทบจะเลียให้สะอาดและมันเมื่อมเหมือนกับไม้เบสบอลปี 1992 ที่เขารักนักหนา
ลิ้นร้อนลามเลียเอากลิ่นของตนเองและน้ำหวานที่ผมสะสมไว้ยามหนาวออกไปเกือบหมด
ลมหายใจผสมกลิ่นฮอทดรัมส์บุหรี่ยี่ห้อโปรดของเขากรุ่นในปากและแย่งพื้นที่ออกซิเจนจนแทบขาดใจ
ร่างสูงปล่อยผมเป็นอิสระชั่วครู่เพื่อให้คาร์บอนไดออกไซด์ได้แลกเปลี่ยนกับออกซิเจนในอากาศแล้วก็รุกรานต่อราวกับปากของผมเป็นเหมืองเพชรชั้นดีและเม็ดสวยน้ำงามสุดอยู่ภายใต้ลิ้นที่ถูกค้นกลับไปมาอย่างไม่มีวันจบสิ้นนั่น
มือร้อนด้วยฤทธิ์บรั่นดีผสมยินลากไปมาใต้เสื้อผ้าของผมอย่างขัดใจในสิ่งขวางกั้น
ดังนั้นเมื่อเขาไม่ยอมอดทนใดๆ จึงฉีกมันออกแทบไม่เหลือชิ้นดี
ผมครางทันทีเมื่อมือนั่นจับเข้าจุดอ่อนไหวสีชมพูซึ่งกำลังแข็งขืนเต็มที่
เขาหัวเราะในลำคออีกครั้งเมื่อผมครางเสียงดังขึ้นยามถูกขบกัดตามลำคอไล่ลามไปสู่แอ่งน้ำของไหปลาร้าและหยุดที่จุดสีชมพูด้านซ้ายพร้อมดูดกัดราวกับมีน้ำนมหวานอยู่ตรงนั้น
เพราะตอนนี้ผมกำลังอยู่ด้านล่างติดกับผ้าปูเนื้อดี
ปาร์คชานจึงสามารถใช้มือหนึ่งรูดซิปและถอดกางเกงของผมออกไปไม่ยากนัก แล้วก็แทบจะจิกผ้าปูนั่นขาดเมื่อเขาใช้มือนั้นจับเข้าตรงจุดอ่อนไหวใต้กางเกงในพลางลูบไปมาพาให้อารมณ์เตลิด
“ปาร์คชาน ได้โปรด”
“ขอร้องผมสิ เบบี้
แล้วปาร์คชานจะช่วยคุณ”
“ขอร้องล่ะ อ๊า ปาร์คชาน อื้อ”
ทันทีที่ร้องขอ
กางเกงในอาภรณ์ตัวสุดท้ายบนร่างผมก็ถูกเขาฉีกออกคามือ แล้วการชักรูดรั้งไปมาจึงก่อเกิดขึ้นภายใต้การควบคุมและนำพาของชายเดียวในดวงใจโดยที่ผม...
พยอนแบคไม่อาจต่อต้านได้
เด็กเรียนหน้าห้อง
หน้าตาไม่โดดเด่นแถมยังเป็นเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์คนนั้นคือผมเอง
มันโง่เง่าจริงๆ ที่พระเจ้าสร้างพยอนแบคให้เกิดมาเป็นเด็กที่ขาดทุกอย่าง
ตั้งแต่พ่อแม่ ทรัพย์สมบัติ หน้าตา ชาติตระกูล หรือแม้แต่เพื่อน...
ไม่หรอก ยังโง่เง่าได้อีกเมื่อเขาตกหลุมรักปาร์คชานหนุ่มฮ็อตของสกายไลท์คอลเลจ
รูปหล่อ พ่อแม่หน้าตาดีและรวยมาก แถมยังเป็นขวัญใจของสาวๆ นับไม่ถ้วนในคอลเลจ
ใช่ ผมเองที่หลงรักเขาข้างเดียว
ยอมให้เขาทุกอย่างแม้จะรู้ว่าเขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลย
“ไม่เอาน่า เบบี้ คุณน้ำตาไหลเหรอ
ผมจะเบาลงหน่อยละกัน”
เสียงทุ้มนุ่มปลุกผมจากภวังค์เมื่อนึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต
เวลานี้เขากำลังเริ่มฉีกร่างผมออกเป็นส่วนๆ แล้วเพราะขาทั้งสองข้างกำลังแยกออกตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง
เขาโกหกหรอกที่ว่าจะอ่อนโยนเพราะหลังจากแหกร่างผมสำเร็จเขาก็แทรกกายเข้ามาทันที
“อ๊า ปาร์คชาน ไม่เจ็บ อื้อ
เข้ามาได้ อ๊า”
รู้ว่าโกหกไม่ดีแต่ก็ยอมทำเพื่อให้เขาพึงพอใจสูงสุด
แท่งกาวร้อนที่ไม่เคยรออะไรจึงเสียบเข้ามาจนลึกสุดใจ
มันไม่มีอะไรน่ายินดีเลยเมื่อความเจ็บปวดกำลังแล่นไปทั่วร่างผม ขนาดร่างกายของเขาใหญ่โตเช่นไรส่วนที่กำลังรุกรานผมก็ยิ่งใหญ่เช่นนั้น
จังหวะกระแทกจนมิดด้ามจึงทำให้ผมต้องสะดุ้งตัวโยนจับเข้าที่ไหล่หนาพร้อมขอร้องด้วยน้ำตาอีกครั้ง
“ปาร์คชาน ได้โปรด อ๊า”
คำขอร้องไม่ได้ผลอยู่แล้วเมื่อสติของเขาหายไปพร้อมแอลกอฮอล์แต่แรก
ผมจำต้องยอมทนกับความเจ็บปวดนี้แต่ก็ไม่นานนักหรอก เพราะทุกครั้งลีลาของเขามักจะทำให้ผมลืมความเจ็บแล้วสนุกสนานไปด้วยกัน
“อ่าส์ คุณตอดรัดแน่นไปแล้ว เบบี้”
“ปาร์คชาน โอ้ว ที่รัก อื้อ”
อันที่จริงไม่ต้องสนทนาใดๆ
หรอกในเมื่อร่างกายเรากำลังประสานกันได้ดีขนาดนี้ ปาร์คชานทำสีหน้าเลื่อนลอยไปเรื่อยเพราะความสุขล้นจากการตอบสนองแห่งรัก
ผมเองก็เช่นกันเพราะกำลังได้มองหน้าคนที่รักอีกครั้ง
ใช่... ถ้าไม่ใช่เรื่องอย่างว่าก็ไม่มีทางได้มองหน้าเขาหรอก
“อ่าส์ อีกนิดเบบี้ อีกนิด”
“ฮื่อ ปาร์คชาน อื้อ โอ้ว ที่รัก”
จนถึงจุดที่แตะขอบฟ้าไปด้วยกันผมก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะแตะขอบสวรรค์แต่พระเจ้าไม่เปิดประตูให้เข้าไปจึงต้องหล่นลงมาสู่อ้อมอกซาตานรูปหล่อหากแต่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยพบ
“เยี่ยมมาก เบบี้”
เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูพลางจูบที่ขมับครั้งหนึ่ง
ซาตานที่ชื่อปาร์คชาน...นั่นเอง
...............ParkChanBadGuy………….
