Saturday, November 11, 2017

ส่วนขยาย คยองซูคนมึน ep.16 ฉากง้อคยองซู

ส่วนขยาย คยองซูคนมึน ep.16 ฉากง้อคยองซู

จงอินหงุดหงิดนิดหน่อยหลังจากโดนสบประมาทจากอดีตคู่แข่งความรักอย่างเซฮุน ไอ้บ้านั่นตอนนี้มันถือไพ่เหนือกว่าเพราะน้องคยองซูไปพึ่งพามัน แต่พอคิดอีกทีมันก็ความผิดเขานี่หว่า ทำไมตอนนั้นถึงไปหลอกน้องเค้าได้เนี่ย

คิดแล้วก็ปลงชั่วครู่ ยังไงเซฮุนมันก็ยอมรับแล้วว่ามันไม่ได้รักคยองซูแล้ว ศัตรูหัวใจตอนนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากตัวเอง จงอินหรือนีนี่ก็คนเดียวกัน คยองยอมเจอนีนี่ก็ถือว่าเขาเข้าใกล้น้องมากกว่าเมื่อวันก่อนแล้ว

...

ทางด้านชานยอลหลังจากแชทกลุ่มเสร็จก็ตัดสินใจโทรไปคุยกับเซฮุน เพราะตนเองมีลางสังหรณ์ประหลาด แล้วมันก็ไม่ต่างจากที่คาดไว้เท่าไหร่

“ใช่... ผมกับจุ๋ม เรามีอะไรกันแล้ว”

ไอ้หมอหน้ากวนตีนตอบเขามาแบบเสียงนิ่งๆ ชานยอลอยากจะไปดูหน้ามันนัก ไอ้นี่เป็นมารหัวใจจงอินไม่พอ ตอนนี้มันยังคาบพี่เขาไปกินแล้วไม่ยอมรับผิดชอบอีก มิน่าล่ะ วันก่อนจู่ๆ จุ๋มก็ขอป๊าไปดูงานรีสอร์ทที่มัลดีฟส์เฉย ต้องเป็นเพราะหนังสดที่เขาได้ยินจากโทรศัพท์วันนั้นแน่ๆ เสียงครางดังอืออาขนาดนั้นถ้าไม่ใช่กำลังมีอะไรกัน แล้วจะทำอะไรล่ะ

สุดท้ายพี่เขาก็ได้กันกับไอ้หมอนี่ พอได้กันแล้วมันคงไม่รับผิดชอบสินะ พี่จุ๋มถึงได้หนีไปมัลดีฟส์ ชานยอลถามหาความรับผิดชอบพร้อมกับอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นหมอ คงไม่เลวขนาดกินเพื่อนแล้วนิ่งเฉย แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้เขาอึ้งมากๆ

“รอจัดการเรื่องน้องคยองซูก่อน แล้วผมจะคบกับจุ๋มอย่างเป็นทางการ”

เฮ้ย ไอ้นี่มันเอาจริงว่ะ หมายความว่าพี่จุ๋มของเขาจะสมหวังแล้วดิ ที่มันบอกว่าหัวใจอยู่กับคนอื่นนานแล้วคือมันไปชอบจุ๋มตอนไหนวะ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมันยังบอกว่าชอบน้องคยองซูของไอ้จงอินอยู่เลย

“ผมรู้ใจตัวเองแล้ว เรารีบให้จงอินคืนดีกับคยองซูเถอะ แล้วผมจะตามจุ๋มไปมัลดีฟส์”

เชี่ย... ชานยอลพึมพำกับตนเอง เขากลับมากอดภรรยาแสนน่ารักอย่างแบคฮยอน หอมแก้มน้องหนึ่งฟอด ก่อนจะโดนถามกลับมาว่าเป็นอะไรมากไหม จึงตอบกลับไปว่าจู่ๆ ก็อยากกอด ชานยอลไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ไปล้มงานหมั้นวันนั้น นอกจากจะได้น้องแบคฮยอนมาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ความรักของพี่จุ๋มสมหวังไปด้วย

