Friday, May 15, 2015

[SF] Park Chan Bad Guy – ChanBaek [EXO] [NC-17]

[SF] Park Chan Bad Guy – ChanBaek [EXO] [NC-17]
#parkchanbadguy


Park Chan Bad Guy

Byunbaek’s part…

เพราะรัก ผมจึงยอมทำให้เขาทุกอย่าง

แม้แต่การกระทำอันโง่เง่ารังแต่สร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นในตอนนี้

“อ่าส์ เบบี้ คุณ อ่าส์ สุดยอด”

เขาส่งเสียงเมื่อผมกำลังทำให้ความพึงพอใจพุ่งขึ้นเกือบสุด มือหนาจับหัวสั่นคลอนของผมไว้พลางขย้ำไม่เหลือชิ้นดี แต่ก็โทษเขาไม่ได้หรอกในเมื่อการกระทำดั่งการดูดน้ำหวานจากปลายท่อเกิดจากปากหิวกระหายความรักของผมเอง

เพื่อปาร์คชาน...หนุ่มฮ็อตแห่งสกายไลท์คอลเลจ

“อ่าส์ เบบี้ คุณ อ่าส์ ทำดีมากที่รัก”

คำบอกรักจอมปลอมมักมีไว้กับสาวๆ ทุกคนที่เขาคั่วด้วย แน่นอนว่าเขาก็หมายถึงชายหนุ่มที่ไม่มีอะไรเลยอย่างผมเช่นกัน

ยิ่งเวลาเขาเมาจนแทบไม่เหลือสติอย่างนี้แล้ว ผมก็มักจะกลายเป็นทุกอย่างของเขาเสมอ

ปากสวยเข้ามาประกบทันทีเมื่อผมเงยหน้าหลังจากจัดการส่วนล่างเขาเสร็จเรียบร้อย แทบจะเลียให้สะอาดและมันเมื่อมเหมือนกับไม้เบสบอลปี 1992 ที่เขารักนักหนา ลิ้นร้อนลามเลียเอากลิ่นของตนเองและน้ำหวานที่ผมสะสมไว้ยามหนาวออกไปเกือบหมด ลมหายใจผสมกลิ่นฮอทดรัมส์บุหรี่ยี่ห้อโปรดของเขากรุ่นในปากและแย่งพื้นที่ออกซิเจนจนแทบขาดใจ

ร่างสูงปล่อยผมเป็นอิสระชั่วครู่เพื่อให้คาร์บอนไดออกไซด์ได้แลกเปลี่ยนกับออกซิเจนในอากาศแล้วก็รุกรานต่อราวกับปากของผมเป็นเหมืองเพชรชั้นดีและเม็ดสวยน้ำงามสุดอยู่ภายใต้ลิ้นที่ถูกค้นกลับไปมาอย่างไม่มีวันจบสิ้นนั่น

มือร้อนด้วยฤทธิ์บรั่นดีผสมยินลากไปมาใต้เสื้อผ้าของผมอย่างขัดใจในสิ่งขวางกั้น ดังนั้นเมื่อเขาไม่ยอมอดทนใดๆ จึงฉีกมันออกแทบไม่เหลือชิ้นดี ผมครางทันทีเมื่อมือนั่นจับเข้าจุดอ่อนไหวสีชมพูซึ่งกำลังแข็งขืนเต็มที่

เขาหัวเราะในลำคออีกครั้งเมื่อผมครางเสียงดังขึ้นยามถูกขบกัดตามลำคอไล่ลามไปสู่แอ่งน้ำของไหปลาร้าและหยุดที่จุดสีชมพูด้านซ้ายพร้อมดูดกัดราวกับมีน้ำนมหวานอยู่ตรงนั้น

เพราะตอนนี้ผมกำลังอยู่ด้านล่างติดกับผ้าปูเนื้อดี ปาร์คชานจึงสามารถใช้มือหนึ่งรูดซิปและถอดกางเกงของผมออกไปไม่ยากนัก แล้วก็แทบจะจิกผ้าปูนั่นขาดเมื่อเขาใช้มือนั้นจับเข้าตรงจุดอ่อนไหวใต้กางเกงในพลางลูบไปมาพาให้อารมณ์เตลิด

“ปาร์คชาน ได้โปรด”
“ขอร้องผมสิ เบบี้ แล้วปาร์คชานจะช่วยคุณ”
“ขอร้องล่ะ อ๊า ปาร์คชาน อื้อ”

ทันทีที่ร้องขอ กางเกงในอาภรณ์ตัวสุดท้ายบนร่างผมก็ถูกเขาฉีกออกคามือ แล้วการชักรูดรั้งไปมาจึงก่อเกิดขึ้นภายใต้การควบคุมและนำพาของชายเดียวในดวงใจโดยที่ผม... พยอนแบคไม่อาจต่อต้านได้

เด็กเรียนหน้าห้อง หน้าตาไม่โดดเด่นแถมยังเป็นเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์คนนั้นคือผมเอง มันโง่เง่าจริงๆ ที่พระเจ้าสร้างพยอนแบคให้เกิดมาเป็นเด็กที่ขาดทุกอย่าง ตั้งแต่พ่อแม่ ทรัพย์สมบัติ หน้าตา ชาติตระกูล หรือแม้แต่เพื่อน...