สกายไลท์คอลเลจไม่มีการแบ่งชนชั้นในการเรียน
ใช้ชีวิตหรือการคบกันเป็นเพื่อน
คอลเลจแห่งนี้เน้นการทำงานเป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตามสิ่งที่พระเจ้าบอกมา...
ความรักต่อเพื่อนมนุษย์คือเรื่องที่ดีที่สุด
การเรียนที่นี่จึงต้องมีพาร์ทเนอร์ที่คอลเลจเลือกสรรให้และผมคงไม่ต้องบอกว่าพาร์ทเนอร์ผมคือปาร์คชานคนฮ็อตแห่งสกายไลท์นั่นเอง
“พยอนแบค ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เสียงทุ้มเอ่ยจากเตียงเมื่อปาร์คชานตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเมาค้าง
เมื่อคืนเขาคงดื่มหนักมากเหมือนเคยเพราะปาร์คชานยังคงจำอะไรไม่ได้อยู่ดี
จำไม่ได้ว่ามาที่นี่ ห้องพักของเขาได้อย่างไร
และคงจำไม่ได้ว่าทำอะไรกับเบบี้ของเขาบ้าง
ผมกลืนน้ำตาลงคอเมื่อระลึกได้ว่าเขาไม่เคยจำอะไรได้หลังจากมีอะไรกัน
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเมาแอ๋จนไร้ซึ่งสติแล้วคนคุมบาร์ก็โทรมาหาผมพาร์ทเนอร์คนเดียวของเขาตามเบอร์ที่เมมไว้ในโทรศัพท์
หลังจากนั้นเขาก็จะเริ่มร้อนตัวไม่สบายและพยายามจะปลดปล่อยกับผมราวกับคนรักกันแต่เช้าขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลย
จำไม่ได้ไม่เลยสักครั้ง
“นายเมามากไง” ผมเลือกตอบสั้นๆ
เพราะไม่อยากเจ็บถ้าถามว่าเขาจำได้หรือเปล่า
“อ้อ ฉันเมามากนี่เอง แล้ว?”
“แล้วฉันก็พานายกลับมา แค่นั้น”
“อ้อ โอเค”
“อาหารเช้าอยู่ที่ห้องครัว
ถ้านายไปเรียนไม่ไหว ฉันจะจดเลคเชอร์ให้ ไปล่ะ”
ผมพูดยาวรวดเดียวเพราะรู้ว่าคนหัวดีอย่างปาร์คชานยังไงก็เข้าใจแม้จะเมาค้าง แน่นอนว่าพูดกับผนังมากกว่าเพราะนอกจากเวลามีอะไรกันผมก็จะไม่มองหน้าเขา
ไม่ใช่ว่าไม่อยากมองแต่ไม่ชอบสายตารังเกียจเหมือนที่ทุกคนมองมาก็เท่านั้น
คงไม่ต้องบอกว่าวันนี้ผมมาเรียนคนเดียว
นั่งคนเดียว และกินข้าวคนเดียวเหมือนเคย แม้สกายไลท์คอลเลจจะเป็นคอลเลจที่อยากให้ทุกคนส่องสว่างเหมือนชื่อ
แต่กับผมที่เป็นเด็กกำพร้าระดับต่ำสุดแต่ได้รับโชคให้คู่พาร์ทเนอร์กับปาร์คชานคนฮ็อตนั้น
ยังไงก็โดนหมั่นไส้และรังเกียจอยู่วันยันค่ำ
“อ้าว
นี่มันเด็กเหลือขอที่ได้ดีเพราะเป็นพาร์ทเนอร์คนฮ็อตนี่นา” มาแล้วล่ะ
กิจวัตรประจำวันของพวกแบดกายในคอลเลจคือล้อผม แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเถียง
แต่วันนี้อาจจะเป็นข้อยกเว้นเมื่อมือสกปรกของพวกนั้นข้างหนึ่งตะปบเข้ากับกำแพงข้างหน้าแล้วขวางทางไม่ให้ผมเดิน
เพราะไม่อยากมีเรื่องจึงเดินไปอีกทางแต่มือสกปรกของอีกคนก็ขยับมาขวางอยู่ดี
ท่าจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว
“นายต้องการอะไร?” ในที่สุดผมก็ต้องเปิดปากถามไป
“เขาว่านายเป็นคู่ควงของปาร์คชาน”
“เหลวไหล...”