เหลือก็แต่จงอินนี่ล่ะ เอาจริงเขาเองก็มีส่วนผิด เขาเป็นคนบอกให้จงอินปิดบังความจริงต่อไป จนกระทั่งคยองซูรู้เรื่องจากคนอื่น กระทบแผลเก่าซึ่งถูกพ่อของเซฮุนทิ้งรอยไว้ จากนั้นก็กลายเป็นว่าน้องเองไม่ยอมเปิดใจให้จงอินอีก ทั้งๆ ที่ยอมเป็นแฟนกันแล้ว

ความรักของแต่ละคนมันช่างซับซ้อนจริงๆ ให้ตายเหอะ ขนาดว่าเป็นแฟนกัน คยองซูกลับไม่ฟังความจงอินเลยว่าทำไมต้องปิดไว้ ส่วนของชานยอลน่ะหรือ เอ้อ ซับซ้อนกว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่ารักกันขนาดไหน จนกระทั่งวันที่เขาล้มงานหมั้นแล้วได้หมั้นกับแบคฮยอน เรียกได้ว่าชานยอลหวงและห่วงแบคฮยอนยิ่งกว่าไข่ในหิน นี่แค่พาจงอินมาแต่งหน้าเขาก็ตามมานั่งเฝ้าภรรยาไม่ห่างเลยล่ะ

หวังว่าการไปง้อคยองซูพรุ่งนี้จะทำให้เพื่อนของเขาดีขึ้น จงอินมันปิดบังคนอื่นเก่ง ปากดีทำเป็นทะเลาะกับหมอฮุนขนาดนั้นแต่ถ้าสังเกตดีๆ ขอบตาดำคล้ำกว่าปกติแถมยังหน้าหงอยๆ นั่น ดูยังไงว่ามันก็เสียใจที่สุดที่ทำให้น้องคยองโกรธ

แบคฮยอนบอกว่าคยองซูเจ็บมาก แต่คนที่เจ็บไม่แพ้กันก็คือจงอินนั่นเอง

...

วันรุ่งขึ้น

แบคฮยอนนัดแนะให้จงอินไปเจอกันที่หน้าร้านของเหมียว วันนี้เจ้าของร้านเบเกอร์รี่ถึงกับลงทุนปิดร้านหนึ่งวันเพื่อไปติดตามดูการง้อเพื่อนสนิทถึงสุพรรณ หลังจากทุกคนเจอกันก็ย้ายมานั่งรถของชานยอลคันเดียว สารถีของวันนี้คือสามีหมาดๆ ของแบคฮยอนนี่แหละไม่ใช่ใคร รถเอสยูวีแปดที่นั่งสตาร์ทแล้วพาทุกคนไปยังเป้าหมายคือร้านเสริมสวยทันที

ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเตรียมตัวพร้อมก่อนแล้ว พวกเขาพาจงอินไปเปลี่ยนโฉมเป็นนีนี่อีกครั้ง ส่วนทางแบคฮยอนก็เริ่มเอาเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมา เมื่อวานช้อปปิ้งชุดให้จงอินอย่างเมามันเลยล่ะ มีทั้งชุดเดรสยาว เดรสสั้น แต่วันนี้น้องนีนี่ของคยองซูเลือกมาแล้วว่าจะใส่กางเกง แบคฮยอนจึงเอาเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวออกมาแผ่กับกางเกงขายาวสีเหลืองตัวหนึ่ง ดูแล้วสวยดี คยองซูต้องชอบแน่ๆ

สองชั่วโมงผ่านไปทุกอย่างก็เริ่มลงตัว จงอินจากหนุ่มร่างโตผิวแทน ก็กลายร่างเป็นสาวสวยหุ่นนางแบบผิวสีน้ำผึ้ง สวยจนชานยอลต้องผิวปากแซ็วหลายๆ รอบ ซึ่งพอน้องนีนี่ทนไม่ไหวก็ถีบสามีของแบคฮยอนให้ลงไปนอนกับพื้นเล่นท่ามกลางเสียงหัวเราะ บรรยากาศสนุกสนานเสียจนรู้สึกว่าวันนี้มันต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่ๆ

