Tuesday, March 20, 2018

[one shot] hot concert [Sehun x Junmyeon] NC-17




เวลาตอนนี้ก็ตีสองแล้ว จุนมยอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอน เขากำลังจะถามคนข้างตัวว่าปิดไฟเลยไหม ก็พบว่าอีกฝ่ายเปิดไลฟ์อินสตาแกรมซะงั้น

“อันยองงงงง”

เจ้าเด็กหัวฟูโอเซฮุนนึกครึ้มอะไรไม่รู้ ตัวเองนอนถอดเสื้ออยู่แต่ดันเปิดไอจีให้แฟนๆ เห็นกันหมด ร้อนถึงตัวเขาเองที่เป็นถึงลีดเดอร์ต้องแอบขยับผ้าห่มให้ และนั่นก็ทำให้แฟนๆ เห็นเขา คอมเมนท์รัวเข้ามาถามทันทีว่านี่ใช่ซูโฮไหม เด็กบ้าข้างๆ ก็หัวเราะแล้วตอบไปว่าใช่แล้ว คนที่นอนข้างกันก็คือจุนมยอนนั่นเอง

อันที่จริงเขาไม่ได้นอนถอดเสื้อเหมือนเซฮุนหรอกนะ แต่ก็อดเขินอายไม่ได้ เพราะตัวเองเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไม่มีสิวหรือริ้วรอยก็จริงแต่จะให้โชว์หน้าเต็มจอแบบเซฮุนน่ะ จุนมยอนก็ไม่กล้านักหรอก

“ออกมาเถอะน่า แฟนๆ ไม่ว่าหรอก”

พอเห็นเขาไม่โผล่หน้าไปในไลฟ์วีดิโอสักที เซฮุนก็เร่งยิกๆ จุนมยอนจึงยอมโผล่ไปใกล้หน้ากล้องสองครั้งแบบกวนๆ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับดีมากเพราะแฟนๆ ส่งคอมเมนท์รูปหัวเราะมากันใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ได้แต่หลบหลังผ้าห่มนวมต่อไป

“เมื่อไหร่จะหยุดสักทีนะ”

จุนมยอนพูดเบาๆ แค่พอเซฮุนได้ยิน เขาเหนื่อยจากคอนเสิร์ตวันนี้มามาก อยากนอนจะตายแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กบ้านี่เปิดไลฟ์อยู่ล่ะก็ จะลุกไปปิดไฟแล้วนอนให้รู้แล้วรู้รอดเลย

มือน้อยของคนพี่ยกขึ้นมาสะกิดน้องเล็กของวงยิกๆ สะกิดแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่หันมา จุนมยอนก็สะกิดต่อไปเรื่อยๆ อีก เอาให้รู้ไปว่าใครจะแพ้ก่อนกัน ระหว่างเซฮุนที่มัวแต่เล่นสติ๊กเกอร์ในไลฟ์อินสตาแกรมกับตัวเขาที่สะกิดไหล่น้องอย่างไม่ยอมแพ้

สุดท้ายจุนมยอนก็ชนะ

ไม่รู้ว่าเพราะอินเตอร์เน็ตประเทศไทยสัญญาณห่วยหรือเป็นเพราะเซฮุนเบื่อสติ๊กเกอร์กันแน่ จู่ๆ นายตัวดีของจุนมยอนก็กดปิดไลฟ์อินสตาแกรมแล้วหันหน้ามามองเขาด้วยสายตามีเลศนัย

“เบื่อแล้วใช่มั้ย งั้นนอนเถอะ” จุนมยอนเอ่ยทักเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดเล่น จากนั้นก็ทำท่าจะลุกไปปิดไฟนอนแต่ก็ลุกไปครึ่งตัวเท่านั้นเพราะมือข้างที่ยื่นไปสะกิดอีกฝ่ายถูกดึงไว้
“อะไรอีกเล่าเซฮุน” กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พี่จะหนีไปไหนเนี่ย”
“จะไปปิดไฟนอนไง”
“พี่ต้องรับผิดชอบผมก่อนสิ”

พอเจ้าเด็กตัวดีที่ดึงเขาไว้เอ่ยคำนี้ออกมา จุนมยอนก็งงไปเลย รับผิดชอบอะไรหว่า หรือน้องจะโกรธที่เขาสะกิดไม่หยุดเลยอารมณ์เสียกันเนี่ย

“พี่ว่านี่มันดึกแล้วนะ เราก็ทำงานมาเหนื่อยก็ควรจะปิดฟะ...”

