Love
Drunk
ว่ากันว่าแอลกอฮอล์คือหนึ่งในสิ่งที่คนใช้ในการดับสติของตนเอง
เขาก็เช่นกัน
ปาร์คชานยอลในวัยยี่สิบห้าปีกำลังดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อทำให้สติของตนเองหดหายไปชั่วขณะ
ให้อย่างน้อยก็ไม่ต้องคิดถึงใบหน้างดงามภายใต้แสงไฟที่เขาหลงใหลนั่น
และลืมให้หมดก่อนว่าต้องการอีกคนมากแค่ไหน
เขารู้ตัวดีว่าคนในห้วงคำนึงคือดาวส่องแสงไปทั่วฟ้า
พยอนแบคฮยอนคือดาราดาวรุ่งที่เขาเอื้อมไม่ถึง แต่ทำไมฟ้าช่างกลั่นแกล้งนัก
ทันทีที่ได้เห็นอีกฝ่ายเต้นท่าทางยั่วในรายการวาไรตี้รายการหนึ่ง
ชานยอลก็ไม่สามารถถอนสายตาจากก้นอวบและใบหน้ายามยั่วยวนนั้นได้เลย
ร้อนถึงเพื่อนรักที่ต้องพาเขามาทำงานวงการบันเทิงเพื่อเจอดาราหนุ่มในดวงใจ
หากแต่โชคชะตาก็กลั่นแกล้งให้เขารับรู้ความจริงอันเจ็บปวด
มันเป็นวันที่เหมือนจะดีเพราะชานยอลได้รับบัตรเชิญจากเพื่อนให้ร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้บริษัทที่แบคฮยอนสังกัดอยู่
เพื่อนตัวดีอวยพรให้เขาแถมยังยุยงให้เอาแก้วไปชนดาราในฝันทันทีที่มีโอกาส และชานยอลก็ไม่พลาดโอกาสนั้นเขาเข้าใกล้แบคฮยอนพร้อมยกแก้วจะชนแล้วในตอนนั้น
หากแต่คิมไคดาราเจ้าบทบาทอีกคนกลับจับเอวคนสวยของเขาไว้พลางลากไปจูบต่อหน้า
ราวกับฟ้าถล่มดินทลายเมื่อเห็นภาพบาดใจ
นี่คืออะไรทำไมสองคนนี้กล้าทำแบบนี้ท่ามกลางคนหลายร้อย
หากแต่สักพักแบคฮยอนก็หัวเราะร่าก่อนจะทุบอกคิมไคคนนั้นแล้วยิ้มตาใส
ไม่ต้องสงสัยแล้ว เขาคบกันแน่ๆ ชานยอลคิด
หลังจากนั้นจึงได้แต่กลับมาที่โต๊ะแล้วซัดเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย
เอาให้ภาพที่เขาจูบกันหายไปจากตา เอาให้น้ำตาที่หลั่งออกมาแห้งขอดไป
รู้ตัวอีกทีก็ถูกพามาห้องนอนของโรงแรมที่อยู่ตึกเดียวกับสถานที่จัดงานเลี้ยงนั่นแล้ว
ชานยอลหัวเราะให้กับตัวเองที่โง่เง่าหลงรักคนวงการมายาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ตัวเองมันก็แค่คนใจป๊อดคนหนึ่ง พอเห็นเขาจูบกันก็ไม่กล้าทำอะไรเลย
ราวกับฟ้าต้องการทดสอบความจริงใจเมื่อลืมตามองอีกทีก็รู้สึกว่าข้างๆ
มีคนนอนอยู่ หันไปมองก็รูปร่างหน้าตาคุ้นๆ แม้เขาจะมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่น้อย
หากแต่สมองก็ยังทำงานด้วยความสงสัยเมื่อคนที่นอนอยู่หน้าตาเหมือนแบคฮยอนไม่มีผิด
“คุณๆ ตื่นสิ หืม?”
กำลังจะปลุกขึ้นมาถามว่าคุณเป็นใครก็กลายเป็นต้องชะงักงันยามร่างน้อยที่นอนอยู่ยกตัวขึ้นมาพลางกดปากลงกับปากเขา
หลังจากนั้นเมื่อตั้งตัวไม่ทัน ชานยอลก็นอนหงายหลังกับเตียงโดยมีคนที่หน้าตาและรูปร่างเหมือนแบคฮยอนนอนคร่อมพลางจูบเขาอยู่แบบแทบไม่ลืมตามองด้วยซ้ำ
แม้แอลกอฮอล์จะพรากสติไปเกือบหมดแต่สัญชาตญาณการสืบพันธุ์ยังอยู่
ปากหนาของคนถูกจูบเลยทำหน้าที่ด้วยการจูบตอบแบบถึงพริกถึงขิง
มือที่ว่างอยู่ก็รั้งเอวคนตัวเล็กเข้ามาแนบกาย
ขาข้างหนึ่งก็ยกขึ้นไปเกี่ยวกระหวัดอีกคนไว้
แอลกอฮอล์เหมือนจะทำให้มนุษย์สามารถสร้างบทรักได้นะว่าไหม
เพราะตอนนี้ชานยอลกำลังมีความสุขเหมือนกำลังได้สร้างเพลงรักร่วมกับแบคฮยอนคนสวยที่เขาคิดถึง
เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายไร้เดียงสา เมื่อจับกางเกงพบว่าอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายเหมือนกันการเกรงใจก็ไม่มีต่อไป