ประมาณสิบเอ็ดโมง ล้อรถก็หมุนอีกครั้ง พวกเขานัดกับคนนำทางที่เซฮุนเตรียมไว้หน้าอำเภอ พอถึงที่นั่นก็จะขับรถตามมอเตอร์ไซค์ของคนนำทางที่ชื่อว่าลุงบุญช่วย แบคฮยอนเคยเจอลุงบุญช่วยแล้ว จึงสามารถระบุใบหน้าของผู้สูงวัยได้ไม่ยากนัก พอเจอกันทักทายนิดหน่อยก็ขับรถตามไปยังบ้านพักซึ่งเซฮุนอธิบายว่าเขามาซื้อไว้เพื่อพักผ่อนนั่นเอง

ลุงบุญช่วยตะโกนจากด้านหน้าว่าอีกนิดนึงสักร้อยเมตรจะถึงแล้ว แบคฮยอนถึงกับใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ รู้สึกปวดท้องน้อยเล็กๆ เหมือนเบบี๋จะตื่นเต้นตามไปด้วย พอหันไปทางด้านคนขับก็เจอชานยอลยิ้มให้จากนั้นก็ยกมือข้างซ้ายมากุมมือเขาไว้ พาให้อุ่นใจไม่น้อย จึงหันไปเบาะหลังก็พบว่านีนี่กำลังนั่งกอดอก แต่เหงื่อข้างขมับก็บอกได้อย่างดีว่ากำลังตื่นเต้นไม่แพ้กัน

“แบคว่า... คยองจะโกรธเราอีกมั้ย?” จู่ๆ เหมียวก็ถามขึ้นมา
“ไม่รู้สิ” แบคฮยอนตอบแค่นั้นแต่ใจก็คิดไปไกลเกินคำว่าไม่รู้อยู่มาก มันตื่นเต้นเพราะเขาไม่แน่ใจเลยว่าแผนนีนี่จะได้ผลร้อยเปอร์เซ็น ถ้าคยองซูจับได้ว่าพวกตนหลอกอีก ไม่แน่คราวนี้อาจจะถึงกับตัดเพื่อนเลยก็ได้

แต่คิดอีกที พวกเขาก็ไม่ได้หลอกคยองซูนี่นา จงอินก็คือนีนี่จริงๆ ทั้งเหตุการณ์ในอดีตหรือเค้าโครงหน้าหรืออื่นๆ ก็ตรงกันหมด จะไม่ใช่ก็แค่ว่าคยองซูไม่ยอมรับเท่านั้น

หวังว่าจงอินจะไม่ตื่นเต้นจนลืมบทที่ซ้อมไว้ บอกว่าตนเองคือนีนี่ พอน้องใจอ่อนก็ค่อยบอกว่าเป็นจงอิน พูดดีๆ อย่าทำให้คยองซูงงหรือเข้าใจผิดก็แล้วกัน


“แบค!

แบคฮยอนตกใจจนเซไปนิดหน่อย ดีว่าชานยอลยืนอยู่ข้างๆ เลยประคองไว้ไม่ให้ล้ม คุณสามีดุนิดหน่อยว่าระวังด้วยแต่พอเขาก้มหน้าก็ค่อยๆ ประคองไปนั่งอย่างอ่อนโยน ก็ใครใช้ให้คยองซูตะโกนเรียกชื่อเขาดังกันเล่า

“คยองอ่ะ เรียกซะตกใจเลย” เมื่อมาถึงบ้านไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ คยองซูก็เชิญทุกคนมานั่งใต้ถุนบ้าน คือแม้จะเป็นบ้านเรือนไทยแต่มีการตกแต่งอย่างดี ชั้นล่างเทปูนแล้วกั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งตรงนี้คือส่วนรับแขก

“ก็เราดีใจนี่นา ไหนล่ะนีนี่” คยองซูเมื่อยกน้ำมาให้ทุกคนดื่มแล้วก็ถามหาคนที่อยากเจอทันที ชานยอลกับแบคฮยอนพยักหน้าให้กัน จากนั้นประตูเบาะหลังคนขับก็เปิดออกพร้อมกับขายาวๆ ใต้กางเกงสีเหลืองก้าวลงมาอย่างกระฉับกระเฉง

“นีนี่!

