Friday, July 13, 2018

Psycho sex [One Shot Chanbaek NC-18]




 Psychiatrist คือจิตแพทย์
Psychotic patient คือผู้ป่วยโรคจิต

“วันนี้ก็ปวดตัวอีกแล้วหรือครับ คุณชานยอล” น้ำเสียงใสกังวานสะท้อนเข้ามาในหู พาให้ร่างสูงกล้ามใหญ่ซึ่งนอนนิ่งบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อนตอบออกมาเสียงเบาหวิวคล้ายจะเป็นลม
“ครับ คุณแบคฮยอน”

ชานยอลเป็นคนไข้ประจำคลินิกแห่งนี้มาได้กว่าหกเดือนแล้ว ...คลินิกรักษาผู้ป่วยโรคจิต คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนที่เล่นกีฬาออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างแข็งแกร่งราวกับจะบีบคนอื่นไว้ในมือ แต่กลับเป็นคนหัวใจไร้เรี่ยวแรงขนาดนี้ได้

เขาถูกทิ้ง

กว่าหลายปีกับแฟนสาว ไม่เคยรู้เลยว่าตนเองทำผิดตรงไหน หาข้อบกพร่องไม่เคยเจอเพราะทุกอย่างก็ทุ่มให้เจ้าหล่อนมาตลอด แต่ปรากฏว่าหกเดือนก่อน แฟนสาวกลับพาผู้ชายคนอื่นมาร่วมรักบนเตียงนอนที่เขาใช้ เจ็บใจโดนนอกใจไม่พอ หลังจากให้เลือก กลับถูกทิ้งเอาดื้อๆ

เพราะเหตุผลเราไปด้วยกันไม่ได้

เขาสูญสิ้นพลังใจในการใช้ชีวิตต่อ กล้ามเป็นมัดๆ เกิดจากการออกกำลังกายเกินขนาดติดต่อกัน บางคนอาจจะใช้ยาเสพติดหรือสุราเพื่อตัดสินปัญหา แต่เขาไม่ใช่ ชานยอลตัดสินใจเข้ายิมตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ทำงาน และนั่นก็ทำให้เขาหมกมุ่นกับการออกกำลังกายจนเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบทั่วร่าง ซ้ำยังรู้สึกเหมือนเลิกไม่ได้ เขาต้องทำมันตลอดเพื่อให้ลืมเธอ

นานวันเข้าเขาก็ถูกเพื่อนหามเข้าโรงพยาบาลพร้อมกับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิต แล้วถูกส่งตัวเข้ามารักษาต่อที่คลินิกนี้


“คุณยังไปยิมวันละสิบชั่วโมงอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงใสของจิตแพทย์หนุ่มเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง
“ผมลดเหลือเก้าชั่วโมงแล้ว” ตอบเสียงอ่อนพลางพยายามขยับตัวอย่างอ่อนแรง ไอ้โรคกล้ามเนื้ออักเสบบ้านี่
“คนปกติไม่ควรเข้ายิมเกินวันละสามถึงสี่ชั่วโมงนะครับ ถ้าไม่ใช่นักกีฬา”
“ผมรู้...”
“ใช่ คุณรู้ แต่คุณก็ยังหยุดไม่ได้ใช่ไหม”
“ใช่...”

ชานยอลนอนหลับตา ครั้งนี้เขาถูกหามมาคลินิกเพราะกินยาแก้ปวดเกินขนาด ใครให้ไอ้อาการปวดกล้ามเนื้อบ้านี่มันทรมานนัก แม้จะรู้ว่าเกิดจากตนเองเข้ายิมมากเกินไป แต่มันก็หยุดไม่ได้ ยิ่งเขาออกกำลังกายมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าลืมเธอคนนั้นได้มากเท่านั้น
“ผมว่าเราคุยกันมานานจนรู้แล้วนะครับ ว่าผมอาจจะต้องขังคุณเอาไว้”