เขาไม่สนแล้วว่าอีกคนเป็นใคร จะใช่แบคฮยอนไหม
ในเมื่อแบคฮยอนที่เขาจับต้องได้มาอยู่ตรงนี้ชานยอลจะไม่ทนต่อไปอีก
มือใหญ่จึงจับตัวอีกคนพลิกให้นอนหงายแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมเอง
ถอดเสื้อให้คนตัวเล็กใต้ร่างพร้อมถอดกางเกงและชั้นในออกให้หมด
เรือนร่างงดงามราวกับเทพธิดาก็ปรากฏ
ชานยอลปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองบ้างแล้วสัญชาตญาณดิบก็บังเกิด
คนอีกคนบนเตียงเหมือนแบคฮยอนมากๆ ในความคิดของเขา
แม้จะรู้ว่าแบคฮยอนตัวจริงคงกำลังคั่วกับคิมไคดาราดังนั่นที่ไหนสักแห่งในโรงแรมนี้
หากแต่เขาก็ไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
ชานยอลตรงเข้าจูบอีกครั้งคราวนี้เขาใช้ลิ้นร้อนสำรวจปากอีกคนอย่างหื่นกระหาย
จูบพลางขบเม้มริมฝีปากด้วยเพราะอีกคนช่างร้อนแรงดั่งแบคฮยอนเหลือเกิน
“อะ อา” คนตัวเล็กใต้ร่างจึงส่งเสียงประท้วงเมื่อเขาตักตวงลมหายใจและความหอมหวานจากโพรงปากสวยไปหลายวินาทีแล้ว
พระเจ้า แม้แต่เสียงก็ยังเหมือนเลยชานยอลคิด
เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่านี่คือภาพหลอนหรือภาพในความคิดหรือเป็นความจริงว่าแบคฮยอนคนสวยมานอนกกกอดเขาอย่างในตอนนี้
ช่างมันเถอะ เขารู้ตัวว่าเขาเมามากแล้วคนตรงหน้าก็เมามากเช่นกัน
มันคงไม่เสียหายอะไรหรอกน่าถ้าเขาจะทำตามใจตนเอง ไหนๆ เขาก๊อกหักจากแบคฮยอนแล้ว
ปากหนาจึงเข้าครอบครองส่วนอกที่มียอดสีชมพูเต่งตึงทันที
ดูดดุนราวกับว่าถ้าคั้นดีๆ จะได้น้ำนมเหมือนกับกำลังดูดจากเต้าแม่วัวนม
หากแต่ความหวานจากเสียงครางและมือที่จิกหัวเขาก็ทำให้รู้สึกเหมือนดื่มนมสดจากเต้าเช่นกันแหละ
มือหนาก็ไม่รอท่า
ลากไปลากมาบนหน้าท้องแบนราบแล้วจบลงตรงจุดยุทธศาสตร์กลางตัวอีกคนพลางปรนเปรอทันที
“อะ อ๊า นาย อ๊า”
เสียงครางดังขึ้นอีกเมื่อชานยอลเริ่มลูบคลำให้เอ็นเส้นเล็กขยายขนาด
เขาหงุดหงิดนิดหน่อยที่อีกคนไม่เรียกชื่อเขาเลย
ใบหน้าหล่อจึงขยับขึ้นไปข้างหูพลางกระซิบเสียงทุ้ม
“ผมชื่อชานยอลครับ คนสวย คุณล่ะชื่ออะไร”
“บะ แบค อ๊า ชานยอลเร่งอีก”
ตอบเสียงหวานให้เขายิ่งหลงใหล ชื่อแบคงั้นเหรอ เหมือนแบคฮยอนเลย แต่เขาไม่สนหรอก
เขาจะทำทุกสิ่งที่เขาอยากทำกับแบคฮยอนลงกับคนตรงหน้านี้
ดีเหมือนกันชื่อคล้ายกันอย่างนี้ค่อยเรียกอย่างที่ชอบได้หน่อย
“เร็วขึ้นอย่างนี้เหรอแบค”
มือหนาจึงขยับชักเข้าออกเร็วขึ้นเพื่อให้อีกคนไปแตะสวรรค์เร็วๆ
ซึ่งเสียงครางหวานที่เขาได้รับนี่มันช่างทำให้ดีใจได้จริงๆ
“อะ อื้อ ชะ ชานยอลดีมาก อื้อ แฮ่กๆๆๆ” เริ่มหายใจติดขัดด้วยความเหนื่อยเพราะน้ำมืออีกคนเริ่มดึงให้เขารู้สึกเหมือนวิ่งมาไกลราวหนึ่งกิโลเมตร
แบคฮยอนแทบทนไม่ไหวเมื่อรู้สึกว่าชานยอลใช้มือเก่งเหลือเกิน
เขากดตัวเองให้ส่วนหัวแนบไหล่อีกคนก็ยังไม่สามารถลดความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นไปได้เลย
มือเรียวสวยราวกับผู้หญิงยกขึ้นมาจิกหลังอีกฝ่ายเมื่อความรู้สึกเหมือนกำลังจะบินออกจากห้องนี้เข้าใกล้มาเรื่อยๆ
ขาแทบไม่ติดเตียงและยกขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนสะโพกที่แอ่นพลางก้นก็กระตุกไปมาจากนั้นเมื่อจังหวะมือถึงจุดบิน
แบคฮยอนก็กระโจนเข้าคว้าชานยอลจากอากาศว่างเปล่าเวิ้งว้างแล้วมือใหญ่ก็ได้รองรับโยเกิร์ตรสธรรมชาติเข้าเต็มเปา