ทันทีที่ประตูรถปิดลง จงอินยังไม่ทันจัดการกับผมที่ปรกหน้าก็ได้ยินเสียงร้องของคนรักเข้ามาใกล้ทันที ร่างสูงแทบจะล้มไปด้านหลังเมื่อคยองซูเข้ามากอดเขาโดยไม่ทันตั้งตัว แม้จะเป็นแฟนกันแต่คยองซูก็ไม่เคยกอดเขาหนึบขนาดนี้ จงอินจึงทำตัวไม่ถูก ได้แต่ปัดผมปลอมไปด้านหลัง แล้วยกมือขึ้นมาลูบไหล่คนตัวเล็กกว่าเท่านั้น

“อะแฮ่ม” กระแอมไอหนึ่งครั้งก่อนจะดัดเสียงเล็กน้อย “สวัสดีจ้ะคยองซู” จงอินพูดออกไปแล้วรู้สึกอยากปาดคอตัวเองทิ้ง ทำไมเสียงมันแรดขนาดนี้

“สวัสดีนีนี่” คยองซูเมื่อได้ยินเสียงทักทายก็ผละออกมา จากนั้นก็ยืนมองอีกฝ่ายเสียจนจงอินรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าทั้งตัว อึดใจหนึ่งเขารู้สึกว่านี่ตัวเองกำลังยืนอยู่กลางแดดนี่นา จึงได้ออกปากขอเข้าไปใต้ถุนบ้านด้วย

“เราเข้าไปข้างในก่อนไหม”
“อ้อๆ อื้มๆ เข้ามาสิ”

หลังจากการทักทายกันหอมปากหอมคอว่านีนี่สบายดีไหม นีนี่สวยจัง รวมไปถึงการถามว่าทำไมคยองซูถึงได้หัวเกรียนแบบนั้นเหมือนคนกำลังจะบวช พอได้คำตอบว่าเกือบบวชแต่หลวงพี่ไม่ยอมให้บวช จงอินแทบสำลักน้ำ นี่เขาควรจะไปขอบคุณหลวงพี่มั้ย ถ้าคยองบวชไป เขาคงไม่สามารถมาง้อแบบนี้ได้แน่

ฟากแบคฮยอนก็ช่วยหาเรื่องคุยไม่แพ้กัน หลังจากพูดคุยเรื่องปัจจุบันถึงส่วนที่ไม่สามารถตอบได้อย่างเช่นกำลังทำงานอะไรหรือเรียนที่ไหนพักที่ไหนแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นการคุยถึงอดีตทันที ซึ่งตรงนี้ชานยอลถึงกับต้องกลั้นขำจนท้องแข็งกับวีรกรรมสมัยเด็ก เมื่อคยองซูผู้ไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก๊งค์พิทักษ์นีนี่ ถึงจะตัวเองจะอยู่ป.3 นีนี่อยู่ป.6 ก็ยังยืนยันจะปกป้องด้วยตัวเอง

ทุกคนพากันหัวเราะเมื่อคยองซูเล่าให้ฟังว่านีนี่ตัวเล็กแล้วก็ผอมบางมากๆ เดินทีเหมือนตัวจะปลิว ถึงคยองซูจะตัวเตี้ยกว่าแต่ก็ตัวหนากว่านิดหน่อย ดังนั้นเมื่อมีใครมาแกล้งให้นีนี่ต้องร้องไห้ คยองซูก็จะวิ่งแจ้นจากห้องป.3 ไปหาห้องป.6 ด้วยตัวเองทุกครั้ง

คุยกันสักพักแบคฮยอนก็บอกว่าตัวเองหิวแล้ว คยองซูจึงขอตัวไปเตรียมอาหารสักครู่ ได้กลิ่นอาหารโชยมาหอมมากมาย หนึ่งในนั้นคงฉุนจมูกคนท้องไม่น้อย จึงลุกไปอ้วกในห้องน้ำมาหนึ่งรอบ ให้ชานยอลประคองออกมา จากนั้นก็นั่งล้อมวงกินข้าวกัน

ปรากฏว่ากับข้าวบางอย่างที่คยองซูทำกลับเป็นของโปรดของนีนี่ นั่นทำให้จงอินปลื้มใจไม่หยุด เขารู้สึกราวกับว่าคยองซูรู้ว่าเขาชอบกินอะไร แน่ล่ะ เวลาที่จงอินซื้อกับข้าวไปกินกับคยองซูหลังร้านยา ก็มีแต่ของที่เขาชอบเป็นหลัก จะคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ยนะว่าคยองซูใส่ใจเขา แต่ก็นั่นแหละ จงอินกินข้าวไป ภายนอกยิ้มหวานอ่อนโยนแต่ในใจก็ขมขื่นไปด้วย หลังกินข้าวนี่แหละเขาต้องเปิดเผยตัวจริง หวังว่าเมื่อคยองซูรู้จะไม่ไล่เขาก่อนจะได้อธิบายอะไรนะ