จุนมยอนกำลังจะเทศน์ยาวอย่างที่ทำมาตลอด เพราะกับเซฮุนน่ะถ้าดุเฉยๆ ก็จะเถียงเอาอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียที แต่กลายเป็นว่าบ่นไปแค่ครึ่งทางก็โดนดึงให้เข้าไปใกล้อีกฝ่าย โดนปิดปากด้วยปากเสียอย่างนั้น

“อื้อ”

ร่างเล็กพยายามประท้วงด้วยการส่งเสียงแต่กลับไม่ได้ผลแถมยังโดนรั้งตัวให้เข้าไปใกล้อีกฝ่ายด้วย คราวนี้จุนมยอนเริ่มนิ่งเพราะเหมือนเขาจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมต้องรับผิดชอบ ก็...ไอ้น้องชายของเซฮุนทิ่มหน้าขาเต็มๆ เลย

“สะกิดขนาดนั้น พี่รู้รึเปล่าว่ามันทำให้ผมตื่นน่ะ”

เซฮุนจูบเขาไปหนึ่งรอบจากนั้นก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา

“ก็เราน่ะ...”

จุนมยอนกำลังจะแก้ตัวอีกรอบแต่คราวนี้ก็โดนปิดปากอีกครั้ง จากรอบแรกที่โดนดูดริมฝีปากเฉยๆ มารอบนี้ก็โดนงับปากเบาๆ ก่อนจะเอาลิ้นร้อนเข้ามากระหวัดเกี่ยวจนจุนมยอนเริ่มหัวหมุน สติยามที่โดนเซฮุนหยอกล้อแบบนี้ เขาบอกเลยว่าไม่เคยจะมี แม้อยากถามว่าจะไหวหรือเพราะวันนี้ทำงานกันมาเหนื่อยมาก แต่เจ้าแท่งแข็งๆ นั่นก็บอกเขาแล้วว่าไม่รอดแน่

มือใหญ่ที่รั้งเอวไว้เริ่มสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาว หลังจากทำให้เคลิ้มด้วยการจูบปาก พอได้จังหวะ เซฮุนก็ไม่รอช้าที่จะถอดเสื้อ จากนั้นก็กอบโกยความหอมหวานจากจุดสีชมพูบนหน้าอกของจุนมยอนจนเรียกเสียงครางหวานออกมา

“อา...”
“ผมยังไม่ทันทำอะไรก็ครางแล้วเหรอ?”
“ก็เรานั่นแหละ อื้อ”

เป็นอีกครั้งที่จุนมยอนโดนเจ้าเด็กบ้านี่แกล้ง แม้ว่าการเป็นลีดเดอร์ที่ใจดีจะทำให้โดนเจ้าชานยอล จงอินหรือแบคฮยอนแกล้งบ่อยๆ แต่จุนมยอนอยากจะบอกเหลือเกินว่าคนที่แกล้งบ่อยสุดก็น้องเล็กขี้อายเซฮุนนี่แหละ ปากก็บอกว่าขี้อายแต่ดูเอาว่าตอนนี้ทำเรื่องหน้าไม่อายขนาดไหน เขากำลังจะตัดพ้อเพราะโดนแกล้งก็กลายเป็นว่าอีกฝ่ายเอามือไปเกาะกุมส่วนอ่อนไหว ส่วนปากก็วุ่นวายแถวๆ หน้าอกอีกด้วย