นั่นคือวิธีหนึ่งในการรักษาเขา ขังเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปยิมจนกว่าจะรักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบทั่วร่างกายจนหาย

“แต่คุณก็รู้ว่าสุดท้ายผมจะต้องไปยิมอยู่ดี”

ชานยอลก็ตอบไปอย่างที่เคยทำ เขาห้ามตัวเองไม่ได้ พอรักษาอาการเจ็บทางกายเสร็จ เขากลับไปบ้านก็ทำใจไม่ได้ ยิ่งอยู่ในบ้านก็ยิ่งประสาท ต้องกลับไปยิมแล้วออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลังอีกครั้งอยู่ดี

“ถ้าอย่างนั้นผมว่าเราอาจจะต้องรักษาแบบใหม่” จิตแพทย์หนุ่มพูดเหมือนราวกับอยู่ใกล้เขามากจนชานยอลสงสัย จึงลืมตาขึ้นแล้วพบว่าใบหน้าของแบคฮยอนอยู่ใกล้จนปากเกือบจะสัมผัสใบหน้าเขาอยู่แล้ว “ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะไม่มีวันหาย...”  จากนั้นก็เป่าลมเข้าหูชานยอลเบาๆ หนึ่งครั้ง

ชานยอลขนลุกซู่

ราวกับร่างกายตอบสนองต่อเสียงใสของจิตแพทย์ข้างตัวแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อยามสบตาก็รู้สึกหัวใจแกว่งไกว แถมเมื่อตอนเป่าลมเข้าหูก็...

“ไม่นึกว่าเครื่องจะติดง่ายขนาดนี้นะครับ” แบคฮยอนยังคงไม่ผละสายตาออกจากเขา แถมยังวางมือไปยังจุดยุทธศาสตร์ที่ตื่นตัวนั่นเรียบร้อย
“คุณจะทำอะไรน่ะ” ชานยอลพยายามปัดตัวบ่ายเบี่ยง เขาไม่มีรสนิยมแบบนั้นเพราะคบแต่แฟนสาวมาตลอด แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอ้นั่นมันตื่นตัวเร็วจริงๆ
“คุณรู้ดีครับว่าผมจะทำอะไร คำถามคือผมไม่มีความคิดจะขืนใจคุณสักนิด” พูดพลางแบคฮยอนก็ไม่ละสายตาจากเขา ชานยอลเดาไม่ออกเลยว่าจิตแพทย์คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่มือเรียวราวกับหญิงสาวของอีกฝ่ายกำลังหยอกล้อเจ้านั่นของเขาไม่เลิก แถมไอ้แท่งกลางตัวของเขาก็ยังขืนตัวเล่นด้วยอย่างไม่ฟังเจ้านายด้วยซ้ำ

ชานยอลหวังว่าร่างกายของเขาจะมีแรงหน่อย คราวนี้เขาออกกำลังหนักไปจริงๆ ปวดกล้ามเนื้อไปทั้งตัวจนยัดยาแก้ปวดลงไปทั้งขวดแบบนั้นถึงได้โดนหามมาล้างท้องที่นี่ แม้พิษยาแก้ปวดจะหายไปแต่อาการปวดตัวยังคงอยู่ ยามนี้แบคฮยอนคร่อมลงนั่งบนตัวเขาแล้ว ก้นแน่นนุ่มที่ไม่เคยนึกว่าจะอยู่บนร่างของจิตแพทย์หนุ่มกำลังบดเบียดเข้ามาทีละน้อย

“ว่ายังไงครับ อยากรักษาแบบใหม่หรือเปล่า” อีกฝ่ายเริ่มผละใบหน้าออกจากหน้าเขาแล้ว แต่ส่งนิ้วเรียวที่เพิ่งเล่นกับไอ้น้องกลางตัวมาลากปลายคางให้รู้สึกเสียวเล่น
“ผม...” ชานยอลรู้สึกว่าจิตใต้สำนึกกำลังปฏิเสธ เขาเป็นคนไข้โรคจิตที่ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่ได้ชอบออกกำลังในร่มแบบนี้ กับผู้ชายด้วยแบบนี้...