แบคฮยอนอ้างว่ากินข้าวอิ่มแล้วง่วงนอนจึงขอคยองซูไปงีบในห้องรับแขกด้านบนหน่อยซึ่งชานยอลก็ตามไปเพื่อดูแลภรรยาทันที เหมียวเองก็บอกว่าต้องโทรหาแฟน ตอนนี้ลุงบุญช่วยก็ไปกินข้าวกับป้าสมศรีเมียแกแล้ว สุดท้ายจึงเหลือ แต่คยองซูกับจงอินในคราบนีนี่ ชวนกันไปล้างจานหลังบ้าน จากนั้นก็เดินชมสวนหลังบ้านซึ่งติดกับทุ่งนาด้วยกัน

“นีนี่ชอบที่นี่ไหม” คยองซูพูดขึ้นก่อน
“ชอบสิ อากาศดีมากๆ แต่ว่า...”
“แต่อะไร?”
“คือคยองบอกว่าตอนนี้กำลังเปิดร้านยา ไม่ห่วงร้านหรือ ถึงมาอยู่ที่นี่” จงอินเปิดประเด็นด้วยเรื่องร้านก่อน เขารู้ว่าคยองซูห่วงร้านตัวเองยิ่งกว่าอะไร ไม่อย่างนั้นก็ไม่ขับรถไปกลับหลายกิโลเพื่อเปิดร้านหรอก
“ห่วงสิ แต่เรายังทำงานไม่ไหว”
“เพราะอะไร”
“เรากำลังเจ็บ...” คยองซูตอบว่าเจ็บแต่คนที่เจ็บกว่าคือจงอินนั่นเอง เขาจ้องหน้าคนรักที่ก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นสีหน้าด้วยแววตาอาลัย อยากบอกว่าผมอยู่นี่ไงแต่ตอนนี้เขาต้องค่อยๆ คุยเท่านั้น
“เจ็บเพราะอะไร?”
“คนที่เรารัก... เค้าทำให้เราเจ็บ”

คำตอบของคยองซูทำเอาจงอินอยากดึงร่างเล็กนั้นมากอดให้จมอก เขาผิดเองที่ไม่รู้ว่าคยองซูมีความหลังกับคนรวย คิดมาตลอดว่าคนที่แกล้งทำเป็นจนพอเปิดหน้ากากว่าตัวเองรวย สาวๆ ร้อยทั้งร้อยคงไม่โกรธมีแต่ดีใจเท่านั้น ไม่รู้เลยว่าคนน่ารักข้างๆ นอกจากจะแตกต่างแล้วยังเจ็บเพราะเขาอีกต่างหาก

“คยองซูมีคนรักแล้วหรือ เขาชื่ออะไร?”
“เขาชื่อจงอิน”
“คยองซูรักเขารึเปล่า แล้วเขาทำไมทำคยองซูเจ็บ”

จงอินเริ่มถามเข้าเรื่อง เขาพบว่าคยองซูก้มหน้าตลอดตอนที่คุยกัน คงเพราะเป็นนีนี่จึงไม่โดนไล่เมื่อถามเรื่องนี้ แต่ยิ่งพูดไป ก็เหมือนจะได้ยินเสียงสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายพอคยองซูบอกว่าจงอินหลอกเขา มันทำให้เขาเจ็บ สุดท้ายร่างเล็กก็หยุดยืนเอาดื้อๆ จากนั้นก็ทรุดลงนั่งแล้วร้องไห้

จงอินตกใจมากเมื่อเห็นภาพนั้นจึงดึงเอาคนรักขึ้นมากอดแนบอก เนื่องจากคราวนี้เขาเป็นคนดึงอีกคนเข้ามากอดเอง ใบหน้าอีกฝ่ายจึงกระทบเข้ากับฟองน้ำที่ยัดหน้าอกมาโดยตรง คยองซูร้องไห้สักพักก็เงียบ จากนั้นมือที่ว่างก็ยกขึ้นมาปาดน้ำตาข้างแก้ม แต่ปาดไปไม่กี่ครั้งก็พบว่ามือตัวเองไปโดนหน้าอกอีกคนเข้า