“เซฮุนนา ขยับเร็วอีกนิด” สุดท้ายก็ทนไม่ไหวแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งกันอยู่แต่ก็เอ่ยปากบอกให้เร่งเครื่องเสียอย่างนั้น
“รีบไปไหนเนี่ย” แต่ดันได้เสียงกลั้วหัวเราะกลับมา
“ก็วันนี้ทำงานหนะ อื้อ มาหนัก” จังหวะที่จะพูดทีไรก็เป็นต้องได้โดนสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวเสียทุกครั้งไป

“ทำงานหนักแต่ทำน้องชายผมตื่นเองเนี่ยนะ?”
“มะ อื้อ ไม่ได้ตั้งใจนี่” ประคองเสียงพูดได้ลำบากทุกครั้ง บอกแล้วว่าน้องเล็กขี้อายน่ะไม่มีหรอก มีแต่น้องเล็กขี้แกล้งเนี่ยแหละจะเหมาะสมสุด
“พี่เหนื่อยก็ไม่ต้องขยับมากนะเดี๋ยวผมทำเอง”

พูดจบก็ไม่รอคำตอบใดๆ เซฮุนก็ผลักจุนมยอนให้นอนลงบนเตียงจากนั้นปลดกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวที่ใส่อยู่ เผยให้เห็นรูปร่างงาม สัดส่วนสามเหลี่ยมคว่ำตามแบบผู้ชายที่ออกกำลังกายประจำ สะโพกแข็งแรง บั้นท้ายแน่นและแน่นอนว่าส่วนนั้นแข็งขืนรอนานแล้ว

จุนมยอนไม่ใช่เด็กไม่รู้ความ เขาเองก็ถอดเสื้อผ้าออกเช่นกัน แต่เหมือนจะเร็วไม่พอกับความใจร้อนของอีกฝ่ายเพราะเขาเพิ่งจะถอดบ็อกเซอร์ลงนิดหน่อยก็โดนกระชากออกพร้อมกับเซฮุนโถมน้ำหนักตัวลงมาบังคับให้ต้องอ้าขารับอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พี่จะต้องน่ารักน่ากินขนาดนี้ทุกครั้งเลยหรือไง” พูดข้างหูไม่พอ เซฮุนยังจูบไล่ตั้งแต่หน้าผากขาว จมูก ปาก คอ ขบทำรอยตรงช่วงหน้าท้องแบนราบให้จุนมยอนต้องแอ่นตัวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เริ่มเร้าอารมณ์ด้วยการจูบปากอีกครั้ง

เซฮุนทำราวกับว่ากำลัง กิน จุนมยอนอยู่จริงๆ ทั้งส่งลิ้นเข้าไปรับความหวานจากริมฝีปากงามแล้วยังเลื้อยมือไปมาทั่วร่างราวกับกำลังหยอกล้อให้ประสาทสัมผัสทั้งตัวของจุนมยอนได้รับรู้ความวาบหวามอย่างถ้วนทั่ว คล้ายการนวดก้อนแป้งขาวนวลก้อนหนึ่ง นวดให้อ่อนคามือ จากนั้นก็กลืนกินเข้าไป

“อา...” จุนมยอนครางอย่างหน้าไม่อาย มือหนึ่งจับผ้าปูที่นอนเพื่อลดความเกร็ง อีกมือจับศีรษะคนรักไว้ เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนจากการใช้ปากประกบปากไปเป็นปากประกบล่างแทน ทั้งดูด ดุน งับ เล่นเอาเจ้าของแท่งไอติมน้อยๆ ต้องสั่นสะท้าน ร้องขอทั้งความรุนแรงและความปราณีจนมั่วไปหมด จากนั้นก็ได้รับจนอิ่มเอิบต้องปลดปล่อยออกมาใส่ปากน้องอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อืม... พี่อร่อยมาก รู้รึเปล่า” แลบลิ้นเลียปากตัวเองแล้วเซฮุนก็เอื้อมตัวไปหยิบเจลซึ่งอยู่ในกระเป๋าออกมาบีบใส่มือจากนั้นก็ทาเจลทั้งส่วนแข็งขืนของตัวเองและช่องทางของคนพี่พร้อมสอดนิ้วเข้าไปเตรียมตัวด้วย
“อ๊า เบาๆ ก่อนฮุน โอ๊ย” ไม่รู้ว่าเพราะยืนเกือบตลอดสามชั่วโมงหรือเปล่าทำให้ช่วงล่างเกร็งแน่นขนาดนี้ จุนมยอนแสบร้อนแม้จะมีเจลช่วย เล่นเอาเซฮุนต้องชะงัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อให้พี่เบาๆ แล้วค่อยสอดนิ้วเข้าไปลึกอีกนิด