“อ๊า ชานยอล อื้อ เจ็บ อ๊า”
เสียงร้องตอนแตะขอบสวรรค์ยังไม่ทันหายไปเสียงร้องใหม่เพราะความรู้สึกที่ช่องทางหยุ่นก็ดังขึ้นติดๆ
ชานยอลรู้สึกว่าส่วนกลางลำตัวของเขาต้องการปลดปล่อยแล้ว
จึงพลิกอีกฝ่ายให้นอนคว่ำกึ่งก้นก่อนจะใช้มือที่เต็มไปด้วยน้ำรักยัดเข้าไปสองนิ้วในช่องสีชมพูนั่นเพื่อเตรียมให้พร้อม
“อ่าส์ อย่ารัดแน่นสิแบค”
ใช้แค่สองนิ้วก็รู้สึกได้ถึงความคับแน่นเมื่ออีกคนยังไม่ยอมผ่อนคลาย
ชานยอลรู้สึกนิ้วชี้กับนิ้วกลางแทบแตกคารูจึงค่อยๆ สอดนิ้วชักเข้าออกจากนั้นนิ้วนางจึงยัดเข้าไปสร้างทางหลวงหวังว่าเมื่อรถแบ็กโฮที่เตรียมไว้พร้อมเมื่อไหร่จะได้เข้ามาวิ่งสะดวก
“อะ อื้อ จะพยายาม”
คนตัวเล็กก็พยายามไม่น้อยเพื่อให้อีกคนสุขสม
เขาได้ไปแตะสวรรค์รอบหนึ่งแล้วก็เข้าใจเมื่ออีกฝ่ายต้องการบ้าง
มือน้อยก็จิกกับผ้าปูเมื่อนิ้วทั้งสามของชานยอลกำลังดำเนินการสร้างทางหลวงในกายเขาไม่หยุดยั้ง
หากแต่เมื่อผ่อนคลายอารมณ์เพราะชานยอลไปเจอจุดกระสันเข้า ร่างน้อยๆ
จึงยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาด้วยการส่งเสียงตอบ
“อะ เข้ามา อ๊า ค่อยๆ อ๊าๆๆๆ”
ทันทีที่บอกว่าเข้ามาก็รู้สึกว่ามีแท่งกาวอันใหญ่จ่อเข้ากับตัว เมื่อกี้ว่าคุ้นเคยกับนิ้วที่สอดเข้ามาแล้วแต่ว่าของจริงดันใหญ่กว่าของทดลองสักสองเท่าได้เสียงร้องครางจึงดังขึ้นพร้อมกับก้นงอนงามที่แอ่นขึ้นเรื่อยๆ
และมือจิกลงไปในผ้าปูอีก เรียกเหงื่อกาฬไหลลงขมับสวย
“ผ่อนคลายนะคนดี ผ่อนคลาย” ชานยอลจึงก้มกระซิบพลางจูบขมับปลอบขวัญ
ขณะเดียวกันนั้นก็ค่อยๆ สอดเข้าไปลึกๆ สอดแล้วส่ายให้กระทบจุดกระสัน
อีกคนจะได้สบายหน่อย
“อื้ม ตรงนั้น อื้อ อ๊า อ๊า อ๊า”
เสียงอู้อี้เพราะกำลังกดใบหน้าลงกับเตียงลอดออกมาเป็นระยะเมื่อชานยอลค่อยๆ
ควบม้าไปเรื่อยๆ เขาจำจุดที่แบคบอกว่าตรงนั้นได้ก็กระแทกเข้าไปเต็มแรงหวังจะให้อีกคนสุขไปด้วยกันและมันก็เป็นอย่างที่หวังเพราะเสียงครางอืออาดังมาไม่หยุดหย่อน
“อื้อ อื้อ ชะ ชานยอล อื้อ”
เสียงครางหวานร้องไม่หยุดเมื่อชานยอลควบหนัก
หากแต่เขารู้สึกว่ามันไม่สะใจเอาเสียเลย ร่างสูงจึงจับอีกคนมาพลิกตัวขึ้น
จากนั้นเขาก็นอนลงเอาหัวพิงหัวเตียงแล้วให้อีกคนนั่งบนตักโดยที่อีกส่วนก็เชื่อมกันอยู่ไม่หลุดไปไหน
“ผมอยากให้คุณขยับบ้าง ดีไหม ไหนลองซิ”
แม้จะขาดสติแต่ความมันส์ในอารมณ์มันก็ต้องไปกันทั้งสองฝ่าย หากชานยอลเอาแต่สนุกคนเดียวเห็นทีจะไม่แฟร์
มือหนาจึงช่วยประคองก้นงอนงามยามอีกฝ่ายค่อยๆ ขยับดั่งร่ายรำบนร่างเขา
เสียงหวานครางอีกครั้งเมื่อเขาตบก้นเต็มแรงพลางขยำขยี้จนเนื้อหยุ่น
“อ๊าๆๆๆๆ ชานยอล อ๊า มะ ไม่ไหว อ๊า อื้ม”
ยิ่งขยับยิ่งสนุกแต่เพราะการขยับบนตัวอีกคนโดยที่โดนขยำก้นไปด้วยนั้นทำให้อารมณ์ของแบคฮยอนกระเจิดกระเจิง
เขาต้องการให้ชานยอลทำมากกว่านี้ ต้องการชานยอล ตัวของชานยอลและทุกส่วนของชานยอล
มือน้อยจึงลูบไล้เข้าไปหน้าท้องแกร่งของอีกคนพลางก้มลงจูบ
ลิ้นน้อยทำกล้าๆ กลัวๆ
เมื่ออีกฝ่ายแกล้งไม่ให้เขาละลาบละล้วง
จึงต้องครางในลำคอขู่เหมือนแมวน้อยต้องการกินข้าว
คนขี้แกล้งแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครจึงยอมอ้าปากให้ลองทำดู
ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเมื่อแบคฮยอนไม่เคยรุกใครมาก่อน ปากบางบดจูบแบบเด็กๆ
ลิ้นเล็กก็คว้านไปมาไม่มีจุดหมาย
คนเชี่ยวชาญกว่าก็เลยสานต่อด้วยการให้ลิ้นใหญ่สั่งสอน
เสียงครางในลำคอจึงกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆ ตัวหนึ่งซึ่งกำลังถูกหมาบีเกิ้ลตัวใหญ่จับเข้าให้พร้อมกลิ้งไปมาไม่หยุดหย่อน
ส่วนบนก็ดิ้นขลุกขลัก ส่วนล่างก็ขยับยุกยิกไม่หยุดทำให้ชานยอลขัดใจนิดหน่อย
เขาจึงค่อยๆ ประคองตัวอีกคนให้นอนลงบนที่นอนแล้วขาสวยข้างหนึ่งพาดไหล่ตัวเองไว้
“อ๊า ชานยอลค่อยๆ เข้ามา อื้อ อ๊า ค่อยๆ”
หลังจากเปลี่ยนให้เป็นท่าที่ชานยอลประคองแบคฮยอนไว้ทั้งร่างแล้วพื้นที่ระหว่างตัวของทั้งสองก็ลดลงจนการสอดใส่สามารถทำได้อีกหนึ่งระดับ
ร่างสูงจึงขยับแท่งกาวส่วนตัวให้จับยึดแบคฮยอนมากขึ้นแต่เพราะขนาดไม่เล็กของมันจึงทำให้อีกคนร้องเสียงหลง
“อีกนิดนะที่รัก”
เสียงทุ้มหวานหูจึงตรงเข้ากระซิบใกล้ๆ อีกครั้งหนึ่ง
เขาเริ่มรู้สึกแล้วว่าแบคคนนี้น่ารักดีจึงหยอดคำหวานด้วยที่รัก
ซึ่งก็น่าจะได้ผลเพราะคนที่พาดขาไว้กับไหล่เขาเริ่มผ่อนคลายและการเข้าจังหวะกันก็เริ่มอีกครั้งด้วยดี
“อ๊ะ อา อ๊า อ๊า อื้อ ชานยอล อื้อ ช่วยด้วย อื้อ”
เสียงครางดังเรื่อยๆ เมื่อจังหวะมันไปเรื่อยๆ
ลำตัวที่สานต่อกันของชานยอลและแบคฮยอนกระทบกันเสียงปุ๊บปั๊บน่าฟัง
แต่เสียงร้องเพราะแบคฮยอนรู้สึกหนึบๆ
กลับสร้างความรำคาญให้คนที่จะแตะขอบฟ้าไม่น้อย
ร่างสูงลดจังหวะลงแล้วพยายามใช้มือข้างหนึ่งช่วยอีกฝ่าย หากแต่น้ำหนักอีกคนก็ไม่ปรานีเขาเลยนี่สิ
จึงต้องพักจังหวะชั่วครู่ด้วยการถอนตัวเองออกมาจากแม่พันธุ์ร่างสวยเสียก่อน
จากนั้นจึงแหวกทางให้งูตื่นก่อนปากหนาจะครอบส่วนเล็กตรงกลางไว้แล้วดูดดุนให้อีกคนแบบไม่รังเกียจ
“อ๊า ชานยอล อื้ม”
แบคฮยอนไม่รู้มาก่อนว่าจะอีกคนจะหยุดกิจกรรมเข้าจังหวะแล้วยอมใช้ปากพาเขาปลดปล่อยก่อนจึงพยายามร้องท้วง
แต่กลายเป็นว่าชานยอลทำถูกใจซะงั้น
จึงกลายเป็นว่าต้องจิกมือหนึ่งไว้ที่ผ้าปูเตียงพลางยันตัวขึ้นมามองศีรษะทุยกำลังก้มๆ
เงยๆ ตรงหว่างขาตัวเองแทน
“อื้อ อะ มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ”
เมื่อกี้ว่ามือชานยอลเป็นขั้นเทพแล้วที่ทำให้เขาถึงขีดสุดได้
แต่พอเจอปากที่กำลังดูดและขบกัดของอีกฝ่าย แบคฮยอนก็รู้สึกว่าชักจะดีเกินไปแล้ว
ร่างเล็กถึงกับทนไม่ไหวต้องใช้มือหนึ่งจับเข้ากับศีรษะอีกคนเพื่อปลดปล่อยแรงอารมณ์แต่กลายเป็นว่ายิ่งขย้ำหัวอีกคนเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกตัวลอยๆ
มากเท่านั้น
หลังจากดูดและขบเม้มพลางเลียให้อีกฝ่ายใจหวิวแล้วชานยอลก็ทนไม่ไหวเพราะรู้สึกเสียงร้องครางของแบคฮยอนมันน่ากินเหลือเกิน
จู่ๆ หัวสีบรอนซ์ก็ยกขึ้นมาแบบไม่บอกกล่าว
หลังจากนั้นก็จูบเข้าที่ปากงามเพื่อพักยกสักนิด
น้ำหวานจากทั้งปากบนปากล่างของแบคฮยอนมันช่างอร่อยเหลือล้ำเมื่อจูบนี้หวานที่สุดเท่าที่เคยชิมมา
ริมฝีปากร้อนถูกนำมาใช้งานกับริมฝีปากเชอร์รี่อีกครั้งแต่คราวนี้มันหนักหน่วงไปหน่อยเลยทำให้ปากน้อยถูกรุกล้ำจนเจ็บไปหมด
เลือดแทบไหลซิกเมื่อชานยอลใช้ฟันขบเม้มให้เกิดรอยสวย
จากนั้นเมื่อจูบจนหายหมั่นเขี้ยวแล้วจึงกลับไปที่เอ็นน้อยๆ
ของอีกคนตามเดิม
แบคฮยอนตอนนี้ดิ้นเร่าราวกับโดนของร้อนเมื่อชานยอลปรนเปรอส่วนล่างจนเขาเกือบจะเสร็จอีกรอบแล้ว