ไม่หรอก ยังโง่เง่าได้อีกเมื่อเขาตกหลุมรักปาร์คชานหนุ่มฮ็อตของสกายไลท์คอลเลจ รูปหล่อ พ่อแม่หน้าตาดีและรวยมาก แถมยังเป็นขวัญใจของสาวๆ นับไม่ถ้วนในคอลเลจ

ใช่ ผมเองที่หลงรักเขาข้างเดียว ยอมให้เขาทุกอย่างแม้จะรู้ว่าเขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลย

“ไม่เอาน่า เบบี้ คุณน้ำตาไหลเหรอ ผมจะเบาลงหน่อยละกัน”

เสียงทุ้มนุ่มปลุกผมจากภวังค์เมื่อนึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต เวลานี้เขากำลังเริ่มฉีกร่างผมออกเป็นส่วนๆ แล้วเพราะขาทั้งสองข้างกำลังแยกออกตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง

เขาโกหกหรอกที่ว่าจะอ่อนโยนเพราะหลังจากแหกร่างผมสำเร็จเขาก็แทรกกายเข้ามาทันที

“อ๊า ปาร์คชาน ไม่เจ็บ อื้อ เข้ามาได้ อ๊า”

รู้ว่าโกหกไม่ดีแต่ก็ยอมทำเพื่อให้เขาพึงพอใจสูงสุด แท่งกาวร้อนที่ไม่เคยรออะไรจึงเสียบเข้ามาจนลึกสุดใจ มันไม่มีอะไรน่ายินดีเลยเมื่อความเจ็บปวดกำลังแล่นไปทั่วร่างผม ขนาดร่างกายของเขาใหญ่โตเช่นไรส่วนที่กำลังรุกรานผมก็ยิ่งใหญ่เช่นนั้น

จังหวะกระแทกจนมิดด้ามจึงทำให้ผมต้องสะดุ้งตัวโยนจับเข้าที่ไหล่หนาพร้อมขอร้องด้วยน้ำตาอีกครั้ง

“ปาร์คชาน ได้โปรด อ๊า”

คำขอร้องไม่ได้ผลอยู่แล้วเมื่อสติของเขาหายไปพร้อมแอลกอฮอล์แต่แรก ผมจำต้องยอมทนกับความเจ็บปวดนี้แต่ก็ไม่นานนักหรอก เพราะทุกครั้งลีลาของเขามักจะทำให้ผมลืมความเจ็บแล้วสนุกสนานไปด้วยกัน

“อ่าส์ คุณตอดรัดแน่นไปแล้ว เบบี้”
“ปาร์คชาน โอ้ว ที่รัก อื้อ”

อันที่จริงไม่ต้องสนทนาใดๆ หรอกในเมื่อร่างกายเรากำลังประสานกันได้ดีขนาดนี้ ปาร์คชานทำสีหน้าเลื่อนลอยไปเรื่อยเพราะความสุขล้นจากการตอบสนองแห่งรัก ผมเองก็เช่นกันเพราะกำลังได้มองหน้าคนที่รักอีกครั้ง

ใช่... ถ้าไม่ใช่เรื่องอย่างว่าก็ไม่มีทางได้มองหน้าเขาหรอก

“อ่าส์ อีกนิดเบบี้ อีกนิด”
“ฮื่อ ปาร์คชาน อื้อ โอ้ว ที่รัก”

จนถึงจุดที่แตะขอบฟ้าไปด้วยกันผมก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะแตะขอบสวรรค์แต่พระเจ้าไม่เปิดประตูให้เข้าไปจึงต้องหล่นลงมาสู่อ้อมอกซาตานรูปหล่อหากแต่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เคยพบ

“เยี่ยมมาก เบบี้” เสียงทุ้มเอ่ยข้างหูพลางจูบที่ขมับครั้งหนึ่ง

ซาตานที่ชื่อปาร์คชาน...นั่นเอง

...............ParkChanBadGuy………….


สกายไลท์คอลเลจไม่มีการแบ่งชนชั้นในการเรียน ใช้ชีวิตหรือการคบกันเป็นเพื่อน คอลเลจแห่งนี้เน้นการทำงานเป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตามสิ่งที่พระเจ้าบอกมา...

ความรักต่อเพื่อนมนุษย์คือเรื่องที่ดีที่สุด

การเรียนที่นี่จึงต้องมีพาร์ทเนอร์ที่คอลเลจเลือกสรรให้และผมคงไม่ต้องบอกว่าพาร์ทเนอร์ผมคือปาร์คชานคนฮ็อตแห่งสกายไลท์นั่นเอง

“พยอนแบค ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เสียงทุ้มเอ่ยจากเตียงเมื่อปาร์คชานตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเมาค้าง เมื่อคืนเขาคงดื่มหนักมากเหมือนเคยเพราะปาร์คชานยังคงจำอะไรไม่ได้อยู่ดี จำไม่ได้ว่ามาที่นี่ ห้องพักของเขาได้อย่างไร

และคงจำไม่ได้ว่าทำอะไรกับเบบี้ของเขาบ้าง

ผมกลืนน้ำตาลงคอเมื่อระลึกได้ว่าเขาไม่เคยจำอะไรได้หลังจากมีอะไรกัน มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเมาแอ๋จนไร้ซึ่งสติแล้วคนคุมบาร์ก็โทรมาหาผมพาร์ทเนอร์คนเดียวของเขาตามเบอร์ที่เมมไว้ในโทรศัพท์ หลังจากนั้นเขาก็จะเริ่มร้อนตัวไม่สบายและพยายามจะปลดปล่อยกับผมราวกับคนรักกันแต่เช้าขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลย

จำไม่ได้ไม่เลยสักครั้ง

“นายเมามากไง” ผมเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากเจ็บถ้าถามว่าเขาจำได้หรือเปล่า

“อ้อ ฉันเมามากนี่เอง แล้ว?”
“แล้วฉันก็พานายกลับมา แค่นั้น”
“อ้อ โอเค”

“อาหารเช้าอยู่ที่ห้องครัว ถ้านายไปเรียนไม่ไหว ฉันจะจดเลคเชอร์ให้ ไปล่ะ” ผมพูดยาวรวดเดียวเพราะรู้ว่าคนหัวดีอย่างปาร์คชานยังไงก็เข้าใจแม้จะเมาค้าง แน่นอนว่าพูดกับผนังมากกว่าเพราะนอกจากเวลามีอะไรกันผมก็จะไม่มองหน้าเขา