จูบพรมเกือบทั่วใบหน้าแล้วจุนมยอนก็เริ่มสงบลง ความเจ็บตอนเริ่มต้นก็เปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านอย่างรวดเร็ว แม้จะเห็นว่าคนพี่เริ่มนิ่งแล้วแต่เซฮุนก็ยังไม่รีบดึงดันเข้าไป กลับเปลี่ยนเป็นจูบประกบปากเบาๆ ขบเม้มเรียกอารมณ์พร้อมเพิ่มนิ้วเปิดช่องทางไปอีกทีละน้อย จนกระทั่งสังเกตว่าคนใต้ร่างคลายมือออกจากผ้าปูที่นอนได้หน่อย ช่องทางก็คล้ายจะไม่เกร็งเท่าเก่าจึงเริ่มเสือกกายเข้าไปช้าๆ

“ผมจะค่อยๆ เข้าไปละนะ” เพราะเซฮุนรักจุนมยอน ดังนั้นเขาจึงกระซิบเสียงเบาด้วยคำพูดคล้ายจะขออนุญาต พอเจ้าของทางเข้านั้นไม่ขัดขืนก็ค่อยๆ เข้าไปอย่างที่บอกทีละนิดละน้อย
“อา... อืม เซฮุนอ่า เข้ามาทั้งหมดเลยก็ได้” แต่กลายเป็นว่าอารมณ์ของจุนมยอนเริ่มใกล้จะถึงขีดสุดอีกแล้ว จึงเร่งให้น้องรีบส่งความสุขเข้ามาเสียที
“พี่นี่มัน...” พูดกลั้วหัวเราะแล้วก็เสือกกายทีเดียวพรวด เล่นเอาคนร้องขอสะดุ้งกับขนาดอันใหญ่โตจากนั้นก็กระตุกตัวมากอดน้องอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“ไหนว่าจะเบาๆ ไงเล่า” บ่นกระปอดกระแปดเหมือนเด็กๆ หมดมาดพี่ชายลีดเดอร์แสนอบอุ่น กลายเป็นกระต่ายน้อยหน้าเบะไปในทันที
“ก็พี่บอกว่าเข้าทั้งหมดก็ทั้งหมดไง” ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าน้องเล็กขี้แกล้งน่ะมีอยู่จริง ยิ้มจนตาหยีจากนั้นก็ทำหน้าตายคล้ายไม่รู้ว่าการกระทำของเขาทำเอาอีกฝ่ายต้องสะดุ้งมากอดขนาดนี้
“งั้นเอาออกเลย”
“ออกไม่ได้หรอก”
“ออกเดี๋ยวนี้ อื้อ!” กำลังจะใช้สิทธิ์คนรักอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทันได้ใช้แล้ว เพราะพอจุนมยอนบอกให้น้องถอนตัวออก ก็กลายเป็นว่าโดนรุกเข้าหนักเสียอย่างนั้น มือแข็งแรงผลักให้คนพี่ตัวเล็กล้มตัวลงกับเตียงแล้วจากนั้นสะโพกแกร่งของคนน้องก็ขยับอย่างเร็ว เล่นเอาจะร้องเพราะความเสียวก็ยังแทบไม่ไหวเพราะจังหวะที่เซฮุนขยับเข้าออกนั้น แม้ตอนเจ้านั่นไม่ขยายยังต้องบอกว่าแทบขาดใจ แล้วตอนนี้เหมือนจะใหญ่กว่าเดิมมาก ขาดใจแน่เลยทีนี้