“อะ อ๊า อีกนิด อ๊า ไม่ไหวแล้ว อ๊าๆๆๆๆ”
เมื่อร่างกายร้อนเร่าเพราะพิษแอลกอฮอล์และแรงลิ้นของร่างสูงคราวนี้น้ำรักจึงออกมาอีกครั้งพร้อมเสียงกระหืดกระหอบ
จากนั้นชานยอลจึงพลิกร่างอีกคนให้นอนตะแคงแล้วตัวเองก็สอดใส่อีกครั้งหนึ่ง
มันค่อนข้างดีเลยล่ะคราวนี้เมื่อร่างเล็กไม่ครางเพราะตัวเองเหนียวหนืดแล้วแต่ครางเพราะบทรักของเขาช่างร้อนแรงเหลือเกิน
“อื้ม แบคฮยอน อ่า ที่รัก อ่าส์”
ยกขาคนตัวเล็กข้างหนึ่งมาพาดไหล่ในขณะที่เขาก็นั่งแบบคุกเข่าพลางกระแทกกลางลำตัวไม่หยุดหย่อน
คนที่นอนอยู่นี่สินำเขาไปสองน้ำแล้วแต่เขายังไม่ถึงสักที
คราวนี้ต้องให้ถึงให้ได้ชานยอลจึงกระแทกแรงขึ้นจนอีกคนต้องบีบผ้าปูที่นอนพลางเอาปากกัดไว้
“อื้อ ชานยอล อื้อ” ร้องเสียงหลงเมื่อการกระแทกกระทั้นมันเริ่มแรงมากไปแล้ว
แต่ก็รู้ว่าเพราะอีกคนยังไม่สุดขอบเขาจึงยอมให้
แบคฮยอนยังคงไม่มีสติในตอนนี้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่จางหายไปแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าบทรักต้องดำเนินต่อไปจนสุดไม่งั้นก็ไม่แฟร์กับอีกคนเลย
“อ่าส์ แบคฮยอน อ่าส์ ในที่สุดคุณก็เป็นของผม”
จนกระทั่งน้ำอุ่นร้อนฉีดเข้าไปในช่องทางสวยชานยอลก็ครางออกมา
เขายังคงคิดว่านี่คือแบคฮยอนดาราดังที่เขาแอบรักอยู่
ใบหน้าหล่อโน้มมาจูบคนสวยอีกครั้งเพื่อขอบคุณในบทรักนี้
จากนั้นทั้งคู่ก็นอนกอดตระกองพร้อมเข้าสู่นิทราไปพร้อมๆ กัน
......................................................................
“งืดดด”
เสียงครางเหมือนหมาน้อยทำเอาชานยอลสะดุ้งตื่นพร้อมกับแสงแดดแยงตาผ่านช่องผ้าม่านเข้ามา
ตากลมโตกะพริบปริบๆ แล้วก็มองไปรอบห้อง นี่มันไม่ใช่ห้องนอนเขามันที่ไหนกันเนี่ย
ย้อนทวนความทรงจำก็พบว่าเมื่อวานนี้ตนเข้ามาเป็นแขกรับเชิญในงานเลี้ยงบริษัทของเพื่อน
ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับแบคฮยอนดาราดังขวัญใจเขานี่เอง
แล้วอารมณ์ผิดหวังที่ตนดื่มเพื่อหวังจะให้มันหายไปก็กลับมาเพราะพบว่าคนที่เขาชอบมีแฟนแล้วแถมเป็นดาราดังเหมือนกันด้วย
เขาจะเอาอะไรไปสู้
พลันคิดก็อยากยกมือขึ้นมากุมหน้าผากหากแต่ยกมือไม่ขึ้นเพราะมีคนคนหนึ่งหนุนนอนอยู่
ทวนสมองอีกรอบก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตนดื่มหนักจนต้องให้เพื่อนหามมานอนโรงแรมส่วนคนในอ้อมกอดนี่ก็มานอนเมื่อไหร่ไม่ทราบ
เปิดผ้าห่มออกก็พบว่าเปลือยทั้งคู่มือข้างที่รองคอคนไม่รู้จักอยู่จึงค่อยๆ
ขยับออกมาหากแต่ก็มีเสียงครางหงิงเหมือนหมาน้อยดังขึ้นแล้วใบหน้างดงามก็ปรากฏสู่สายตาเมื่ออีกคนพลิกตัวมาหาเขา
ใบหน้านี้ ไฝที่มุมปากขวา
หางตาตกทั้งสองข้างและมือน้อยที่มีไฝตรงนิ้วหัวแม่มือซ้าย
นี่...แบคฮยอนจริงๆ หรือ
ตบหัวตัวเองดังป๊าบเพื่อเรียกสติแต่ลักษณะคนตรงหน้านี้ดูยังไงก็แบคฮยอนคนที่เขาชอบแน่ๆ
ไฝแต่ละที่ก็ชัดเจนไหนจะรูปร่างหน้าตาที่เหมือนอย่างกับแกะอีก ชานยอลรู้สึกแปลกๆ
มันปนกันไปมาจนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่นิ่งงันอยู่อย่างนั้น
“อืม ชานยอล” นิ่งค้างอยู่ไม่นานคนในอ้อมกอดก็ครางเป็นชื่อเขาแล้วตาใสแจ๋วก็กะพริบปริบๆ
ก่อนจะเบิกกว้างเมื่อพบว่าฝันกลายเป็นจริง
นี่เขาไม่ใช่ว่าฝันไปหรือว่ากำลังอือรือรองเด่กับคนชื่อชานยอลอยู่