หรือเขาจะชอบมากกว่า...

มือใหญ่ยกขึ้นมาบีบก้นงอนที่ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเองแล้วก็พลันได้ยินเสียง “อ๊า” จากปากจิตแพทย์หนุ่ม พร้อมกันนั้นอีกฝ่ายยกปากกาซึ่งมักจะนำมาจดอาการของเขาก็เปลี่ยนเป็นสิ่งที่เอาเข้าปากได้ ปากกาแท่งใหญ่ไม่สมกับความตัวเล็กของจิตแพทย์หนุ่มถูกรูดรั้งเข้าปากเล็กนั่นจนเปียกชุ่ม คุณภาพปากกาคือโดนลามเลียขนาดนี้ยังไม่เสียหาย แบคฮยอนสามารถเอามันมาเขียนบนแขนชานยอลได้เป็นคำว่า ‘I like you so much’

แทนที่จะรู้สึกรังเกียจเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่กลายเป็นว่าชานยอลราวกับต้นไม้แห้งเหือดผู้ต้องการน้ำ มือที่เคยบีบก้นงอนงามตรงเข้าบีบอีกครั้ง จนอีกฝ่ายส่งเสียงครางหวาน อาการปวดหนึบตรงเจ้าโลกที่ไม่ได้ทำกับใครมานานกว่าหกเดือนเกิดเครื่องติดอย่างหยุดไม่อยู่ทันที

ชานยอลไม่เข้าใจตัวเอง แบคฮยอนคือจิตแพทย์ผู้รักษาเขามากว่าหกเดือนแล้ว ไม่เคยเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจเขามาก่อน แต่จู่ๆ มาวันนี้เหมือนอยากจะมีเซ็กส์กับเขามากๆ ถ้าหากโดนถามเรื่องขึ้นเตียงก่อนหน้านี้เขาคงปฏิเสธ แต่จากปฏิกิริยาของร่างกายตอนนี้เขาว่า เขาปฏิเสธร่างเล็กนี่ไม่ได้

“ตกลง...” ขาดคำตอบรับ จิตแพทย์หนุ่มถอดเสื้อกาวน์ออกก่อนจะโน้มหน้าลงมาหาเขาแล้วจูบอย่างหนักหน่วงราวทะเลทรายขาดน้ำ เสียงครางอื้ออึงในลำคอปลุกทุกประสาทให้ชานยอลตอบสนองกลับ ลิ้นหน้าเกี่ยวตอบรับลิ้นบาง พร้อมมือทั้งสองยกขึ้นมากอดตระคองไม่ให้ร่างเล็กกลิ้งล้มบนเตียงไปก่อน

ดูเหมือนแบคฮยอนจะเชี่ยวชาญไม่น้อย หลังจากจูบร้อนแรงก็รู้จังหวะที่จะต้องถอย มือเรียวตรงเข้าปลดกางเกงซึ่งไอ้นั่นของชานยอลยืนตรงรับมืออีกฝ่ายนานแล้ว สองขาหนีบเข้ากับหน้าขาแน่นของชานยอลแล้วก็จัดการก้มลงจูบแท่งกลางตัวของเขาอย่างไม่รังเกียจ ชานยอลต้องฝืนตัวลุกเพราะอยากเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกลืนกินเขาแบบไหน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อขนาดเจ้าน้องชายเมื่อขยายเพื่อรับสัมผัสแบคฮยอนกลับใหญ่กว่าที่เคยเป็นมากนัก