“อา.....” แม้จะบอกว่าขาดใจตายแน่ๆ แต่มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น สุดท้ายจุนมยอนก็กลั้นเสียงไม่ไหว ร้องออกมายามเมื่อส่วนนั้นของน้องกระทบกับช่องทางของเขาเสียงดังพึ่บพั่บ ยิ่งขยับก็เหมือนว่าเซฮุนยิ่งคึก จากเข้าออกไม่เร็วไม่ช้า ก็กลายเป็นเร็วสุดๆ แล้วในขณะที่ใกล้จะเห็นสวรรค์รำไร เจ้าตัวร้ายบนร่างจุนมยอนก็หยุดนิ่งเสียอย่างนั้น

“ยะ หยุดทำไม” บ่นออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พี่รู้รึเปล่าว่าพี่น่ารักที่สุดในโลกเลยน่ะ” คาดว่าจะได้รอยยิ้มแสนทะเล้นตอบกลับมา แต่กลายเป็นคำชมว่าน่ารักซะงั้น เล่นเอาจุนมยอนไปต่อไม่ถูก อารมณ์เกือบขึ้นจนสุดแล้วหยุดลงตรงหน้าทำให้หงุดหงิดก็จริงแต่เขากลับงงมากกว่าว่าทำไมอีกฝ่ายมาชมกันดื้อๆ อย่างนี้
“นายต่างหากเล่า ที่น่ารัก” จุนมยอนเดาอารมณ์คนน้องไม่ถูก แต่ก็เอ็นดูเหลือหลาย จึงยกตัวขึ้นนิดหน่อย จากนั้นก็จุ๊บปากคนรักเบาๆ “คนน่ารักจะขยับได้รึยัง?” พร้อมกับถามว่าจะไปต่อหรือไม่?

“เนี่ย พี่ก็เป็นซะอย่างนี้” เซฮุนพูดจบก็ก้มลงจูบปากสวยอีกครั้ง ใช้ริมฝีปากบดบี้สักพักก็ให้ลิ้นช่วยคลายความร้อน จากนั้นก็ขยับท่อนล่างต่อราวกับเมื่อครู่ไม่เคยออกแรงใดๆ ทั้งสิ้น
“อา... อีกนิด อื้อ” ผละริมฝีปากให้คนพี่หายใจ ก่อนจะได้รับการร้องขอความรุนแรงด้านล่าง เล่นเอาเซฮุนทนไม่ไหว ในขณะที่ขยับส่วนล่างเร็วขึ้นอีกจังหวะ ก็ใช้ปากเร้าอารมณ์ด้วยการวุ่นวายกับหน้าอกจุนมยอนอีกครั้ง

ขยับไปขยับมาไม่กี่ทีก็ค้นพบคนพี่ตัวเล็กปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจากส่วนล่างอีกครั้ง เซฮุนหัวเราะกับท่าทางอ่อนแรงของคนใต้ร่าง ดูสิ ตัวเขาเองเป็นคนทำทุกอย่าง นอกจากจะไม่ไปสักรอบแล้ว คนไม่ทำอะไรยังเสร็จก่อนเขาไปแล้วตั้งสองรอบเชียว

“พี่รีบเหรอเนี่ย รอผมด้วยสิ” พูดจบก็เปลี่ยนท่าให้คนรักนอนตะแคง จากนั้นก็นอนซ้อนด้านหลัง ยกขาเรียวขึ้น สอดกายเข้าแทรกแล้วขยับเข้าออกอีกครั้ง

อันที่จริงท่านี้ก็ลำบากไม่ใช่น้อยแต่เขาว่ามันก็ดีอยู่ เพราะการนอนซ้อนตัวแบบนี้ทำให้เจ้าโลกของเขาเข้าไปได้ลึกหน่อย แถมยังได้มองหน้าคนรักด้านข้างด้วย ซึ่งตรงนี้แหละที่เซฮุนภูมิใจ ใบหน้าทองคำของจุนมยอมน่ะ มองข้างๆ แล้วดูดีที่สุดเลย