“ว๊ากกกกกกกก”
เสียงกรีดร้องจากดาราดังหน้าสวยจึงดังออกมาแบบที่ชานยอลต้องโดดลงเตียงเพราะคนตัวเล็กเกิดแรงเยอะขึ้นมาลุกแล้วก็ผลักอกเขาออกซะงั้น
“ใจเย็นๆ ผมอธิบายได้ ผมเป็นแฟนคลับคุณ
ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”
ชานยอลรีบคว้าผ้าเช็ดตัวของโรงแรมมาพันส่วนล่างไว้แล้วสะบัดผมพลางเอาแว่นมาสวม
เขาใส่แว่นเพื่อไปตามให้กำลังใจแบคฮยอนอยู่เสมอ
ดังนั้นจึงทำให้ใบหน้านั้นคุ้นเคยสำหรับแบคฮยอนมากๆ
“นะ นายแว่นเมื่อคืนเหรอ?” พอสติมาปัญญาก็เกิด
แบคฮยอนจำชานยอลได้แล้ว แฟนคลับคนนี้เขาเจอบ่อยในงานต่างๆ
แฟนคนนี้มักจะนำดอกไม้มาให้กำลังใจเขาเสมอ
แบคฮยอนพบว่าเขาเป็นเพื่อนกับพี่สไตลิสคนหนึ่งจึงฝากบัตรเชิญงานเลี้ยงให้ไว้
นึกไม่ถึงว่านายคนนี้จะมางานจริงๆ
แบคฮยอนยอมรับเลยว่าเห็นใกล้ๆ แล้วใจสั่นไม่น้อย
คนที่ยิ้มกว้างอบอุ่นคอยเอาดอกไม้ให้เขาทุกงานเป็นคนที่เขาชอบเหมือนกัน
ร่างเล็กตั้งใจว่าจะเริ่มคบกับคนนี้แบบเพื่อนจึงพยายามเดินไปหาพี่สไตลิสที่เป็นเพื่อนเขาและเกือบจะได้ชนแก้วกันแล้วถ้าคิมไคเพื่อนรักไม่มาขัดจังหวะเสียก่อน
คิมไคและเขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนเมืองนอก
การกอดจูบหรือหอมแก้มก็เป็นธรรมเนียมธรรมดาเวลาทักกันแต่เพราเกาหลีใต้ไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมนี้จึงคิดว่าเขากับคิมไคเป็นแฟนกันตลอด
ซึ่งแบคฮยอนก็ไม่คิดแก้ข่าวเพราะมันทำให้เขาไม่มีพวกผู้ชายหรือผู้หญิงน่ารำคาญมาตอแย
นั่นถือว่าดีมากๆ
คิดไม่ถึงว่าชานยอลคนนี้จะเห็นเขากับคิมไคกอดจูบกันพอดีแล้วก็เอาไปคิดมาก
เขาไม่ทันทักท้วงก็หายไปไหนไม่รู้แล้ว
รู้ตัวอีกทีตัวเองก็ดื่มหนักแล้วก็ให้พี่สตาฟพามานอนจากนั้นก็ตื่นมาเจอคนที่แอบชอบในสภาพนี้เลย
ก้มลงมองตัวเองใต้ผ้าห่มเห็นรอยแดงๆ
กับอาการปวดบั้นท้ายขึ้นมาหน่อยๆ ก็รู้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
“อย่าบอกนะว่าเราสองคน ฮื่อ”
พอมองว่าร่างกายชานยอลก็มีแต่รอยแดงๆ เช่นกันเขาก็เอ่ยปากออกมาพลางก้มหน้าลงมุดกับผ้าห่มทันที
“คือ ผมขอโทษ ผมแอบชอบคุณมานานแต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ
ผมเมามากแล้วผมก็ไม่รู้ว่าเป็นคุณจริงๆ ทำไมคุณถึงไม่อยู่กับแฟนคุณผมก็ไม่รู้
ผมขอโทษ” ชานยอลใจเสียมากเมื่อเห็นท่าทางแบคฮยอนเป็นแบบนั้น คงเสียใจมากๆ
สินะที่ดันพลาดมานอนและมีอะไรกับเขา เขามันเป็นแค่แฟนคลับงี่เง่า ชานยอลคนงี่เง่า
“เอางี้นะ คือเอ่อ
ผมไม่รู้ว่าแฟนคุณจะว่ายังไงแต่คุณจะเรียกร้องอะไรก็ได้ ผมยอมคุณทุกอย่าง
คุณต้องการอะไรผมยอมหมด ขอร้องอย่าโกรธผมหรือร้องไห้นะครับแบคฮยอน”
ชานยอลใจเสียจริงๆ ที่เห็นแบคฮยอนไม่พูดอะไรเลย
เขาไม่รู้ว่าใบหน้าสวยนั่นกำลังร้องไห้หรือกำลังโกรธเขากันแน่ คงโกรธสินะ
คงไม่ได้อยากนอนกับเขาหรอก
“งั้นรับผิดชอบด้วยการเป็นแฟนจะได้รึเปล่าล่ะ”
ชานยอลกำลังค่อยๆ
นั่งลงบนเตียงพลางขยับไปใกล้อีกคนก็ได้ยินเสียงจากคนไม่รู้จักดังขึ้นหน้าประตูซะงั้น
“น่าจะได้นะ
ฉันกับนายลงทุนมาขนาดนี้แล้วเพื่อให้เขาสมหวังน่ะ” อีกเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ
ชานยอลจึงหันไป คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่รู้จักถึงสองคน
“คิมไค คิมจงแด!”