“ปกติมันไม่เคยใหญ่ขนาดนี้... อืม...” ชานยอลพูดคล้ายจะขอโทษเมื่อแบคฮยอนต้องพยายามอ้าปากกว้างอย่างมากเพื่อทำให้เขาได้เสพความสุข ปากเล็กเชิดหยิ่งที่ชานยอลเคยเห็นตอนนี้กลับอมและดูดแท่งไอศกรีมของเขาไว้เกือบหมด ทั้งจูบ ขบกัดหรือกระทั่งลามเลียราวกับไม่ให้เสียของ ทะนุถนอมยิ่งกว่าเจ้าของมันเองด้วยซ้ำ

ยอมรับเลยว่าทำเก่งกว่าแฟนสาวของเขาเสียอีก ชานยอลเผลอคิดแล้วก็สะบัดศีรษะเบาๆ หนึ่งครั้ง

“ไม่ชอบเหรอครับ” นึกไม่ถึงว่าแบคฮยอนเงยหน้ามามองเขาพอดี เห็นว่าชานยอลสะบัดศีรษะก็เข้าใจว่ายังไม่ถูกใจ
“ไม่ใช่ อ่าส์” กำลังจะปฏิเสธก็ได้รับสิ่งเกินคาดหมายเมื่อแบคฮยอนกลืนแท่งไฟน้อยของเขาเข้าไปจนเกือบมิดแท่ง มันทั้งปวดหนึบและเร่าร้อนอยู่แล้ว พอโดนเข้าอย่างนี้ก็เต้นตุบๆ แบบดีใจจนตัวสั่นเลยทีเดียว ฟันเล็กๆ ขบกัดเขาให้เสียวมากขึ้นแล้วลิ้นร้อนก็ผลักดันให้แท่งร้อนเข้าออกปากซ้ำๆ ชานยอลรู้สึกดีจนแทบขาดใจตาย เขาอยากให้ตัวเองไม่ปวดกล้ามเนื้อเกินไปจนสามารถยกใบหน้าสวยนั้นขึ้นมาจูบอีกครั้งได้

เหมือนว่าใบหน้าเชิดหยิ่งของจิตแพทย์หนุ่มจะกลายเป็นใบหน้าสวยไปเสียแล้วในความคิด แถมยิ่งตอนมีน้ำอุ่นๆ ของเขาเลอะหน้าแบบนี้

รูดรั้งด้วยปากไม่นานชานยอลก็สุขสม น้ำขุ่นขาวๆ พ่นออกมาใส่ใบหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ ชานยอลจำไม่ได้เลยว่าเคยรู้สึกดีขนาดนี้ล่าสุดคือเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้มันแสดงออกมาทั้งร่างกายเขาแล้วว่า... ชอบ

และยิ่งชอบขึ้นอีกเมื่อแบคฮยอนกำลังถอดเสื้อ

ร่างบางตรงหน้าถอดเสื้อเชิ้ตซึ่งใส่ประจำออกด้วยการปลดกระดุมทีละเม็ด เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนปกติปลดกระดุมที่ความเร็วเท่าไหร่ แต่กับแบคฮยอนคือมันช้าเนิบนาบมากนัก ปลดกระดุมที่แขนเสื้อแล้วก็ค่อยปลดกระดุมเสื้อจากสาบเสื้อขึ้นมา เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบขาวนวลราวหญิงสาว เรื่อยขึ้นมามีเส้นหนังสีดำปรากฏสู่สายตาทำให้ชานยอลประหลาดใจนิดหน่อย แต่พอปลดกระดุมจนถึงคอชานยอลก็ถึงกับรู้สึกลมหายใจขาดห้วง

แบคฮยอนถอดเสื้อเผยให้เห็น choker chain หนังสีดำที่ปกปิดอกขาวนวลและตุ่มไตสีชมพูซึ่งอยู่ระหว่างช่องว่างของเส้นหนังเหล่านี้