ผมพูดแค่นั้นแล้วก็มีมือใหญ่พร้อมผ้ากลิ่นฉุนมาปิดหน้าไว้จนหมด
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่รึเปล่า หึหึ”
แล้วสติของผมก็ดับสูญ...
ซ่า!
รู้สึกตัวอีกทีก็โดนน้ำสาดเข้าหน้าพร้อมมือเท้าที่โดนมัดเข้ากับเสาไฟถนนกลางคอลเลจ
นี่พวกแบดกายสกปรกตั้งใจทำอะไรกันแน่
“ปาร์คชาน!” จู่ๆ
พวกนั้นก็ตะโกนขึ้นเมื่อหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งกำลังควงสาวสวยผ่านหน้าผมไป
อ่า ปาร์คชานนั่นเอง
วันนี้ก็ควงสาวคนใหม่อีกแล้ว
“มีอะไร?” ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่สนใจว่าพวกนี้เรียกทำไม
แต่ปาร์คชานกลับยืนนิ่งแล้วจ้องมองมาทางผม
รู้สึกนิดหน่อยว่าเขากำลังมองมาอย่างตื่นตระหนกชั่ววูบ
ผมต้องตาฝาดเพราะฤทธิ์ยาสลบของพวกนั้นแน่ๆ
“พวกฉันจับคู่ควงของแกไว้แล้ว
แกต้องชดใช้เรื่องที่แย่งแฟนบิ๊กดีไป!”
ผมฟังพวกนี้ไปก็งง
คนอย่างปาร์คชานไม่เคยแย่งแฟนใคร มีแต่สาวๆ มาหาเขาถึงที่เท่านั้น แทบจะหัวเราะออกมาในความงี่เง่าที่โดนจับตัวเพราะความเข้าใจผิดเลยล่ะ
“ฉันว่าพวกนายมั่ว
ฉันไม่เคยแย่งแฟนใคร”
ก็อย่างที่ผมบอกแหละ
ปาร์คชานตอบพวกนั้นด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะหันไปยิ้มให้สาวสวยข้างตัว
หญิงสาวก็หัวเราะตอบพลางมองมาทางผมอย่างสมเพชด้วย
“หึหึ ไม่เคยงั้นเหรอ”
เจ้าบิ๊กดีนั่นพอฟังคำตอบจากปาร์คชานก็โมโหแล้วมาต่อยผมหนึ่งที อา...เจ็บกรามไปหมด
“เป็นไงล่ะ คู่ควงแกโดนฉันต่อย
รู้สึกอะไรมั้ย!” ต่อยเสร็จก็เอามือสกปรกมาบีบหน้าผมพลางยื่นออกไปให้ปาร์คชานเห็นเลือดที่ย้อยจากมุมปากผม
เหม็นกลิ่นคาวเลือดจริงๆ เลย
ผมคิดไปเองรึเปล่านะที่เห็นเขากำหมัดแน่นแล้วก็คลายออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่รู้สึกหรอก ฉันไปล่ะ”
อา คิดไปเองจริงๆ ผมว่าแล้วเขาไม่รู้สึกอะไร
พวกนี้ก็เหมือนผมนั่นแหละ เป็นพวกโง่ที่คิดเองเออเองหมด
“แล้วถ้าอย่างนี้ล่ะ” จู่ๆ
บิ๊กดีนั่นก็จับหน้าผมให้เข้าใกล้หน้ามันทีละน้อย
ปากน่าขยะแขยงกำลังยื่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นี่มันน่ากลัวกว่าที่คิดไว้อีก ผมจึงพยายามดิ้นสุดขีดแต่ก็ไปไหนไม่ได้
ไม่นะ ถึงผมจะเป็นเด็กเหลือขอแต่ร่างกายของผมยอมให้แค่ปาร์คชานเท่านั้น
เวลานี้ผมก็ได้แต่คิดไว้ในใจเท่านั้น
ปาร์คชาน ขอร้องล่ะ!
ตุบ!
แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามือที่บีบแก้มนั้นหลุดผลัวะออกไปพร้อมแรงกรุ่นโกรธของใครคนหนึ่ง
ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นปาร์คชานกำลังต่อยเจ้าพวกนั้นด้วยตัวคนเดียว
ปากสวยเม้มแน่นราวกับโกรธถึงขีดสุด
หูอันเด่นชัดของเขาแดงจัดเมื่อต้องออกแรงพร้อมความหงุดหงิด
แน่นอนเขาหงุดหงิดที่ต้องออกแรงมากมายเพราะผม แต่ถึงพวกนั้นถึงรุกมาเป็นสิบก็ไม่คณามือเขาหรอก
ก็ปาร์คชานน่ะ เรี่ยวแรงเยอะขนาดไหน
ผมเองก็รู้ดี
หลังจากต่อยพวกนั้นจนล้มหมดทุกคน
มือสวยที่มีรอยช้ำเพราะต่อยแรงไปหน่อยก็มาแก้มัดให้ผม พอจะพูดว่าขอบคุณเขาแต่ปาร์คชานกลับเอามือข้างที่ไม่ค่อยเปื้อนมาปาดเอาเลือดตรงมุมปากออกให้ผมอย่างเบามือ
ความรู้สึกปลาบปลื้มใจเกิดขึ้นไม่น้อยกับการกระทำของอีกฝ่าย
ปาร์คชานไม่เคยทำดีกับผมขนาดนี้มาก่อน
จะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะเริ่มต้นเป็นเพื่อนกับเขา
จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะเริ่มต้นความสัมพันธ์มากกว่าพาร์ทเนอร์ที่ยอมทำทุกอย่างให้เพราะความต้อยต่ำในชีวิต
ผมแค่อยากเริ่มต้นเป็นคนที่อยู่ในสายตาของเขาบ้างก็เท่านั้น
แต่ความกล้าทั้งหมดก็หมดลงพร้อมกับคำพูดที่ผมเองยอมรับว่าบาดลึก
“ไปซะ”
“อะไรนะ?”