ไม่ใช่ว่าไม่อยากมองแต่ไม่ชอบสายตารังเกียจเหมือนที่ทุกคนมองมาก็เท่านั้น

คงไม่ต้องบอกว่าวันนี้ผมมาเรียนคนเดียว นั่งคนเดียว และกินข้าวคนเดียวเหมือนเคย แม้สกายไลท์คอลเลจจะเป็นคอลเลจที่อยากให้ทุกคนส่องสว่างเหมือนชื่อ แต่กับผมที่เป็นเด็กกำพร้าระดับต่ำสุดแต่ได้รับโชคให้คู่พาร์ทเนอร์กับปาร์คชานคนฮ็อตนั้น

ยังไงก็โดนหมั่นไส้และรังเกียจอยู่วันยันค่ำ

“อ้าว นี่มันเด็กเหลือขอที่ได้ดีเพราะเป็นพาร์ทเนอร์คนฮ็อตนี่นา” มาแล้วล่ะ กิจวัตรประจำวันของพวกแบดกายในคอลเลจคือล้อผม แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเถียง

แต่วันนี้อาจจะเป็นข้อยกเว้นเมื่อมือสกปรกของพวกนั้นข้างหนึ่งตะปบเข้ากับกำแพงข้างหน้าแล้วขวางทางไม่ให้ผมเดิน เพราะไม่อยากมีเรื่องจึงเดินไปอีกทางแต่มือสกปรกของอีกคนก็ขยับมาขวางอยู่ดี ท่าจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว

“นายต้องการอะไร?” ในที่สุดผมก็ต้องเปิดปากถามไป
“เขาว่านายเป็นคู่ควงของปาร์คชาน”
“เหลวไหล...” ผมพูดแค่นั้นแล้วก็มีมือใหญ่พร้อมผ้ากลิ่นฉุนมาปิดหน้าไว้จนหมด
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่รึเปล่า หึหึ”

แล้วสติของผมก็ดับสูญ...

ซ่า!

รู้สึกตัวอีกทีก็โดนน้ำสาดเข้าหน้าพร้อมมือเท้าที่โดนมัดเข้ากับเสาไฟถนนกลางคอลเลจ นี่พวกแบดกายสกปรกตั้งใจทำอะไรกันแน่

“ปาร์คชาน!” จู่ๆ พวกนั้นก็ตะโกนขึ้นเมื่อหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งกำลังควงสาวสวยผ่านหน้าผมไป

อ่า ปาร์คชานนั่นเอง วันนี้ก็ควงสาวคนใหม่อีกแล้ว

“มีอะไร?” ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่สนใจว่าพวกนี้เรียกทำไม แต่ปาร์คชานกลับยืนนิ่งแล้วจ้องมองมาทางผม

รู้สึกนิดหน่อยว่าเขากำลังมองมาอย่างตื่นตระหนกชั่ววูบ ผมต้องตาฝาดเพราะฤทธิ์ยาสลบของพวกนั้นแน่ๆ

“พวกฉันจับคู่ควงของแกไว้แล้ว แกต้องชดใช้เรื่องที่แย่งแฟนบิ๊กดีไป!

ผมฟังพวกนี้ไปก็งง คนอย่างปาร์คชานไม่เคยแย่งแฟนใคร มีแต่สาวๆ มาหาเขาถึงที่เท่านั้น แทบจะหัวเราะออกมาในความงี่เง่าที่โดนจับตัวเพราะความเข้าใจผิดเลยล่ะ

“ฉันว่าพวกนายมั่ว ฉันไม่เคยแย่งแฟนใคร”

ก็อย่างที่ผมบอกแหละ ปาร์คชานตอบพวกนั้นด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะหันไปยิ้มให้สาวสวยข้างตัว หญิงสาวก็หัวเราะตอบพลางมองมาทางผมอย่างสมเพชด้วย

“หึหึ ไม่เคยงั้นเหรอ” เจ้าบิ๊กดีนั่นพอฟังคำตอบจากปาร์คชานก็โมโหแล้วมาต่อยผมหนึ่งที อา...เจ็บกรามไปหมด

“เป็นไงล่ะ คู่ควงแกโดนฉันต่อย รู้สึกอะไรมั้ย!” ต่อยเสร็จก็เอามือสกปรกมาบีบหน้าผมพลางยื่นออกไปให้ปาร์คชานเห็นเลือดที่ย้อยจากมุมปากผม เหม็นกลิ่นคาวเลือดจริงๆ เลย

ผมคิดไปเองรึเปล่านะที่เห็นเขากำหมัดแน่นแล้วก็คลายออกอย่างรวดเร็ว

“ไม่รู้สึกหรอก ฉันไปล่ะ”

อา คิดไปเองจริงๆ ผมว่าแล้วเขาไม่รู้สึกอะไร พวกนี้ก็เหมือนผมนั่นแหละ เป็นพวกโง่ที่คิดเองเออเองหมด

“แล้วถ้าอย่างนี้ล่ะ” จู่ๆ บิ๊กดีนั่นก็จับหน้าผมให้เข้าใกล้หน้ามันทีละน้อย ปากน่าขยะแขยงกำลังยื่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ นี่มันน่ากลัวกว่าที่คิดไว้อีก ผมจึงพยายามดิ้นสุดขีดแต่ก็ไปไหนไม่ได้ ไม่นะ ถึงผมจะเป็นเด็กเหลือขอแต่ร่างกายของผมยอมให้แค่ปาร์คชานเท่านั้น

เวลานี้ผมก็ได้แต่คิดไว้ในใจเท่านั้น ปาร์คชาน ขอร้องล่ะ!

ตุบ!

แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามือที่บีบแก้มนั้นหลุดผลัวะออกไปพร้อมแรงกรุ่นโกรธของใครคนหนึ่ง

ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นปาร์คชานกำลังต่อยเจ้าพวกนั้นด้วยตัวคนเดียว ปากสวยเม้มแน่นราวกับโกรธถึงขีดสุด หูอันเด่นชัดของเขาแดงจัดเมื่อต้องออกแรงพร้อมความหงุดหงิด แน่นอนเขาหงุดหงิดที่ต้องออกแรงมากมายเพราะผม แต่ถึงพวกนั้นถึงรุกมาเป็นสิบก็ไม่คณามือเขาหรอก

ก็ปาร์คชานน่ะ เรี่ยวแรงเยอะขนาดไหน ผมเองก็รู้ดี

หลังจากต่อยพวกนั้นจนล้มหมดทุกคน มือสวยที่มีรอยช้ำเพราะต่อยแรงไปหน่อยก็มาแก้มัดให้ผม พอจะพูดว่าขอบคุณเขาแต่ปาร์คชานกลับเอามือข้างที่ไม่ค่อยเปื้อนมาปาดเอาเลือดตรงมุมปากออกให้ผมอย่างเบามือ

ความรู้สึกปลาบปลื้มใจเกิดขึ้นไม่น้อยกับการกระทำของอีกฝ่าย ปาร์คชานไม่เคยทำดีกับผมขนาดนี้มาก่อน จะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะเริ่มต้นเป็นเพื่อนกับเขา จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะเริ่มต้นความสัมพันธ์มากกว่าพาร์ทเนอร์ที่ยอมทำทุกอย่างให้เพราะความต้อยต่ำในชีวิต

ผมแค่อยากเริ่มต้นเป็นคนที่อยู่ในสายตาของเขาบ้างก็เท่านั้น

แต่ความกล้าทั้งหมดก็หมดลงพร้อมกับคำพูดที่ผมเองยอมรับว่าบาดลึก

“ไปซะ”
“อะไรนะ?”
“ออกไปจากคอลเลจนี้ซะ ถ้าไม่อยากตาย”
“ปาร์คชานคือฉัน...”

“นายมันตัวถ่วง เด็กเหลือขอ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันไม่อยากเป็นพาร์ทเนอร์ของนาย”

ผมคงหลงระเริงว่าเด็กคนหนึ่งจะมีชีวิตดีขึ้นเมื่ออยู่สกายไลท์คอลเลจ โดยลืมไปว่าเมื่อฐานะต่างกันมันก็ต้องเจ็บช้ำทั้งคำดูถูกและคำผลักไล่ไสส่ง

“ไปให้พ้น จำไว้ ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก!” เขาส่งเสียงดังลั่น เรียกรอยยิ้มให้สาวๆ กรี้ดในความเท่ที่สามารถไล่เด็กเหลือขอออกจากชีวิตได้

และเรียกน้ำตาของผมให้ไหลพรากจากความรู้สึกเจ็บที่หัวใจด้วย...


...............ParkChanBadGuy………….


“แล้วนายก็ไล่พยอนแบคออกไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ตามเดิม?”
“ใช่...”

“เพื่อไปไล่จัดการพวกสกปรกนั่นให้สิ้นซาก จะได้ไม่ตามรังควานเขาอีก”
“ใช่...”

“แล้วตอนนี้ก็มานั่งคิดถึงเขาเนี่ยนะ”


“นายจะถามให้ได้อะไรขึ้นมา โอเซฮุน”

ปาร์คชานหงุดหงิดเต็มขั้นเมื่อเพื่อนที่เรียกมาไม่ช่วยอะไรเลย มาถึงก็ถามเอาๆ เหมือนเขามีหน้าที่ตอบคำถามอย่างเดียว

“ไงล่ะปาร์คชานคนเก่ง นายอยากปกป้องเขาแต่ก็พูดเพราะๆ ไม่เป็นเนี่ย ฉันว่านายป๊อดว่ะ”

“โอเซฮุน ถ้านายจะไม่ช่วยคิดว่าจะตามเขากลับมายังไง ก็ช่วยไปไกลๆ ตีนเลยครับ” ในที่สุดก็ทนไม่ไหว บอกแล้วว่าปาร์คชานความอดทนต่ำ ทำไมโอเซฮุนต้องกวนตีนด้วยเนี่ย

“เห็นแก่พยอนแบคที่น่ารัก ฉันจะยอมช่วยก็ได้”
“เท้าซ้ายฉันเริ่มกระตุกแล้วนะพวก”
“ล้อเล่นน่ะ เข้าเรื่องสิ”

แม้เขาจะยอมรับว่าป๊อด(นิดหน่อย) ตามที่โอเซฮุนพูดมา แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพื่อนเขาจะเอาแต่กวนตีนแบบนี้เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าพยอนแบคจะน้อยใจเขาไปถึงไหน


ใช่...เขาผิดเองที่ไม่มีวิธีแสดงออกว่า...ชอบคนตัวเล็กน่าทะนุถนอมนั่น

แม้จะมีคนรู้น้อยนิดแต่มันก็เป็นเขาเองที่ขอโปรเฟสเซอร์ให้จับคู่กับเด็กคนนั้น เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพยอนแบคมากขึ้น

สกายไลท์คอลเลจมีทุนการศึกษาสำหรับเด็กจากสถานสงเคราะห์ทุกปีและปีนี้ตอนที่พ่อเขาเป็นคนไปเลือกเด็กที่เหมาะสมนั้นปาร์คชานก็ได้ไปด้วย

เขาตกหลุมรักพยอนแบคตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว...