ร่างบางถอดกางเกงออกเผยให้เห็นเส้นหนังสีดำซึ่งรัดส่วนล่างลำตัวอีกชั้นหนึ่ง เหมือนมันกำลังทำให้หัวชานยอลเกิดแสงสว่างวิ้งแล้วทั้งหมดก็คือกลุ่มควันขาวโพลน เขาไม่เข้าใจตัวเองยามยื่นมือไปดึงเส้นหนังของอีกฝ่าย รวมทั้งตอนที่ก้มลงดูดดุนจุดสนใจสีชมพูอย่างกระหายเลือดนั่นด้วย

“อ๊า... อย่ากัดแรง อื้อ” แบคฮยอนพยายามจะห้ามเขาแต่กลับเหมือนไร้เรี่ยวแรงไปเสียอย่างนั้น เสียงกระเส่าที่ดังมาจากจิตแพทย์หนุ่มทำเอาสติเขากระเจิงจนหมด น้ำเสียงใสกังวานเช่นกับเมื่อตอนพยายามจะบังคับให้เขาพูดปัญหาออกมา ในตอนนี้กลับทำให้สัญชาตญาณดิบออกมาจนสิ้น ชานยอลไม่ฟังคำใดๆ ทั้งลามเลีย ขบกัดตุ่มไตนี้จนร่างบางสั่นระริก

เหมือนว่าไม่พอใจจึงผละออกจากอกขาวมาเป็นใบหน้าแทน จูบตั้งแต่กกหู ไซ้ซอกคอแล้วจบลงปากเล็กซึ่งเคยเชิดหยิ่ง ยามนี้ปากนั้นไม่ได้บังคับให้เขาต้องพูดปัญหาหรือกระทั่งออกคำสั่งให้พยาบาลพาเขาไปจับมัดบนเตียงอีกแล้ว เป็นชานยอลเองที่มัดแบคฮยอนไว้ด้วยปากของเขาเอง แต่กระนั้นก็ยังไม่พอ มือหนาจับหมับตรงก้นงอนสองลูก จากนั้นบีบคลึงเค้นเสียจนอ่อนคามือ ร่างเล็กที่คร่อมอยู่บนตัวเขาสั่นจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

ชานยอลจูบอีกฝ่ายจนมือน้อยต้องทุบอกเขาเพื่อให้หยุด “คุณรุนแรงไปนะบางที” เสียงบ่นราวกับงอนออกจากปากจิตแพทย์หนุ่มทำเอาใจอ่อนยวบ ยามนี้จึงค่อยปลดสายโซ่หนังออกจากร่างเล็กก่อน ค่อยๆ ปลดทีละจุดพลางจูบในจุดนั้นด้วยราวกับสำนึกผิด จนเมื่อปลดโช้คเกอร์จากลำคอระหงออกหมด ชานยอลก็ซุกไซ้เหมือนเด็กขาดความอบอุ่นอีกครั้ง เรียกเสียงครางหวานยามเขาจูบและทำรอย

“ยะ อย่าทำรอยสูงไป อ๊า” เสียงอ้อนวอนจากชายหนุ่มบนร่างห้ามทันเมื่อตอนชานยอลกำลังจะทิ้งร่องรอยสีแดงเลือดไว้ตรงลำคอพอดี เขาใจอ่อนอีกครั้งก่อนจะตรงเข้าวุ่นวายอกนวลต่อ แต่เจ้าแท่งไฟร้อนตรงหว่างขากลับไม่สุขใจเท่าหัวใจเขามากนัก เพราะมือเรียวของแบคฮยอนข้างหนึ่งเมื่อค้ำเข้ากับหน้าขาเขาจนมั่นคงแล้วก็ปล่อยอีกมือเล่นกับแท่งร้อนทันที