“ออกไปจากคอลเลจนี้ซะ
ถ้าไม่อยากตาย”
“ปาร์คชานคือฉัน...”
“นายมันตัวถ่วง เด็กเหลือขอ
อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันไม่อยากเป็นพาร์ทเนอร์ของนาย”
ผมคงหลงระเริงว่าเด็กคนหนึ่งจะมีชีวิตดีขึ้นเมื่ออยู่สกายไลท์คอลเลจ
โดยลืมไปว่าเมื่อฐานะต่างกันมันก็ต้องเจ็บช้ำทั้งคำดูถูกและคำผลักไล่ไสส่ง
“ไปให้พ้น จำไว้
ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก!” เขาส่งเสียงดังลั่น เรียกรอยยิ้มให้สาวๆ
กรี้ดในความเท่ที่สามารถไล่เด็กเหลือขอออกจากชีวิตได้
และเรียกน้ำตาของผมให้ไหลพรากจากความรู้สึกเจ็บที่หัวใจด้วย...
...............ParkChanBadGuy………….
“แล้วนายก็ไล่พยอนแบคออกไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ตามเดิม?”
“ใช่...”
“เพื่อไปไล่จัดการพวกสกปรกนั่นให้สิ้นซาก
จะได้ไม่ตามรังควานเขาอีก”
“ใช่...”
“แล้วตอนนี้ก็มานั่งคิดถึงเขาเนี่ยนะ”
“นายจะถามให้ได้อะไรขึ้นมา โอเซฮุน”
ปาร์คชานหงุดหงิดเต็มขั้นเมื่อเพื่อนที่เรียกมาไม่ช่วยอะไรเลย
มาถึงก็ถามเอาๆ เหมือนเขามีหน้าที่ตอบคำถามอย่างเดียว
“ไงล่ะปาร์คชานคนเก่ง
นายอยากปกป้องเขาแต่ก็พูดเพราะๆ ไม่เป็นเนี่ย ฉันว่านายป๊อดว่ะ”
“โอเซฮุน
ถ้านายจะไม่ช่วยคิดว่าจะตามเขากลับมายังไง ก็ช่วยไปไกลๆ ตีนเลยครับ”
ในที่สุดก็ทนไม่ไหว บอกแล้วว่าปาร์คชานความอดทนต่ำ ทำไมโอเซฮุนต้องกวนตีนด้วยเนี่ย
“เห็นแก่พยอนแบคที่น่ารัก
ฉันจะยอมช่วยก็ได้”
“เท้าซ้ายฉันเริ่มกระตุกแล้วนะพวก”
“ล้อเล่นน่ะ เข้าเรื่องสิ”
แม้เขาจะยอมรับว่าป๊อด(นิดหน่อย)
ตามที่โอเซฮุนพูดมา แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพื่อนเขาจะเอาแต่กวนตีนแบบนี้เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าพยอนแบคจะน้อยใจเขาไปถึงไหน
ใช่...เขาผิดเองที่ไม่มีวิธีแสดงออกว่า...ชอบคนตัวเล็กน่าทะนุถนอมนั่น
แม้จะมีคนรู้น้อยนิดแต่มันก็เป็นเขาเองที่ขอโปรเฟสเซอร์ให้จับคู่กับเด็กคนนั้น
เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพยอนแบคมากขึ้น
สกายไลท์คอลเลจมีทุนการศึกษาสำหรับเด็กจากสถานสงเคราะห์ทุกปีและปีนี้ตอนที่พ่อเขาเป็นคนไปเลือกเด็กที่เหมาะสมนั้นปาร์คชานก็ได้ไปด้วย
เขาตกหลุมรักพยอนแบคตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว...
แน่นอนว่าการขอร้องอ้อนวอนพ่อเพื่อที่จะได้เรียนกับเด็กคนนี้ทุกคลาสรวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยเกิดขึ้นหลังจากนั้น
แม้จะได้พักห้องเดียวกันแต่มันเป็นเพราะใจเขาเต้นแรงทุกครั้งที่มองพยอนแบค
จึงไม่กล้ามองตรงๆ ไปทางคนตัวเล็กนั่น
อย่าให้ใครรู้เลยล่ะ
ว่าปาร์คชานหวั่นไหวกับพยอนแบคแค่ไหน
ร่างสูงนั่งจ้องมองไปยังเตียงเล็กๆ
ข้างหน้าต่างนั่นพลางจินตนาการว่าพยอนแบคกำลังนอนหลับอยู่
หลายครั้งทีเดียวที่ปาร์คชานได้แต่ยืนมองคนตัวเล็กหลับด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากกิจกรรมร่วมรักจบลง
เขาไม่เคยเมาจนจำไม่ได้แบบที่พยอนแบคเข้าใจหรอก
ที่ปาร์คชานดื่มก็เพื่อย้อมใจเท่านั้น
ใครจะรู้เล่าว่าเขารอให้ตัวเองพร้อมจึงจะขอคบกับพยอนแบค
แม้จะรู้ว่าขั้นตอนมันไม่ถูกต้องนักแต่เขาก็ทำได้แค่รอจริงๆ
ปาร์คชานเลยได้แต่ทำเป็นเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทำเป็นลืมว่าเคยนอนด้วยกันแม้ว่ามันจะเป็นความทรงจำที่ดีมากก็ตาม
อา...เรื่องที่ให้พยอนแบคจดเลคเชอร์หรือทำรายงานให้น่ะ
ก็เพราะว่าอยากเรียกร้องความสนใจน่ะสิ
เขาน่ะอยากให้พยอนแบคโวยวายบ้างหรือบอกว่าเหนื่อยบ้าง แต่คนตัวเล็กนั่นก็ไม่เคยบ่นแถมยังเต็มใจทำให้ทุกอย่าง
คงไม่สนใจเขาเลยสินะ...