คนหนึ่งเป็นดาราที่มีข่าวว่าเป็นแฟนกับแบคฮยอนคนสวยแต่อีกคนก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานทำงานเป็นสไตลิสที่บริษัทของแบคฮยอน
สองคนนี้หมายความว่ายังไง
“หมายความว่าไง คิมไคอ่า”
แบคฮยอนได้ยินชานยอลอุทานเป็นชื่อเพื่อนจึงเงยหน้าขึ้นมาจากผ้าห่มเสียที
เขาหน้าร้อนเห่อเพราะไม่รู้จะทำยังไงจึงยกผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้านิดนึงด้วย
“คนที่พานายมาห้องนี้คือฉันเองแหละที่รัก”
คิมไคจึงเอ่ยคำเฉลย
“ส่วนฉันก็พานายมาห้องนี้เหมือนกันชานยอล” คิมจงแดก็กล่าวเช่นกัน
“หมายความว่ายังไง?”
ว่ากันว่าแอลกอฮอล์มักทำให้ระบบความคิดของคนเราช้าไปหนึ่งจังหวะ
ชานยอลและแบคฮยอนที่เมามากและยังค้างอยู่จึงไม่เข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
“นี่เราทำถูกมั้ยเนี่ย ทำไมบื้องี้วะพี่จงแด”
คิมไคจึงกุมหัวพลางกล่าวบ่นไปกับอีกคน
“ทำถูกแล้วน้องรักแต่ต้องให้เวลาพวกเขาสักหน่อย”
คิมจงแดก็เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเฉลยจริงจัง
“ก็แบคฮยอนน่ะสนใจในตัวชานยอลน่ะสิ แต่อีกคนมันก็ป๊อดสิ้นดี
มุขสร้างแรงบันดาลใจให้ดื่มเหล้าแล้วมอมให้นอนด้วยกันเลยผ่านหัวเข้ามา ไงล่ะ
ดูจากสภาพแล้วเมื่อคืนกี่ยก ฮ่า” พูดจบก็หัวเราะออกมาทั้งคู่อย่างคนอารมณ์ดี
แต่ชานยอลกับแบคฮยอนนี่สิกลับทำตัวไม่ถูก
อีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบชอบตัวเองแต่กลายเป็นคนอื่นรู้หมดแล้วพามาให้สองคนเจอกันแถมยังอือรือรองกันแล้วอีกอย่างนี้
ตอนนี้เลยทำได้แต่แบบนี้เท่านั้น
“ย่าห์ๆๆๆๆๆๆ พวกนายนี่มัน!”
สุดท้ายจึงได้แค่วีนแล้วก็โยนหมอนใส่สองคนต้นคิดให้ออกจากห้องไปเพื่อระบายความอายที่มีเท่านั้นแหละ
“โอ๊ยๆ เบาๆ สิวะ เฮ้ย เจ้าสาวโหดว่ะ ไปแล้วเว้ย”
แต่คิมไคกลับหัวเราะแล้วเดินออกห้องไปอย่างอารมณ์ดี
“ปรับความเข้าใจกันด้วยล่ะนายเจ้าบ่าว”
และคิมจงแดก็หัวเราะอีกคนก่อนจะปิดประตูห้องอีกครั้งแล้วออกไปแบบชานยอลไม่ทันทักท้วงด้วย
“ย่าห์ๆๆ คิมจงแด กลับมาก่อนสิวะ แม่มเอ๊ย”
ด่าตะโกนตามหลังแล้วก็พบว่าอีกคนมองอยู่
ชานยอลเลยต้องกลืนน้ำลายเอื้อกก่อนจะทดลองถามก่อน
“เอ่อ แบคฮยอน เอ่อ ชอบผมเหรอ?” ถามไปก็เขินไปจนต้องเกาหัวแกรกๆ
“อะ เอ่อแล้วนาย เอ่อ ชานยอลชอบฉันเหรอ?”
แบคฮยอนก็ไม่กล้าตอบเพราะยังเขินจึงได้แต่ถามตอบไปเหมือนกัน
“เอ้อ คือยังไงดีล่ะ
ผมเป็นแฟนคลับคุณแต่ผมก็เพิ่งรู้ว่าชอบคุณตอนที่เห็นคุณจูบกับคิมไคนั่น
ยอมรับว่าอยากรู้จักคุณมากกว่านี้แต่พอเห็นเขาเป็นแฟนคุณก็ใจสลายก็เลยต้องดื่มอย่างนั้น
โธ่ จะว่ายังไงดี” ว่าไปก็ตบหน้าผากตัวเองด้วย เขาเองก็เพิ่งรู้จริงๆ
ว่าที่ผ่านมาชอบแบคฮยอนมากกว่าดาราแฟนคลับซะงั้น
แต่ชานยอลก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ
ก็ถูกรั้งคอเข้ามากดจูบกับปากสวย อารามตกใจจึงไม่ทันขัดขืนแต่พอแบคฮยอนถอนปากออกไป
เขาก็รู้สึกว่าหน้าร้อนมากๆ แถมยังร้อนได้อีกเมื่อปากสวยเอาแต่บ่น
“ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าชอบนายตอนที่นายไม่ยอมเข้ามาหาฉันเหมือนกัน
ถึงได้ดื่มเยอะจนเมาไม่รู้เรื่องไงเล่า คนบื้อ”
บ่นแล้วก็เบะปากเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำด้วย
“อ้าว แล้วคิมไค...” เพราะยังเมาค้างนิดหน่อยชานยอลเลยยังงงเรื่องคิมไคอยู่
“นายบื้อ!