“อาส์ ผมปลดส่วนล่างคุณได้หรือยัง”
“ก็เอาสิ” ปากเล็กกระซิบเข้าข้างหูเขาก่อนจะครางเสียงหวานอ่อน “อื้อ” ชานยอลปลดโซ่หนังท่อนล่างด้วยการกระตุกแรงๆ จนเชือกขาดคามือ จากนั้นก็ส่งนิ้วกลางเข้าไปทักทายช่องทางร้อนของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
“อ๊า เจ็บ เบาๆ หน่อย” เล็บสั้นกุดจิกกลางหลังจนรู้สึกเหมือนได้เลือดยามเขาสอดนิ้วที่สอง เหมือนกล้ามใหญ่โตของเขาคือนิ้วมือทั้งห้าและฝ่ามือหนาหนัก เขาเคยเอากำไลที่สามารถใส่แขนหญิงสาวมาควงได้ด้วยสองนิ้วเลยทีเดียว นั่นทำให้เข้าใจได้ว่าการโดนนิ้วกลางและนิ้วชี้สอดแทรกช่องทางทำให้แบคฮยอนเจ็บปวดจนจะบ้า

นั่นทำให้ชานยอลพอใจหนักมาก

มือร้อนปาดเอาของเหลวจากเจ้าโลกที่เหนอะหนะเมื่อครู่แล้วส่งสองนิ้วเข้าไปอีกครั้ง “อา... ช้าลงหน่อย อืม อย่างนั้นแหละ ตรงนั้น อ๊า” เสียงตอบสนองยามเขาส่งกำลังพลเข้าบุกรุกช่องทางหวานทำเอาชานยอลใกล้จะคลั่ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ปวดตัวจะเป็นจะตาย แต่พอได้สัมผัสร่างกายแบคฮยอนมากเข้า เรี่ยวแรงที่ไม่เคยมีกลับปึ๋งปั๋งขึ้นมาขนาดนี้

“เข้ามาเถอะ อื้อ” หลังจากจิกเล็บลงหลังจนอ่อนแรง แบคฮยอนก็ทำสิ่งที่เคยตัว นั่นคือออกคำสั่งเพื่อบังคับตัวชานยอลให้กระทำ แต่การกระทำนี้ชานยอลกลับเต็มใจมาก เขาจับเจ้าแท่งกาวร้อนขึ้นมาจ่อปากทางนานแล้ว รอก็แค่ว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยปากก่อนหรือไม่เท่านั้น

“อ๊า ทำไมมันใหญ่ขึ้น” หลังจากหมดคำขอชานยอลก็บุกเข้าด้วยกำลังพลหลักทันทีและนั่นทำให้แบคฮยอนบ่นออกมา เอาจริงคำตอบนี้เขาก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่จนใจแล้วก็ดันให้แท่งร้อนนี้เข้าไปให้มากขึ้น เล็บสั้นจิกเข้าหลังอีกครั้งพร้อมขาอ้ากว้างขึ้นกว่าเก่า ราวกับว่าแบคฮยอนจะเชียวชาญแต่กับขนาดที่เล็กกว่านี้ พอเจอแบบใหญ่ๆ เข้าก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“คุณเจ็บเหรอ” ถามจบก็ได้รับการตอบกลับเป็นแรงกระแทกจากร่างเล็ก “เจ็บสิ ถามได้ คุณใหญ่เกินไปแล้วนะ อ๊า” บ่นได้แรงเท่ากับการกระทำเล่นเอาชานยอลอดหัวเราะไม่ได้
“ยังจะหัวเราะอีก ถ้ามีแรงก็ออกแรงให้เยอะหน่อยสิ”
“ย่อมได้” ยิ้มตอบรับกับความขำขันของการกระทำนี้แล้วสองร่างก็ออกแรงกระแทกใส่กันและกันให้ลึกสุดใจ เสียงครางและสูดปากสลับกันไปจนแว่บหนึ่งชานยอลคิดได้ว่ามันอาจดังไปถึงข้างนอก ราวกับรู้ใจเมื่อแบคฮยอนกระซิบว่าตอนนี้พักเที่ยง ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว นั่นทำให้เขาหัวเราะหึๆ ครั้งหนึ่งจากนั้นก็กระแทกใส่อย่างเต็มแรง ทำเอาแบคฮยอนกัดหูเขาเบาๆ แล้วบอกว่าแก้แค้น