พยอนแบคคงคิดว่าเขาเป็นเพียงปาร์คชานที่หื่นมากและเลวมากคนหนึ่ง
“ฉันถามจริงเถอะ
นายควงสาวไม่ซ้ำหน้าแล้วยังคิดว่าพยอนแบคจะเอานายรึไง ห๊ะ” จู่ๆ
โอเซฮุนก็ถามขึ้นมา เขาสงสัยจริงๆ
ว่าปาร์คชานดูจะหลงรักพยอนแบคขนาดนั้นแล้วทำไมถึงควงสาวไม่เลือกหน้ากันล่ะ
“นายต้องลองอยู่ห้องเดียวกับคนที่นายหลงรักแล้วจะรู้เอง”
ปาร์คชานพูดได้แค่นั้นแล้วก็เอามือกุมหัว
แม้จะกล้าในทุกเรื่องตั้งแต่มีเรื่องกับพวกโสโครกหรือกล้ามีอะไรกับผู้หญิงที่เข้าหาไม่ซ้ำหน้า
แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่กล้านั้นใครก็คงคิดไม่ถึง
ไม่กล้าที่จะถามพยอนแบคว่ารู้สึกยังไงกับเขาบ้างก็เท่านั้น
คนขี้ขลาดเลยได้แต่ลองฝึกตัวเองด้วยการคบผู้หญิงคนอื่นเพื่อสร้างแรงใจและพลังให้ตนเองกล้าบอกความในใจกับคนรัก
เขามีอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นเพียงเพื่อจะปลดความใคร่ที่มีเมื่อไม่กล้าสู้หน้าพยอนแบคพร้อมกับฝึกสร้างความแกร่งเท่านั้นเอง
ไม่ผิดหรอก
ต้องฝึกกับผู้หญิงเพราะพยอนแบคน่ะ หวานกว่าพวกนั้นอีก
แต่ก็คว้าน้ำเหลวตลอด ดูสิ
อย่างตอนที่ช่วยพยอนแบคจากพวกโสโครกนั่น
เขายังไม่กล้าถามคนตัวเล็กด้วยความห่วงใยเลย
“ตกลงจะให้ฉันช่วยอะไรนาย บอกที”
โอเซฮุนเริ่มเบื่อที่จะฟังคนฮ็อตของสกายไลท์คร่ำครวญแล้ว
เขาจึงนั่งเท้าคางมองปาร์คชานก่อนจะจ้องมองเพื่อหาคำตอบจากเพื่อนตรงๆ
“ฉันอยากให้พยอนแบคกลับมาอยู่ใกล้ๆ
อยากให้เขารู้ว่าฉันคิดถึงเขามากขนาดไหน” ปาร์คชานคนโง่กล่าวออกมาตรงๆ เช่นกัน
เรียกให้เพื่อนต้องคิดหลายตลบก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ควรทำที่สุดในตอนนี้ออกมา
“มีคนเคยบอกไว้ว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากการขอโทษด้วยความจริงใจ
นายควรไปขอโทษพยอนแบค เพื่อนยาก”
...............ParkChanBadGuy………….
Parkchan’s part…
ผมเคยคิดว่าเมื่อได้พยอนแบคมาเป็นพาร์ทเนอร์แล้ว
ผมก็จะจัดการทุกอย่างได้เอง
แต่มันกลับกลายเป็นว่าผมไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
ตั้งแต่การกระทำที่โง่เง่าขึ้นทุกวันของตนเอง
ทำตัวเป็นแบดกายที่หื่นกระหายต่อหน้าเขา แม้ว่าอันที่จริงจะเป็นแค่ตุ่นผู้โง่เขลาไม่เคยทำตามหัวใจก็ตาม
วันนี้ก็เหมือนวันที่ผมเจอเขาครั้งแรก
ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งนี้เอง ผมเจอเขากำลังหัวเราะกับเด็กคนอื่นอย่างร่าเริง
ร่างบอบบางแสร้งทำเป็นแข็งแรงนั่นทำเหมือนเขาเป็นเด็กร่าเริงที่สุดในโลกและนั่นแหละสิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเขาทันที
พยอนแบคทำตัวไม่เหมือนคนที่โดนพาร์ทเนอร์อย่างผมไล่ออกมาเลย
มันยิ่งทำให้ผมกำดอกไม้ในมือแน่นกว่าตอนเดินออกมาจากร้านดอกไม้กับโอเซฮุนเสียอีก
เขารู้สึกอะไรหรือเปล่า เขาร้องไห้หรือเปล่าเมื่อโดนผมไล่ออกมา
มันบอกไม่ได้เลยเมื่อเขายังยิ้มร่าเริงกับเด็กๆ คนอื่นอย่างนี้
ผมจึงได้แต่ยืนมองจนกระทั่งเด็กคนอื่นออกจากห้องไป...