“อื้ม” เสียงร้องประท้วงดังออกมาจากลำคอสวย เมื่อส่วนล่างทำงานไม่หยุด แล้วด้านบนยังโดนเซฮุนจูบปิดปากเสียอีก
“เหนื่อยหรือยังครับ?” ถามแล้วก็ไม่ต้องการคำตอบเพราะการกระแทกกระทั้นแรงขึ้นจนจุนมยอนต้องเอามือจับหมอนแน่นขึ้น ตาก็หลับแน่นเนื่องจากอาการเสียวไล่ไปตามท้องน้อยอีกแล้ว เซฮุนเห็นท่าทางนั้นก็หัวเราะเบาๆ สงสัยเขาต้องเร่งเครื่องให้ตัวเองเสร็จบ้างแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคนรักตัวเล็กได้ไปสามรอบก่อนเขาอีกแน่ๆ

“อ๊า!” แล้วในที่สุดเซฮุนก็สมหวัง น้ำขุ่นๆ พุ่งเข้าช่องทางด้านหลังคนรักจนล้นออกมาพร้อมกับที่จุนมยอนก็ไปสวรรค์รอบที่สามเช่นกัน ส่ายศีรษะไปมาให้กับความเหนื่อยนี้ จากนั้นก็ถอนกายออก จูบพรมข้างขมับคนรัก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานที่สุดที่เขาทำได้

“ขอบคุณมากนะครับที่พาผมขึ้นสวรรค์ จุนมยอนที่รัก”

แล้วจากนั้นเชยคางคนรักเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับจูบลงไปอีกครั้ง

จูบอ่อนหวานหลังเสร็จกิจจบไป ทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน จุนมยอนตัดพ้อเรื่องทำให้เหนื่อยนิดหน่อย แต่พอเซฮุนอ้อนเหมือนเด็กๆ ก็ยอมแพ้ไม่บ่นแล้ว นอนกอดกันสักพักก็ปิดไฟแล้วนอน จากสะกิดเพื่อที่จะให้นอนกลายเป็นสะกิดแล้วได้เหงื่อแบบนี้ คราวหน้าจุนมยอนสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่สะกิดยิกๆ อีก คราวหน้าจะปิดไฟเลยล่ะ

เอ๊ะ? หรือถ้าปิดไฟเลยจะทำให้เซฮุนโมโหแล้วจัดการเขาอย่างหนักหน่วงแทนนะ


[end]

ลงเป็นน้ำจิ้มจ้ะ กำลังจะแต่งฟิคฮุนโฮเรื่องยาวเร็วๆ นี้
@noeybaekbd

Friday, March 2, 2018

คยองซูคนมึน ตอนจบ


จงอินยอมรับว่าเขาขี้ขลาด 

เขาไม่รู้เลยว่าคุยเปิดอกที่แบคฮยอนพูดถึงคือยังไง ต้องเริ่มแบบไหน... ถึงจะไม่สั่นคลอนอารมณ์ของคนตัวเล็กที่เขากุมมืออยู่นี่

ใช่ ตลอดระยะเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่หลังจากได้รับคำแนะนำจากแบคฮยอนให้คุยกับคยองซูจริงจังเสียที จงอินก็พบเจอกับอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ของคยองซูเป็นว่าเล่น

เอาจริงก็สงสัยมากว่าคนรักเป็นอะไร แต่ตอนนี้ก็ค่อนข้างเข้าใจแล้วว่าเพราะคยองซูอารมณ์แปรปรวนเนื่องจากแบกรับทายาทของเขาอยู่

จงอินลูบหน้าท้องคนบนเตียงเบาๆ พึมพำด้วยเสียงทุ้มว่าลูกเสร็จแล้วก็ยิ้มให้กับตัวเองหนึ่งครั้ง ตลกที่เขาเป็นคนพูดเองว่าอยากมีลูก เพื่อที่คยองซูจะได้พัก จะได้ยอมแต่งงานด้วย แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นคุยกับแม่ของลูกอย่างไร