เอ๊ะ มันหยุ่นๆ ทำไมเหมือนฟองน้ำ คยองซูคิด แต่มือดันบีบเข้ากับฟองน้ำของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง และเพราะฟองน้ำไม่ได้ยึดติดกับอะไรทั้งสิ้น พอบีบแรงมันก็เด้งออกมา หล่นลงกับพื้น

“เฮ้ย!!!” จงอินตกใจจนลืมแอ๊บเสียง นั่นจึงทำให้คยองซูผละออกจากเขาทันที จากนั้นก็มองด้วยสายตาแปลกๆ

“นีนี่??” คยองซูพึมพำเบาๆ พลางมองไปยังหน้าอกขนาดไม่เท่ากันของคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นพี่สาวผู้น่ารัก ทันใดนั้นก็จ้องมองไปยังใบหน้าให้ชัดๆ เนื่องจากเดินกันมานานท่ามกลางแดดบ่ายๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางจึงละลายออกไปครึ่งหนึ่ง เค้าโครงหน้าคุ้นเคยก็ผุดขึ้นมาในสมอง จากนั้นคยองซูก็เหมือนมีคนมาเปิดไฟในสมอง

“พี่จงอิน!” ร้องตะโกนชื่อคนรักแล้วคยองซูก็เข้าไปดูใกล้ๆ พอแน่ใจก็วิ่งหนีออกมาทันที

“เดี๋ยวก่อน คยอง ฟังพี่ก่อน!” จงอินตกใจมากที่คนรักสังเกตเห็นว่าเป็นเขาอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรก็วิ่งหนีเสียแล้ว

ร่างสูงวิ่งตามร่างเล็กไปตามคันนา ร้องเท้าส้นสูงที่จงอินใส่มามันไม่ค่อยช่วยอะไรเลย จึงหยุดถอดออกไป วิ่งไปอีกนิดก็พบว่าผมปลอมมันช่างปรกหน้าเสียจริงก็ถกวิกออกทิ้งลงตรงนั้นแล้ววิ่งตามคยองซูไปติดๆ ด้วยความขายาวจึงวิ่งตามทันได้ไม่ยาก พอคว้าร่างเล็กได้ก็ฉุดให้หยุด แต่ไม่รู้ว่าฉุดอีท่าไหน ไปๆ มาๆ ก็ล้มลงทั้งคู่ไปซะงั้น

คยองซูนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นหญ้า โดยมีจงอินในคราบนีนี่ที่ไม่มีทั้งนมปลอม ผมปลอม ขนตาปลอมก็หลุดไปข้างหนึ่งคร่อมอยู่บนตัวในท่าหมิ่นเหม่

ถ้าลุงบุญช่วยมาเห็นสองคนตอนนี้ คงนึกว่าคุณคยองซูอดใจไม่ไหวกำลังจะปล้ำสาวสวยนีนี่เป็นแน่แท้

แต่ตอนนี้คยองซูกลับหัวเราะ

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ร่างเล็กหัวเราะกับสภาพของคนที่คร่อมอยู่ มันตลกมากๆ ในสายตาเขา จงอินกล้ามเป็นมัดอย่างคนใช้แรงงานพอมาแต่งหญิงแบบนี้แม้จะใส่เสื้อแขนยาวปิดไว้แต่พอวิกผมหลุดมันก็เหมือนกระเทยควายที่เขาเคยเจอในงานประกวดลอยกระทงปีนู้นไม่ผิดเพี้ยน

“หัวเราะพี่หรือเนี่ย” จงอินเหงื่อหยดติ๋งๆ เพราะวิ่งมาไกล กำลังไม่รู้จะพูดอะไรก็โดนหัวเราะเข้า
“ก็พี่จงอินตลก ดูสิ เหมือนกระเทยควายเลย”
“นีนี่ไม่สวยแล้วเหรอ”
“ไม่สวยเลยครับ”
“น้อยใจ”
“ผมสิต้องน้อยใจ”