ชั่วแว่บหนึ่งรู้สึกเหมือนเขามองมาทางนี้จึงรีบซ่อนตัวเองกับฝาผนัง
แต่นั่นก็ทำให้ได้ยินเสียงคนในห้องนั้นชัดกว่าเดิม ชัดเข้าไปในหัวใจ
“ฮะๆ
หลงคิดว่าเป็นปาร์คชานไปได้นะเรา”
เสียงหวานที่แสนคิดถึงเอ่ยชื่อผมให้รู้สึกใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
“เขาจะมาได้ยังไงล่ะพยอนแบค
เขาไล่นายออกมาเอง จำไม่ได้เหรอ ฮึก”
แม้จะได้ยินแค่เสียงแต่ผมก็รู้สึกเหมือนเขากำลัง...ร้องไห้งั้นเหรอ
“นายต้องหยุดหลงรักคนฮ็อตแห่งสกายไลท์ได้แล้วพยอนแบค
ปาร์คชานอึดอัดแค่ไหนที่มีนายเป็นพาร์ทเนอร์...ฮึก เราต่างกันราวฟ้ากับเหว
นายต้องพยายามลืม...ฮือ”
รู้สึกเหมือนทุกคำมันบาดลึกในหัวใจเพราะเขาร้องไห้เพราะผม
เดี๋ยวนะ...ถ้าคนฮ็อตแห่งสกายไลท์ไม่ใช่คนอื่น
เขา...หลงรักผมงั้นเหรอ?
ทันเท่าความคิดเมื่อเท้าก้าวเข้าไปในห้องที่พยอนแบคอยู่แล้วเดินตรงเข้าไปกอดร่างเล็กข้างหน้าต่างตรงนั้น
ผมถูกดันออกด้วยแรงเล็กน้อยทันที แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมเป็นใครพยอนแบคก็จ้องมองด้วยใบหน้าตกตะลึง
“นะ นาย ปาร์คชาน”
เมื่อเขาหาเสียงตนเองได้จึงร้องออกมาพลางเอามือจับใบหน้าผมราวกับพิสูจน์ว่านี่ผมจริงๆ
“ใช่ที่รัก ผมเอง”
ผมตอบพลางใช้มือหยาบของตนเองค่อยๆ ปาดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าเนียนนุ่มนั้นด้วยความอ่อนโยน
สายตาก็จ้องมาอย่างมีความหมาย เขาพูดว่าหลงรักผม
และผมก็จะกำลังจะขอโทษในสิ่งที่ทำผิดพลาดลงไป เราต้องไปกันได้ดีแน่ๆ
แต่พยอนแบคกลับสะบัดตัวออกจากการกอดกุมของผมพลางเดินถอยหลังไปยังมุมห้อง
“นายต้องการอะไร นาย...มาทำไมอีก”
ใบหน้าที่จ้องมองผมแฝงทั้งความน้อยใจ
ความเสียใจและหลากหลายอารมณ์ปะปนกัน
แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันไม่มี...ความเชื่อใจอยู่ในนั้นเลย
“พยอนแบคคือผม...”
มันคืออะไรกันนะความรู้สึกตอนนี้
มันจุกแน่นอยากจะขอโทษเขาแต่ก็พูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
ขณะเดียวกันน้ำตาที่ยังไหลออกมาอาบแก้มเขาก็ทำให้ใจผมปวดร้าวประหลาด
“นายไล่ฉันออกมา ฉันก็ออกมาแล้ว
ขอร้องล่ะ อย่ามาซ้ำเติมในความต้อยต่ำของฉันอีกเลย”
เขาพูดถ้อยคำที่กรีดหัวใจผมให้เจ็บปวด ผมทำให้เขาร้องไห้
ไล่เขามาเหมือนหมูเหมือนหมาเพราะไม่กล้าพอจะปกป้องเขาต่อหน้าคนอื่น อา...ผมช่างขี้ขลาดเสียจริง
น่าจะถึงเวลาที่ปาร์คชานคนกล้าจะต้องออกมาแล้วนะ
ผมคุกเข่าลงตรงหน้าเขาทันทีพลางขยับปากเอื้อนเอ่ยสิ่งที่ควรพูดต่อหน้าเขาด้วยความจริงใจทั้งหมด
“ฉันขอโทษพยอนแบค”
ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างเมื่อผมพูดจบ
เขาถึงกับสะบัดหัวอย่างแรงพลางเอามือลูบๆ ใบหูเล็กน่ารัก
ก่อนที่มือสวยจะเอาไปปิดปากตัวเองไว้แล้วพูดลอดมือตัวเองออกมา
“นาย...หมายความว่ายังไง”
อ่า แน่ล่ะ
เขาต้องประหลาดใจอยู่แล้วเมื่อคนอย่างผมมาคุกเข่าขอโทษแบบนี้น่ะ
“ได้โปรดรับคำขอโทษของผมได้มั้ยพยอนแบค
แล้วผมจะสารภาพทุกอย่างกับคุณ” ผมยื่นดอกไม้ในมือไปให้เขาเมื่อพูดจบ
มือสวยที่ปิดปากเขานั้นสั่นระริกราวกับลังเล
แต่หากสายตาของผมที่เว้าวอนคงส่งไปถึงเขาแน่ๆ พยอนแบคจึงค่อยๆ
ยื่นมือออกมารับดอกไม้ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“นายจะสารภาพอะไรเหรอ”
เมื่อรับดอกไม้ไปแล้วเขาก็ซ่อนใบหน้าครึ่งหนึ่งไว้ภายใต้ช่อกุหลาบจาก
ผมจึงถือโอกาสยืนขึ้นแล้วเอามือหนึ่งจับช่อดอกไม้โดยจับซ้อนทับมือเขาเอาไว้อย่างแผ่วเบาและเอ่ยคำพูดจากใจ
“ผมรักคุณ พยอนแบค”
ปฏิกิริยาของพยอนแบคมีหลากหลายเสียจนผมใจเสีย
แว่บแรกเขาเบิกตากว้างก่อนจะมองไปรอบห้องราวกับหากล้องซ่อนตามผนังและนาทีต่อมาเขาก็เอามือมาบีบแก้มผมไว้
บีบแรงจนผมต้องร้อง
“โอ๊ย คุณบีบแก้มผมทำไม”
หน้านิ่วไม่หายเพราะเขาบีบแรงจริงๆ
“ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยปาร์คชาน
วันนี้คุณดื่มยินผสมวอดก้าอีกรึเปล่า”
สายตาตกตะลึงส่งมาให้ผมไม่น้อยเพราะแปลกใจสุดๆ แต่ผมก็ใช้โอกาสนี้จับเข้าที่มือเขาทั้งสองข้าง
กอบกุมจนร้อนไปหมดแล้วจูบเบาๆ ที่กลางนิ้วนางด้วยความรักทันที
“เปล่า คุณไม่ได้ฝันที่รัก
หากจะฝันก็คงเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาต่างหาก คุณก็รักผมใช่ไหมพยอนแบค”
ก็เพิ่งจะรู้ว่าตนเองฝีปากกล้าเมื่อได้เริ่มต้นพูดก็วันนี้เอง
เขาไม่รู้เลยว่าตนเองสามารถพูดอะไรแบบนี้ได้แถมยังถามต่อคนตัวเล็กข้างหน้าได้อีกว่ารักกันไหม
“แล้วทำไมที่ผ่านมานายถึงเมินฉัน
แถมยัง...เวลาเรามีอะไรนายก็ทำลืม”
ปากน้อยกลับพูดพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำเมื่อเขาสงสัย
ตอนนี้เขาไม่ร้องไห้แล้วแต่กำลังเขินแทนงั้นเหรอ?