เหตุการณ์ทะเลาะแต่เหมือนไม่ได้ทะเลาะของพวกเขาดำเนินมาเกือบเดือนจริงๆ จงอินไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อคยองซูบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคุย จึงได้แต่เงียบเอาดื้อๆ เขาไม่เคยนึกเลยว่าถ้าคยองซูงอแง เขาควรจะเอาใจสิ ทำเงียบอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน

และเพราะเงียบนั่นแหละ ที่บอกแบคฮยอนว่าจะเข้าไปคุยก็ไม่ได้คุยสักที ลากยาวมาจนคยองซูคิดมาก จงอินยังตกใจไม่หายที่เห็นคนรักเป็นลมล้มพับในงานแต่งของหมอเจและเหมียว ซึ่งหลังจากนั้นนึกว่าจะดีขึ้นเพราะคยองยอมมาเรียนทำกาแฟกับเขา

ปรากฏว่านอกจากจะไม่หายงอนแล้ว คยองยังระบายอารมณ์จนทำข้าวของพัง เขาต้องคอยยั้ง สักพักก็วิ่งออกมาจนต้องตาม แล้วยังมาแพ้ท้อง อ้วกใส่เขาไปอีก

มาถึงตอนนี้จงอินก็ขอขอบคุณผ้ากันเปื้อนที่ทางคอร์สชงกาแฟแจกให้ เพราะถ้าไม่มีมัน ป่านนี้เขาก็คงตัวเหม็นอ้วกมากกว่านี้แน่

ร่างเล็กบนเตียงเริ่มขยับ พร้อมกับจงอินใจตกลงไปตาตุ่ม ถ้าคยองซูตื่นตอนนี้ เขายังไม่พร้อมแน่ คุยเปิดอกอะไรไม่ต้องพูดถึง แค่จะบอกคนรักยังไงว่าท้อง จงอินยังไม่ได้คิดเลย

นับว่าพระเจ้ายังเอ็นดูเขา เพราะคยองซูแค่ขยับตัวนิดหน่อย พึมพำสองสามที จากนั้นก็หลับเหมือนเดิม พอจงอินเห็นแบบนั้น ก็เป่าลมพรวดออกหนึ่งที ฟู่ มีเวลาตั้งหลักอีกนิดนึง

นึกว่าจะตื่นซะแล้วบ่นเบาๆ จากนั้นก็เอามือไปลูบหน้าท้องคนรักอีกครั้งพี่ยังไม่รู้เลยว่าจะบอกคยองยังไงว่าเรากำลังมีเจ้าตัวเล็กกัน

คยองซูยังคงหลับสนิท จงอินจึงพูดต่อ เขาคิดว่าอย่างน้อยซ้อมคุยสักรอบก็น่าจะดี

คยองครับ รู้รึเปล่าว่าพี่จงอินรักคยองมากขนาดไหนมือพี่ที่จับมือน้องอยู่ ยกขึ้นมาระดับใบหน้าตัวเองแล้วบรรจงจูบเบาๆ 

คยองอาจจะคิดว่าเราเพิ่งคบกัน เรายังไม่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่พี่น่ะ มั่นใจตั้งแต่เมื่อสิบหกปีที่แล้วละนะ” 

ตอนนั้นพี่อ่อนแอ เป็นนีนี่ที่ต้องให้คยองดูแล จริงๆ แล้วพี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ พี่อยากให้คยองดูแลพี่ตลอดไปต่างหาก” 

นึกไม่ถึงว่าเราจะไม่เจอกันอีกหลังจากนั้น มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นและพรากเราจากกัน แต่ในที่สุดพี่ก็ได้เจอคยองของพี่เสียทีจงอินพูดถึงตรงนี้ก็ยกมือคนรักมาจูบอีกครั้ง

พี่ดีใจมากนะครับที่เราเป็นแฟนกันจริงๆ ดีใจที่คยองตอบรับความรักของพี่ ดีใจที่ได้บอกว่าพี่คือนีนี่ แต่คยองรู้ไหม พี่จะดีใจที่สุดนะ ถ้าเราได้แต่งงานกันพอถึงตรงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาก็หมองลง