แน่นอนว่าการขอร้องอ้อนวอนพ่อเพื่อที่จะได้เรียนกับเด็กคนนี้ทุกคลาสรวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยเกิดขึ้นหลังจากนั้น แม้จะได้พักห้องเดียวกันแต่มันเป็นเพราะใจเขาเต้นแรงทุกครั้งที่มองพยอนแบค จึงไม่กล้ามองตรงๆ ไปทางคนตัวเล็กนั่น

อย่าให้ใครรู้เลยล่ะ ว่าปาร์คชานหวั่นไหวกับพยอนแบคแค่ไหน

ร่างสูงนั่งจ้องมองไปยังเตียงเล็กๆ ข้างหน้าต่างนั่นพลางจินตนาการว่าพยอนแบคกำลังนอนหลับอยู่ หลายครั้งทีเดียวที่ปาร์คชานได้แต่ยืนมองคนตัวเล็กหลับด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากกิจกรรมร่วมรักจบลง

เขาไม่เคยเมาจนจำไม่ได้แบบที่พยอนแบคเข้าใจหรอก ที่ปาร์คชานดื่มก็เพื่อย้อมใจเท่านั้น

ใครจะรู้เล่าว่าเขารอให้ตัวเองพร้อมจึงจะขอคบกับพยอนแบค แม้จะรู้ว่าขั้นตอนมันไม่ถูกต้องนักแต่เขาก็ทำได้แค่รอจริงๆ ปาร์คชานเลยได้แต่ทำเป็นเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทำเป็นลืมว่าเคยนอนด้วยกันแม้ว่ามันจะเป็นความทรงจำที่ดีมากก็ตาม

อา...เรื่องที่ให้พยอนแบคจดเลคเชอร์หรือทำรายงานให้น่ะ ก็เพราะว่าอยากเรียกร้องความสนใจน่ะสิ เขาน่ะอยากให้พยอนแบคโวยวายบ้างหรือบอกว่าเหนื่อยบ้าง แต่คนตัวเล็กนั่นก็ไม่เคยบ่นแถมยังเต็มใจทำให้ทุกอย่าง

คงไม่สนใจเขาเลยสินะ...

พยอนแบคคงคิดว่าเขาเป็นเพียงปาร์คชานที่หื่นมากและเลวมากคนหนึ่ง

“ฉันถามจริงเถอะ นายควงสาวไม่ซ้ำหน้าแล้วยังคิดว่าพยอนแบคจะเอานายรึไง ห๊ะ” จู่ๆ โอเซฮุนก็ถามขึ้นมา เขาสงสัยจริงๆ ว่าปาร์คชานดูจะหลงรักพยอนแบคขนาดนั้นแล้วทำไมถึงควงสาวไม่เลือกหน้ากันล่ะ

“นายต้องลองอยู่ห้องเดียวกับคนที่นายหลงรักแล้วจะรู้เอง”

ปาร์คชานพูดได้แค่นั้นแล้วก็เอามือกุมหัว แม้จะกล้าในทุกเรื่องตั้งแต่มีเรื่องกับพวกโสโครกหรือกล้ามีอะไรกับผู้หญิงที่เข้าหาไม่ซ้ำหน้า แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่กล้านั้นใครก็คงคิดไม่ถึง

ไม่กล้าที่จะถามพยอนแบคว่ารู้สึกยังไงกับเขาบ้างก็เท่านั้น

คนขี้ขลาดเลยได้แต่ลองฝึกตัวเองด้วยการคบผู้หญิงคนอื่นเพื่อสร้างแรงใจและพลังให้ตนเองกล้าบอกความในใจกับคนรัก เขามีอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นเพียงเพื่อจะปลดความใคร่ที่มีเมื่อไม่กล้าสู้หน้าพยอนแบคพร้อมกับฝึกสร้างความแกร่งเท่านั้นเอง

ไม่ผิดหรอก ต้องฝึกกับผู้หญิงเพราะพยอนแบคน่ะ หวานกว่าพวกนั้นอีก

แต่ก็คว้าน้ำเหลวตลอด ดูสิ อย่างตอนที่ช่วยพยอนแบคจากพวกโสโครกนั่น เขายังไม่กล้าถามคนตัวเล็กด้วยความห่วงใยเลย

“ตกลงจะให้ฉันช่วยอะไรนาย บอกที” โอเซฮุนเริ่มเบื่อที่จะฟังคนฮ็อตของสกายไลท์คร่ำครวญแล้ว เขาจึงนั่งเท้าคางมองปาร์คชานก่อนจะจ้องมองเพื่อหาคำตอบจากเพื่อนตรงๆ

“ฉันอยากให้พยอนแบคกลับมาอยู่ใกล้ๆ อยากให้เขารู้ว่าฉันคิดถึงเขามากขนาดไหน” ปาร์คชานคนโง่กล่าวออกมาตรงๆ เช่นกัน เรียกให้เพื่อนต้องคิดหลายตลบก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ควรทำที่สุดในตอนนี้ออกมา

“มีคนเคยบอกไว้ว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากการขอโทษด้วยความจริงใจ นายควรไปขอโทษพยอนแบค เพื่อนยาก”


...............ParkChanBadGuy………….


Parkchan’s part…

ผมเคยคิดว่าเมื่อได้พยอนแบคมาเป็นพาร์ทเนอร์แล้ว ผมก็จะจัดการทุกอย่างได้เอง

แต่มันกลับกลายเป็นว่าผมไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย ตั้งแต่การกระทำที่โง่เง่าขึ้นทุกวันของตนเอง ทำตัวเป็นแบดกายที่หื่นกระหายต่อหน้าเขา แม้ว่าอันที่จริงจะเป็นแค่ตุ่นผู้โง่เขลาไม่เคยทำตามหัวใจก็ตาม

วันนี้ก็เหมือนวันที่ผมเจอเขาครั้งแรก ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งนี้เอง ผมเจอเขากำลังหัวเราะกับเด็กคนอื่นอย่างร่าเริง ร่างบอบบางแสร้งทำเป็นแข็งแรงนั่นทำเหมือนเขาเป็นเด็กร่าเริงที่สุดในโลกและนั่นแหละสิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเขาทันที

พยอนแบคทำตัวไม่เหมือนคนที่โดนพาร์ทเนอร์อย่างผมไล่ออกมาเลย มันยิ่งทำให้ผมกำดอกไม้ในมือแน่นกว่าตอนเดินออกมาจากร้านดอกไม้กับโอเซฮุนเสียอีก เขารู้สึกอะไรหรือเปล่า เขาร้องไห้หรือเปล่าเมื่อโดนผมไล่ออกมา มันบอกไม่ได้เลยเมื่อเขายังยิ้มร่าเริงกับเด็กๆ คนอื่นอย่างนี้

ผมจึงได้แต่ยืนมองจนกระทั่งเด็กคนอื่นออกจากห้องไป...