“ฉันรักนายแต่แรกพยอนแบค
ฉันขอให้พ่อจัดการเรื่องพาร์ทเนอร์คู่นาย
แต่ฉันไม่กล้าพอจะบอกรักนายจนกระทั่งวันนี้ตอนนี้ ขอโทษจริงๆ ที่รัก”
ผมพูดแล้วก็อับอายในความป๊อดของตนเองจริงๆ แต่ก็พบว่าพยอนแบคเบิกตากว้างขึ้นอีก
“นี่นายไม่ได้ซ่อนกล้องไว้ใช่ไหม?”
เขาเอ่ยถามพลางมองซ้ายขวาอีกครั้ง
“ไม่มีกล้อง...”
ผมจึงตอบไปตามความจริง
แต่สิ่งที่ได้รับคืออ้อมกอดที่พยอนแบคโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
แม้ว่าเขาจะไม่ได้หนักมากนักแต่การโถมเข้ามานั้นกลับทำให้ปาร์คชานรู้สึกดีเหลือเกิน
“ฉันก็รักนาย รักตั้งแต่แรกด้วย”
บอกรักได้อย่างน่ารักจริงๆ พยอนแบคของผม
เมื่อคนตัวน้อยซุกลงอกตัวเองมือใหญ่จึงค่อยๆ
ลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยนพลางให้คำสัญญาตอบแทน
“ฉันขอโทษที่ไล่นายนะ พยอนแบค
มันมีเหตุจำเป็นที่ฉันไม่ควรแสดงให้คนอื่นเห็นว่ารักนาย จนกระทั่งนายไป
ฉันถึงรู้ว่าคิดถึงนายมาตลอด รักนาย พยอนแบค”
“อื้ม รักนายเหมือนกันปาร์คชาน
มาวันนี้คิดจะพากลับใช่มั้ยล่ะ”
เดาเก่งเหมือนหมาเลย
“กลับด้วยกันนะพยอนแบค
สัญญาเลยว่าจะไม่ทำตัวงี่เง่าอีก”
“อื้ม กลับสิ
แต่ขออย่างหนึ่งนะที่รัก”
“ว่ามาได้เลย”
“งั้นเดี๋ยวถึงก็รู้เอง” อ่า
พยอนแบคยกโทษให้แล้ว ผมก็ไม่สนแล้วล่ะว่าเขาจะขออะไรเพราะผมก็ยินยอมเขาทุกอย่างแล้ว
นับต่อจากนี้
...............ParkChanBadGuy………….