พี่ไม่ต้องการเวลาที่จะพิสูจน์ใจเราอีกแล้ว พี่ให้ได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับการอยู่กับคยอง แต่ทำไมเราต้องใจร้ายกับพี่ ทำไมต้องอ้างเรื่องหนี้สินที่พี่ช่วยเราได้ หรือจริงๆ แล้วพี่ไม่เคยเข้าไปเป็นคนสำคัญของคยองจริงๆจงอินสุดจะกลั้น ความน้อยใจที่บั่นทอนเขาที่สุดคือคนรักปฏิเสธความช่วยเหลือของเขา 

มันพลอยทำให้คิดว่า หรือมีแค่เขาที่รักคยองจริงๆ แล้วคนที่คยองรักอาจไม่ใช่เขา อาจเป็นนีนี่ หรือนายจงอินคนงานก่อสร้างก็ได้

น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเพราะความอัดอั้น เขาไม่ใช่คนพูดเก่ง ที่พูดออกมาตอนนี้ก็เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหลับอยู่ ถ้าเขาหาจังหวะพูดได้มากกว่านี้ ถ้าเขาพูดเก่งกว่านี้ก็คงจะดี พอคิดถึงแค่นี้จงอินก็ฟุบลงกับเตียงคนไข้ร้องไห้เบาๆ

จู่ๆ มือที่เขากุมไว้ก็มีความเคลื่อนไหว จงอินรีบเงยหน้าแล้วเอามืออีกข้างปาดน้ำตาตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะเช็ดน้ำตาหมดดี ก็ได้ยินคำพูดหนึ่งทำเอาชะงัก

ผมไม่ได้ไม่รักพี่จงอินเสียหน่อย

จงอินถึงกับอ้าปากค้างเมื่อคยองซูยกมือมาปาดน้ำตาให้เขา จูบเบาๆที่กระหม่อม พร้อมกับบ่นเสียงกระปอดกระแปดจริงๆ เรื่องหนี้น่ะ ตอนนี้ก็ทำใจแล้วแหละว่าจะขอยืมเงินพี่ก่อน

ส่วนเรื่องเจ้าตัวเล็กพูดไปก็ลูบหน้าท้องตัวเองด้วยขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้บอกก่อน รู้มาสักพักแล้วล่ะ ก็เลยรีบเคลียร์ร้าน จะได้ไปแต่งงานกับพี่จงอินไง

อะ อะไรนะครับ?” จงอินยังคงทำหน้าเหวอ

อือ จะแต่งงานด้วย จะปิดร้านไปเลี้ยงลูก ถ้างั้นก็ขอยืมเงินไปใช้หนี้ด้วยนะ

ไชโย!” จงอินได้ยินชัดสองรูหู เลยดีใจจนยกคนรักตัวเล็กขึ้นจากเตียงหวังจะฟัด แต่พอโดนเตือนด้วยการกุมท้อง เลยเพิ่งรู้ตัว จากนั้นก็วางคยองซูลงบนเตียงเหมือนเดิม

พี่นึกว่าเราโกรธพี่มาตลอดเลย

จริงๆ ตอนแรกก็โกรธแหละ คนอะไรมาบังคับให้แต่งอยู่ได้

คยองอ่า...”

แต่พอรู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กก็เลยเริ่มวางแผนขายร้าน ยุ่งจนไม่มีเวลาโกรธหรอก แล้วก็บางทีหงุดหงิดเพราะแพ้ท้องน่ะ” 

งั้นที่เราทำหน้าเหม็นบูดใส่พี่ก็...”

อือ เหม็นเหงื่อมากเลย แล้ววันนี้ยังเหม็นกาแฟอีก

หืม?”

ก็ตอนแรกไม่รู้ว่าจะเหม็นนี่นา ก็เลยยอมมา แต่พอมาบดกาแฟแล้วเหม็นมากเลย แต่เกรงใจคนอื่นเลยรีบๆ ทำ ไหงเครื่องพังก็ไม่รู้ สุดท้ายทนไม่ไหวเลยวิ่งออกมาอ้วกไง พี่จงอินยังมายืนขวางอีก


จงอินอ้าปากค้างอีกครั้ง