ชั่วแว่บหนึ่งรู้สึกเหมือนเขามองมาทางนี้จึงรีบซ่อนตัวเองกับฝาผนัง แต่นั่นก็ทำให้ได้ยินเสียงคนในห้องนั้นชัดกว่าเดิม ชัดเข้าไปในหัวใจ

“ฮะๆ หลงคิดว่าเป็นปาร์คชานไปได้นะเรา” เสียงหวานที่แสนคิดถึงเอ่ยชื่อผมให้รู้สึกใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ

“เขาจะมาได้ยังไงล่ะพยอนแบค เขาไล่นายออกมาเอง จำไม่ได้เหรอ ฮึก”

แม้จะได้ยินแค่เสียงแต่ผมก็รู้สึกเหมือนเขากำลัง...ร้องไห้งั้นเหรอ

“นายต้องหยุดหลงรักคนฮ็อตแห่งสกายไลท์ได้แล้วพยอนแบค ปาร์คชานอึดอัดแค่ไหนที่มีนายเป็นพาร์ทเนอร์...ฮึก เราต่างกันราวฟ้ากับเหว นายต้องพยายามลืม...ฮือ”

รู้สึกเหมือนทุกคำมันบาดลึกในหัวใจเพราะเขาร้องไห้เพราะผม

เดี๋ยวนะ...ถ้าคนฮ็อตแห่งสกายไลท์ไม่ใช่คนอื่น เขา...หลงรักผมงั้นเหรอ?

ทันเท่าความคิดเมื่อเท้าก้าวเข้าไปในห้องที่พยอนแบคอยู่แล้วเดินตรงเข้าไปกอดร่างเล็กข้างหน้าต่างตรงนั้น ผมถูกดันออกด้วยแรงเล็กน้อยทันที แต่เมื่อเขาเห็นว่าผมเป็นใครพยอนแบคก็จ้องมองด้วยใบหน้าตกตะลึง

“นะ นาย ปาร์คชาน” เมื่อเขาหาเสียงตนเองได้จึงร้องออกมาพลางเอามือจับใบหน้าผมราวกับพิสูจน์ว่านี่ผมจริงๆ

“ใช่ที่รัก ผมเอง” ผมตอบพลางใช้มือหยาบของตนเองค่อยๆ ปาดน้ำตาที่เปื้อนใบหน้าเนียนนุ่มนั้นด้วยความอ่อนโยน สายตาก็จ้องมาอย่างมีความหมาย เขาพูดว่าหลงรักผม และผมก็จะกำลังจะขอโทษในสิ่งที่ทำผิดพลาดลงไป เราต้องไปกันได้ดีแน่ๆ

แต่พยอนแบคกลับสะบัดตัวออกจากการกอดกุมของผมพลางเดินถอยหลังไปยังมุมห้อง

“นายต้องการอะไร นาย...มาทำไมอีก”

ใบหน้าที่จ้องมองผมแฝงทั้งความน้อยใจ ความเสียใจและหลากหลายอารมณ์ปะปนกัน แต่ผมสัมผัสได้ว่ามันไม่มี...ความเชื่อใจอยู่ในนั้นเลย

“พยอนแบคคือผม...” มันคืออะไรกันนะความรู้สึกตอนนี้ มันจุกแน่นอยากจะขอโทษเขาแต่ก็พูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ขณะเดียวกันน้ำตาที่ยังไหลออกมาอาบแก้มเขาก็ทำให้ใจผมปวดร้าวประหลาด

“นายไล่ฉันออกมา ฉันก็ออกมาแล้ว ขอร้องล่ะ อย่ามาซ้ำเติมในความต้อยต่ำของฉันอีกเลย” เขาพูดถ้อยคำที่กรีดหัวใจผมให้เจ็บปวด ผมทำให้เขาร้องไห้ ไล่เขามาเหมือนหมูเหมือนหมาเพราะไม่กล้าพอจะปกป้องเขาต่อหน้าคนอื่น อา...ผมช่างขี้ขลาดเสียจริง

น่าจะถึงเวลาที่ปาร์คชานคนกล้าจะต้องออกมาแล้วนะ

ผมคุกเข่าลงตรงหน้าเขาทันทีพลางขยับปากเอื้อนเอ่ยสิ่งที่ควรพูดต่อหน้าเขาด้วยความจริงใจทั้งหมด

“ฉันขอโทษพยอนแบค”

ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างเมื่อผมพูดจบ เขาถึงกับสะบัดหัวอย่างแรงพลางเอามือลูบๆ ใบหูเล็กน่ารัก ก่อนที่มือสวยจะเอาไปปิดปากตัวเองไว้แล้วพูดลอดมือตัวเองออกมา

“นาย...หมายความว่ายังไง”

อ่า แน่ล่ะ เขาต้องประหลาดใจอยู่แล้วเมื่อคนอย่างผมมาคุกเข่าขอโทษแบบนี้น่ะ

“ได้โปรดรับคำขอโทษของผมได้มั้ยพยอนแบค แล้วผมจะสารภาพทุกอย่างกับคุณ” ผมยื่นดอกไม้ในมือไปให้เขาเมื่อพูดจบ มือสวยที่ปิดปากเขานั้นสั่นระริกราวกับลังเล แต่หากสายตาของผมที่เว้าวอนคงส่งไปถึงเขาแน่ๆ พยอนแบคจึงค่อยๆ ยื่นมือออกมารับดอกไม้ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“นายจะสารภาพอะไรเหรอ” เมื่อรับดอกไม้ไปแล้วเขาก็ซ่อนใบหน้าครึ่งหนึ่งไว้ภายใต้ช่อกุหลาบจาก ผมจึงถือโอกาสยืนขึ้นแล้วเอามือหนึ่งจับช่อดอกไม้โดยจับซ้อนทับมือเขาเอาไว้อย่างแผ่วเบาและเอ่ยคำพูดจากใจ