เห็นรึยังว่าคิมไคร่วมมือกับเพื่อนนายจับคู่ฉันกับนายอ่ะ
คิมไคเป็นเพื่อนไงเล่าแต่เพราะเป็นเพื่อนกันมานานเรื่องกอดจูบเลยทำแบบฝรั่งทำกันอ่ะ
เข้าใจมั้ย?” อธิบายให้ฟังไปก็เบะปากไป ทำไมนายคนนี้ซื่อบื้อจังเลย
“จะ จริงเหรอ?”
“ไม่จริงมั้ง”
แบคฮยอนหมดความอดทนที่จะต้องอธิบายแล้วจึงทำทีจะลุกขึ้น
แต่บั้นเอวสวยเกิดเจ็บแปลบๆ เลยทำให้ล้มใส่อีกคนซะงั้น
“อ๊ะ ฮื่อ”
อุทานแล้วยังล้มใส่อ้อมกอดของอีกคนพลางเบะปากน่ารัก
เรียกให้ชานยอลรู้สึกเริ่มสร่างเหล้า ขนาดนี้แล้วจะไม่ให้รับผิดชอบแบคฮยอนด้วยการเป็นแฟนเห็นจะไม่ได้ละ
“อย่าเพิ่งไปไหนสิครับ ให้ผมขอเป็นแฟนก่อนได้ไหม”
กล่าวแล้วยิ้มกว้างเพื่อให้อีกคนอุ่นใจแล้วแบคฮยอนก็เลยพยักหน้าฮึดฮัดตอบ
“ฮื่อ เร็วๆ สิ เดี๋ยวเขิน”
ตอบอย่างน่ารักแถมใบหน้าก็แดงระเรื่อด้วยนั่น
“เป็นแฟนกับผมนะครับแบคฮยอน”
ชานยอลจึงก้มลงจูบหน้าผากก่อนจะเอ่ยคำหวานพร้อมกับยิ้มกว้างเมื่อพูดจบ
เรียกใบหน้าดาราดังอย่างแบคฮยอนให้ขึ้นสีระเรื่อยิ่งกว่าตอนโคดี้นูน่าปัดบรัชออนให้
ใครเขาขอเป็นแฟนหลังจากเจอกันครั้งแรกหรือมีอะไรกันครั้งแรกเล่า
ชานยอลต้องยังไม่หายเมาแน่ๆ คนบ้า ฮื่อ
“ก็ได้
รับผิดชอบด้วยการเป็นแฟนเราไปตลอดชีวิตเลยนะ”
แต่ปากสวยก็เอ่ยตอบรับพลางยื่นมือที่กำทุกนิ้วยกเว้นนิ้วก้อยออกไปเพื่อขอสัญญาด้วย
“สัญญาเลยครับ”
ชานยอลจึงจูบเข้าที่นิ้วก้อยนั้นแล้วเอานิ้วตัวเองมาเกี่ยวบ้าง
เรียกให้ใบหน้านวลขึ้นสีระเรื่ออีกครั้ง บทจะพูดก็พูดทุกอย่างเร็วเกินไปละ
ตกลงสัญญาเร็วเกินไปนะ
“งั้นหมั้นเลยสิ”
คนตัวเล็กจึงเอ่ยแกล้งพลางยื่นมือให้สวมแหวน
“เอางั้นเลย”
ชานยอลตลกในท่าทางอีกคนจึงกล่าวกลั้วหัวเราะ
“ไม่ใจเลยอ่ะ”
เรียกให้แบคฮยอนทำหน้าบู่วแล้วหันหน้าไปอีกด้านทันที
“โอเคครับยื่นมือมา”
ชานยอลจึงต้องเรียกให้หันมาพลางยกมือน้อยขึ้น “หันหน้ามาหน่อยนะ”
เมื่ออีกฝ่ายหันหน้าจึงเอาแหวนที่ตนใส่ซ้อนสองวงถอดออกมาวงหนึ่งแล้วสวมเข้ากับนิ้วเรียวสวย
เป็นนิ้วกลางข้างขวานิ้วเดียวกับที่เขาสวมแหวนนี้ จากนั้นก็จูบเบาๆ
ที่หัวแหวนแล้วหอมแก้มแฟนและคู่หมั้นหมาดๆ ของเขา
แบคฮยอนหน้าแดงอย่างนี้น่ารักกว่าตอนแต่งหน้าเข้าฉากเสียอีก แบคฮยอนแฟนของเขา
“ต่อไปนี้เราเป็นแฟนกันนะครับแบคฮยอน”
“อื้ม เป็นแฟนกันนะชานยอล”
บางทีแอลกอฮอล์ก็อาจจะทำให้สติของเขาเลือนหายไป
แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ ที่ทำให้เขาได้เป็นแฟนกับแบคฮยอน
เป็น Love (from) drunk ก็ดีเหมือนกันแฮะ
…………………………………………………………
แต่งฟิคแก้บนจ้า
ถ้าต้องการเม้นหรืออยากบอกว่าฟินไหมก็ทวิตแล้วติดแท็ก
#ficlovedrunk ละกันเนอะ
ตอนแรกว่าจะโฮกฮากอย่างเดียวแต่ถ้าไม่มีสตอรี่เลยพี่ว่ามันเหงาไปแหะๆ
ขอบคุณที่มาอ่านจ้า ตอนนี้พี่เนยมีผลงานฟิค #ยกมดลูกให้คยอง
อยู่ ไปอ่านกันได้
ส่วนฟิค #ยกมดลูกให้แบค
ก็เปิดจองอยู่นะ ฮาร์ดเซลเหลย
,พี่เนย @noeybaekbd on twttr
…………………………………………………………………….
No comments:
Post a Comment