“อ่าส์ ที่รัก ได้โปรด”
“หึหึ ขอร้องเบบี้ของคุณสิ
แล้วผมจะช่วย”
ร่างสูงถูกพันธนาการไว้ด้วยเข็มขัดของตัวเองรัดเข้ากับซี่เหล็กของหัวเตียง
มือหนาสั่นระริกเมื่อมือน้อยลูบไล้ไปทั้งตัวอย่างรู้จุดสัมผัส
ปากสูดอากาศลำบากขึ้นทุกครั้งเมื่อมือสวยผ่านจุดกระสัน
“ขอร้องละ เบบี้แบคฮยอนของผม”
ปาร์คชานไม่อายปากที่จะพูดอย่างนี้เพราะเขากับพยอนแบคอยู่กันสองคน
หลังจากไปรับพยอนแบคจากสถานสงเคราะห์กลับมา
ร่างบางก็บังคับให้เขามัดตัวเองเข้ากับหัวเตียง หลังจากนั้นเกมคาดคั้นความจริงก็บังเกิด
ปาร์คชานถูกถามคำถามนับไม่ถ้วนเมื่ออีกฝ่ายไม่เข้าใจการกระทำของเขา แน่ล่ะ
ใครจะเข้าใจบ้าง
แต่มันทรมานเขาไม่น้อยเมื่อคาดคั้นไปมาก็กลายเป็นสภาพแบบนี้
เขานั่งคุกเข่าเอาร่างเปลือยเปล่าโยกโยนต่อหน้าพยอนแบคจอมซนมาสักพักแล้ว
และคนตัวเล็กก็ใจร้ายเหลือเกินที่จะไม่ยอมให้แตะขอบฟ้าสักครั้ง
กำลังทำโทษสินะ
“ตอบมาก่อน
ทำไมปาร์คชานถึงคบผู้หญิงไม่เลือกหน้า
สร้างความเจ็บช้ำให้พาร์ทเนอร์เขาอยู่เรื่อย”
ถามคำถามที่แลดูบีบหัวใจให้เจ็บไปด้วยกัน แม้สติจะลางเลือนเพราะกำหนัดแต่ปาร์คชานก็ต้องตอบ
“ผมจำเป็นต้องทำเพื่อที่จะฝึกมาใช้กับคุณไง
แต่ก็เห็นแล้วว่าไม่ได้ผลเลย ขอโทษจริงๆ ที่รัก อ่าส์”
ทันทีที่พูดเสร็จพยอนแบคก็ก้มลงใช้ปากช่วยให้อีกฝ่ายแตะขอบฟ้า
มือที่ถูกพันธนาการไว้สั่นครืนเมื่อเขาทั้งดูดและกัด แต่สักพักก็ทำให้รู้ว่าเขาแค่แกล้งเท่านั้น
“ไม่ต้องฝึกกับใครแล้ว เข้าใจไหม
ผมพร้อมจะเป็นทุกอย่างให้คุณเสมอ”
มือน้อยค่อยๆ
ปลดชั้นในตัวเองพลางหยิบเจลตรงหัวเตียงออกมาชโลมทั่วส่วนแกนกลางใหญ่และช่องทางของเขา
พอคนตัวเล็กร่างเปลือยเปล่าเพราะไร้อาภรณ์ก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ
ขาเรียวสวยอ้ากว้างแล้วแนบกับขาคนตัวใหญ่เมื่อเข้ามาใกล้มากแล้ว
จากนั้นมือหนึ่งก็จับไหล่แกร่งไว้เพื่อยึดเป็นหลัก
มืออีกมือค่อยๆ จับความเป็นชายเข้าช่องทางของเขา
เสียงครางกระเส่าดังเล็กน้อยเมื่อเขาเสียวเพราะแรงเสียดสี
พยอนแบคยอมเป็นทุกอย่างให้ปาร์คชานจริงๆ เมื่อร่างเล็กกำลังขยับขึ้นลง
ตอนนี้มือทั้งสองข้างของยึดแน่นที่ไหล่แข็งแรงเมื่อเขาต้องกระแทกช่วงล่างแบบนอนสต๊อป
“อ๊า ปาร์คชาน ผมรักคุณ อ๊า”
คำบอกรักเรียบง่ายหากแต่จริงใจและชัดเจนในการกระทำส่งให้ปาร์คชานขยับมือออกจากเข็มขัดที่พันธนาการอยู่
เขาไม่ได้มัดตัวเองไว้อย่างที่พยอนแบคคิดหรอก มันเพียงแค่การยอมอีกคนเท่านั้น
มือหนาเข้าบีบเฟ้นก้นอวบเมื่อแรงอารมณ์เกือบถึงขีดสุด
หากแต่เรี่ยวแรงของพยอนแบคนั้นไม่เคยสู้แม้กระทั้งปาร์คชานตัวน้อยได้
ขยับขึ้นลงไปนิดหน่อย คนตัวเล็กก็พักแล้วเหนื่อยหอบอยู่ตรงอกเขา
“ผมก็รักคุณ พยอนแบคของผม”
ใบหน้าหล่อได้รูปยกยิ้มแล้วปากหนาก็จูบเข้าที่กลุ่มผมนิ่มก่อนจะดันอีกคนให้นอนหงาย
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาเอาส่วนของตัวเองออกก่อนจะสอดแทรกให้ลึกกว่าเดิมเพราะน้ำหล่อลื่นช่วยอยู่
เมื่ออยู่ในท่าถนัดปาร์คชานก็เริ่มขยับทันที
มือหนาประคองสะโพกสวยที่ต้องรับแรงกระแทกไว้ขณะที่ปากได้รูปก็จูบซับเหงื่อให้คนรักตั้งแต่หน้าผากมนจนถึงหน้าท้องราบที่ยืดหดตามแรงอารมณ์ของเขา
“อ๊า ปาร์คชาน อ๊า อีก อ๊า เข้าอีก”
“ใจเย็นที่รัก อ่าส์ คุณสุดยอดมาก”
เสียงครางและเสียงชมไปพร้อมกันเมื่อมันใกล้มาถึงจุดสิ้นสุด
แล้วพอพยอนแบคแตะขอบสวรรค์
ปาร์คชานก็ตามไปช่วยดันเพื่อให้พระเจ้าเปิดประตูให้เขาเข้าไปด้วยกัน
แรงเสียดสีและแรงกระแทกส่งให้คนตัวเล็กเสียวซ่านจนต้องสะดุ้งตัวโยนเอาแขนตัวเองมาเกาะคนรักไว้
แล้วเมื่อปาร์คชานไปแตะขอบสวรรค์ด้วย
ทีนี้พระเจ้าก็ยอมเปิดประตูให้ทันทีเพราะไม่มีแล้วปาร์คชานซาตานคนเดิม
“อื้ม ที่รัก คุณสุดยอดจริงๆ
ผมรักคุณ” เอ่ยชมคนตัวเล็กในอ้อมกอดพร้อมจูบเข้าขมับอีกครั้ง
มีแต่ปาร์คชานพ่อเทพบุตรสุดที่รักของพยอนแบคเท่านั้น
“ผมเองก็รักคุณเช่นกัน
ปาร์คชานแบดกายของผม”
คนรักของพยอนแบคคนนี้นี่เอง
....................The End………………..
ชอบก็ติดแท็ก #parkchanbadguy กันได้
อิอิ
,พี่เนย @noeybaekbd on twttr
No comments:
Post a Comment