บรรยากาศที่เริ่มดีขึ้นกลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง เมื่อคยองซูหันหน้าไปด้านข้างเพื่อหลบสายตาจงอินแต่ฝ่ายจงอินที่นั่งคร่อมอยู่กลับพูดไม่ออกเลยสักคำหนึ่ง

“ลุกได้แล้ว” จนเวลาผ่านไปสักพักร่างเล็กก็พูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ไม่ลุกได้มั้ย” แต่กลับเจอใบหน้าตัดพ้อเข้า
“ทำไมไม่ลุก”
“อยากลุกก็ต่อเมื่อคยองหายโกรธพี่”
“กล้าหลอกเป็นนีนี่แล้วยังจะให้ผมยกโทษให้อีก” น้ำเสียงตัดพ้อจนจงอินอยากจะจูบลงไปเลยล่ะ
“พี่เป็นนีนี่จริงๆ พี่คือจงอิน คือนีนี่ คือลูกชายนายพลคิมหันต์ คุณหญิงรัตนาวดีและเป็นคนเดียวกับที่รักคยองซูสุดหัวใจเลยด้วย”
“...”
“ยกโทษให้พี่นะครับคนดี พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ปิดบังอะไรเราอีกแล้ว”
“ถ้าไม่ล่ะ” ปากรูปหัวใจยื่นออกมาอย่างกับเด็กงอนไม่มีผิด
“งั้นพี่ก็จะทำแบบนี้”

สิ้นสุดคำพูดจงอินก็ทำตามใจตัวเองทันที ปากเคลือบลิปสีออกแดงก้มลงไปสัมผัสกับปากเล็กเบื้องล่าง ค่อยๆ บดเบียดทีละน้อยโดยที่มือสองข้างก็ประคองใบหน้าคนรักไว้ จูบสัมผัสแผ่วเบาหากแต่มุ่งมั่นทำเอาร่างเล็กไม่สามารถหนีไปไหนได้ หรือที่จริงคยองซูก็ใจอ่อนให้เขาแล้วตั้งแต่คำว่าพี่จะไม่ปิดบังอะไรเราอีกแล้วของจงอินเมื่อครู่

จูบเบาๆ แต่สัมผัสจริงใจไปไม่นาน ในที่สุดจงอินก็ถอนปากตัวเองออกจากปากคนรัก ค่อยๆ ประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็กอดเอวเอาไว้

“ยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย”
“ไม่รู้สิ”
“คยองอ่า พี่ปิดบังว่าพี่รวย แต่ความรักของเราเป็นเรื่องจริงนะครับ นีนี่รักคยองซู จงอินก็รักคยองซูเหมือนกัน”

หมดคำบอกรัก ก็พบว่าใบหน้านั้นแดงขึ้นเป็นริ้ว บางคนเห็นแล้วอาจจะขำกับอาการนี้เพราะตอนนี้คยองซูกล้อนผมตัวเองจนแทบจะเป็นสกินเฮดติดหัว หากแต่จงอินกลับมองว่าเหมือนเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง

“คืนดีกันนะครับ”
“อื้อ แต่ว่า...”
“แต่อะไร?”
“ต่อไปห้ามปิดบังอะไรผมอีกนะ ห้ามไปรักคนอื่นด้วย”

จากนั้นจงอินก็หูตามืดมัวเพราะคำบอกแสนน่ารัก จับคยองซูมาหอมแก้มซ้ายขวาไปหลายฟอดจากนั้นก็กอดไว้จนน้องบอกว่าลุกเถอะ ไปอาบน้ำก่อน จึงลุกจากคันนา ออกเดินเก็บผมปลอม รองเท้าส้นสูงและกลับบ้านไปด้วยกัน ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของชานยอล แบคฮยอนและเหมียวรวมถึงลุงบุญช่วย จงอินและคยองซูก็จับมือประสานกันแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อช่วยกันล้างตัวเงียบๆ

“คืนดีแล้วสินะ เย้” ทุกคนนั่งอึ้งไปตามกันจนแบคฮยอนพูดขึ้นมา เออ อีท่านี้ก็คงคืนดีกันแล้วล่ะ

เสร็จไปอีกงานหนึ่ง!


เจอกันตอนที่ 17 ในจอยจ้ะ

No comments:

Post a Comment