“ผมรักคุณ พยอนแบค”

ปฏิกิริยาของพยอนแบคมีหลากหลายเสียจนผมใจเสีย แว่บแรกเขาเบิกตากว้างก่อนจะมองไปรอบห้องราวกับหากล้องซ่อนตามผนังและนาทีต่อมาเขาก็เอามือมาบีบแก้มผมไว้ บีบแรงจนผมต้องร้อง

“โอ๊ย คุณบีบแก้มผมทำไม” หน้านิ่วไม่หายเพราะเขาบีบแรงจริงๆ

“ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยปาร์คชาน วันนี้คุณดื่มยินผสมวอดก้าอีกรึเปล่า” สายตาตกตะลึงส่งมาให้ผมไม่น้อยเพราะแปลกใจสุดๆ แต่ผมก็ใช้โอกาสนี้จับเข้าที่มือเขาทั้งสองข้าง กอบกุมจนร้อนไปหมดแล้วจูบเบาๆ ที่กลางนิ้วนางด้วยความรักทันที

“เปล่า คุณไม่ได้ฝันที่รัก หากจะฝันก็คงเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาต่างหาก คุณก็รักผมใช่ไหมพยอนแบค”

ก็เพิ่งจะรู้ว่าตนเองฝีปากกล้าเมื่อได้เริ่มต้นพูดก็วันนี้เอง เขาไม่รู้เลยว่าตนเองสามารถพูดอะไรแบบนี้ได้แถมยังถามต่อคนตัวเล็กข้างหน้าได้อีกว่ารักกันไหม

“แล้วทำไมที่ผ่านมานายถึงเมินฉัน แถมยัง...เวลาเรามีอะไรนายก็ทำลืม” ปากน้อยกลับพูดพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำเมื่อเขาสงสัย ตอนนี้เขาไม่ร้องไห้แล้วแต่กำลังเขินแทนงั้นเหรอ?

“ฉันรักนายแต่แรกพยอนแบค ฉันขอให้พ่อจัดการเรื่องพาร์ทเนอร์คู่นาย แต่ฉันไม่กล้าพอจะบอกรักนายจนกระทั่งวันนี้ตอนนี้ ขอโทษจริงๆ ที่รัก” ผมพูดแล้วก็อับอายในความป๊อดของตนเองจริงๆ แต่ก็พบว่าพยอนแบคเบิกตากว้างขึ้นอีก

“นี่นายไม่ได้ซ่อนกล้องไว้ใช่ไหม?” เขาเอ่ยถามพลางมองซ้ายขวาอีกครั้ง

“ไม่มีกล้อง...” ผมจึงตอบไปตามความจริง แต่สิ่งที่ได้รับคืออ้อมกอดที่พยอนแบคโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว แม้ว่าเขาจะไม่ได้หนักมากนักแต่การโถมเข้ามานั้นกลับทำให้ปาร์คชานรู้สึกดีเหลือเกิน

“ฉันก็รักนาย รักตั้งแต่แรกด้วย” บอกรักได้อย่างน่ารักจริงๆ พยอนแบคของผม เมื่อคนตัวน้อยซุกลงอกตัวเองมือใหญ่จึงค่อยๆ ลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยนพลางให้คำสัญญาตอบแทน

“ฉันขอโทษที่ไล่นายนะ พยอนแบค มันมีเหตุจำเป็นที่ฉันไม่ควรแสดงให้คนอื่นเห็นว่ารักนาย จนกระทั่งนายไป ฉันถึงรู้ว่าคิดถึงนายมาตลอด รักนาย พยอนแบค”

“อื้ม รักนายเหมือนกันปาร์คชาน มาวันนี้คิดจะพากลับใช่มั้ยล่ะ”

เดาเก่งเหมือนหมาเลย

“กลับด้วยกันนะพยอนแบค สัญญาเลยว่าจะไม่ทำตัวงี่เง่าอีก”

“อื้ม กลับสิ แต่ขออย่างหนึ่งนะที่รัก”

“ว่ามาได้เลย”

“งั้นเดี๋ยวถึงก็รู้เอง” อ่า พยอนแบคยกโทษให้แล้ว ผมก็ไม่สนแล้วล่ะว่าเขาจะขออะไรเพราะผมก็ยินยอมเขาทุกอย่างแล้ว นับต่อจากนี้


...............ParkChanBadGuy………….



“อ่าส์ ที่รัก ได้โปรด”

“หึหึ ขอร้องเบบี้ของคุณสิ แล้วผมจะช่วย”

ร่างสูงถูกพันธนาการไว้ด้วยเข็มขัดของตัวเองรัดเข้ากับซี่เหล็กของหัวเตียง มือหนาสั่นระริกเมื่อมือน้อยลูบไล้ไปทั้งตัวอย่างรู้จุดสัมผัส ปากสูดอากาศลำบากขึ้นทุกครั้งเมื่อมือสวยผ่านจุดกระสัน

“ขอร้องละ เบบี้แบคฮยอนของผม” ปาร์คชานไม่อายปากที่จะพูดอย่างนี้เพราะเขากับพยอนแบคอยู่กันสองคน

หลังจากไปรับพยอนแบคจากสถานสงเคราะห์กลับมา ร่างบางก็บังคับให้เขามัดตัวเองเข้ากับหัวเตียง หลังจากนั้นเกมคาดคั้นความจริงก็บังเกิด ปาร์คชานถูกถามคำถามนับไม่ถ้วนเมื่ออีกฝ่ายไม่เข้าใจการกระทำของเขา แน่ล่ะ ใครจะเข้าใจบ้าง

แต่มันทรมานเขาไม่น้อยเมื่อคาดคั้นไปมาก็กลายเป็นสภาพแบบนี้ เขานั่งคุกเข่าเอาร่างเปลือยเปล่าโยกโยนต่อหน้าพยอนแบคจอมซนมาสักพักแล้ว และคนตัวเล็กก็ใจร้ายเหลือเกินที่จะไม่ยอมให้แตะขอบฟ้าสักครั้ง

กำลังทำโทษสินะ

“ตอบมาก่อน ทำไมปาร์คชานถึงคบผู้หญิงไม่เลือกหน้า สร้างความเจ็บช้ำให้พาร์ทเนอร์เขาอยู่เรื่อย” ถามคำถามที่แลดูบีบหัวใจให้เจ็บไปด้วยกัน แม้สติจะลางเลือนเพราะกำหนัดแต่ปาร์คชานก็ต้องตอบ

“ผมจำเป็นต้องทำเพื่อที่จะฝึกมาใช้กับคุณไง แต่ก็เห็นแล้วว่าไม่ได้ผลเลย ขอโทษจริงๆ ที่รัก อ่าส์” ทันทีที่พูดเสร็จพยอนแบคก็ก้มลงใช้ปากช่วยให้อีกฝ่ายแตะขอบฟ้า มือที่ถูกพันธนาการไว้สั่นครืนเมื่อเขาทั้งดูดและกัด แต่สักพักก็ทำให้รู้ว่าเขาแค่แกล้งเท่านั้น

“ไม่ต้องฝึกกับใครแล้ว เข้าใจไหม ผมพร้อมจะเป็นทุกอย่างให้คุณเสมอ”

มือน้อยค่อยๆ ปลดชั้นในตัวเองพลางหยิบเจลตรงหัวเตียงออกมาชโลมทั่วส่วนแกนกลางใหญ่และช่องทางของเขา พอคนตัวเล็กร่างเปลือยเปล่าเพราะไร้อาภรณ์ก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ ขาเรียวสวยอ้ากว้างแล้วแนบกับขาคนตัวใหญ่เมื่อเข้ามาใกล้มากแล้ว จากนั้นมือหนึ่งก็จับไหล่แกร่งไว้เพื่อยึดเป็นหลัก

มืออีกมือค่อยๆ จับความเป็นชายเข้าช่องทางของเขา เสียงครางกระเส่าดังเล็กน้อยเมื่อเขาเสียวเพราะแรงเสียดสี พยอนแบคยอมเป็นทุกอย่างให้ปาร์คชานจริงๆ เมื่อร่างเล็กกำลังขยับขึ้นลง ตอนนี้มือทั้งสองข้างของยึดแน่นที่ไหล่แข็งแรงเมื่อเขาต้องกระแทกช่วงล่างแบบนอนสต๊อป

“อ๊า ปาร์คชาน ผมรักคุณ อ๊า”

คำบอกรักเรียบง่ายหากแต่จริงใจและชัดเจนในการกระทำส่งให้ปาร์คชานขยับมือออกจากเข็มขัดที่พันธนาการอยู่ เขาไม่ได้มัดตัวเองไว้อย่างที่พยอนแบคคิดหรอก มันเพียงแค่การยอมอีกคนเท่านั้น

มือหนาเข้าบีบเฟ้นก้นอวบเมื่อแรงอารมณ์เกือบถึงขีดสุด หากแต่เรี่ยวแรงของพยอนแบคนั้นไม่เคยสู้แม้กระทั้งปาร์คชานตัวน้อยได้ ขยับขึ้นลงไปนิดหน่อย คนตัวเล็กก็พักแล้วเหนื่อยหอบอยู่ตรงอกเขา

“ผมก็รักคุณ พยอนแบคของผม” ใบหน้าหล่อได้รูปยกยิ้มแล้วปากหนาก็จูบเข้าที่กลุ่มผมนิ่มก่อนจะดันอีกคนให้นอนหงาย ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาเอาส่วนของตัวเองออกก่อนจะสอดแทรกให้ลึกกว่าเดิมเพราะน้ำหล่อลื่นช่วยอยู่

เมื่ออยู่ในท่าถนัดปาร์คชานก็เริ่มขยับทันที มือหนาประคองสะโพกสวยที่ต้องรับแรงกระแทกไว้ขณะที่ปากได้รูปก็จูบซับเหงื่อให้คนรักตั้งแต่หน้าผากมนจนถึงหน้าท้องราบที่ยืดหดตามแรงอารมณ์ของเขา

“อ๊า ปาร์คชาน อ๊า อีก อ๊า เข้าอีก”
“ใจเย็นที่รัก อ่าส์ คุณสุดยอดมาก”

เสียงครางและเสียงชมไปพร้อมกันเมื่อมันใกล้มาถึงจุดสิ้นสุด แล้วพอพยอนแบคแตะขอบสวรรค์ ปาร์คชานก็ตามไปช่วยดันเพื่อให้พระเจ้าเปิดประตูให้เขาเข้าไปด้วยกัน แรงเสียดสีและแรงกระแทกส่งให้คนตัวเล็กเสียวซ่านจนต้องสะดุ้งตัวโยนเอาแขนตัวเองมาเกาะคนรักไว้

แล้วเมื่อปาร์คชานไปแตะขอบสวรรค์ด้วย ทีนี้พระเจ้าก็ยอมเปิดประตูให้ทันทีเพราะไม่มีแล้วปาร์คชานซาตานคนเดิม

“อื้ม ที่รัก คุณสุดยอดจริงๆ ผมรักคุณ” เอ่ยชมคนตัวเล็กในอ้อมกอดพร้อมจูบเข้าขมับอีกครั้ง

มีแต่ปาร์คชานพ่อเทพบุตรสุดที่รักของพยอนแบคเท่านั้น

“ผมเองก็รักคุณเช่นกัน ปาร์คชานแบดกายของผม”

คนรักของพยอนแบคคนนี้นี่เอง

....................The End………………..

ชอบก็ติดแท็ก #parkchanbadguy กันได้ อิอิ
,พี่เนย @noeybaekbd on twttr