ชานยอลกระแทกกระทั้นใส่ช่วงล่างคนตัวเล็กไปไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงครางแบบหมดแรงจากคนตรงหน้าเสียแล้ว ของเหลวข้นหนืดออกมาจากกลางท่อนขาขาวนวล เขาอยากจะก้มลงไปช่วยทำความสะอาด เสียแต่ว่าส่วนของเขามันนานกว่ามากนัก ตอนนี้อีกฝ่ายไปถึงฝั่งฝันแต่ตัวเขารอบสองนี่ยังไม่ถึงไหน แบคฮยอนตอนแรก็กระแทกช่วยอย่างดีแต่ร่างเล็กๆ นั่นจะมีแรงเสียเท่าไหร่ หลังปล่อยหนึ่งรอบก็อ่อนปวกเปียกเสียจนแรงน้อยกว่าตอนแรกมากนัก

“หมดแรงแล้วหรือครับคุณจิตแพทย์” ชานยอลยั่วเย้า กับจิตแพทย์คนนี้รู้จักกันมาหลายเดือนก็ใช่ว่าจะไม่สนิทเลยทีเดียว แต่แค่ว่าทุกครั้งแบคฮยอนมักจะบีบคั้นให้เขาเจ็บใจบ่อยก็เท่านั้นเลยไม่เคยมองว่าร่างเล็กมีใจให้ มาวันนี้ได้ทีก็ขอแกล้งหน่อย
“ใครจะไปบ้าออกกำลังกายอย่างคุณ”
“ผมนึกว่าคุณออกกำลังกายในร่มบ่อย” พูดจบก็ขบกัดใบหูน้อยๆ หนึ่งครั้ง
“รอคุณมาหลายเดือนแล้วคิดว่าจะไปทำกับคนอื่นได้เหรอ”

ชานยอลโคตรจะใจชื้น

ผลของการเข้ายิมวันละสิบกว่าชั่วโมงออกมาอย่างชัดเจนก็วันนี้ เห็นได้ชัดเมื่ออะดรีนาลีนหลั่งขั้นสุด และออกซิเจนจากการหายใจเข้าออกจะช่วยกำจัดกรดยูริกซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อได้มากที่สุด จากปวดตัวจนแทบลุกไม่ขึ้น ชานยอลก็ไม่รู้ว่าเขามีเรี่ยวแรงมหาศาลราวกับจะฉุดช้างได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ เจ้าช้างกลางหว่างขาตัวนี้กำลังโดนยื้อยุดให้ขึ้นลงอย่างไม่หยุดในตอนนี้

“อ๊า แรงอีก อ๊า เสียว อ๊ะๆๆๆ อ่าส์” เสียงครางและหลักฐานการปล่อยของเหลวรอบสองเป็นสิ่งการันตีถึงความร้อนแรงของช้างชานยอลในตอนนี้ ในขณะที่เขายังไม่ถึงรอบสอง แต่แบคฮยอนกลับไปอีกรอบในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว ร่างเล็กอ่อนปวกเปียกเข้าไปอีก ทำเอาชานยอลแทบบ้า ตอนนี้เหงื่อของทั้งคู่คงออกมาเป็นลิตรแล้วเพราะมันชุ่มร่างกายจนหมด พร้อมๆ กับอาการปวดตัวหายเป็นปลิดทิ้งชานยอลกระแทกเจ้าโลกเข้าไปจนสุดแล้วก็รู้สึกว่าร่างกายได้ปลดปล่อยอีกครั้ง

“คุณนี่มันบ้าออกกำลังกายจริงๆ ด้วย” แบคฮยอนบ่นก่อนจะซบลงกับอกเขาอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้ชานยอลจัดการอุ้มร่างเล็กวางบนเตียงเสียอย่างนั้น

ชานยอลมอลผลงานตัวเองแล้วรู้สึกเนื้อตัวเบาหวิวอย่างประหลาด เขาไม่รู้สึกอยากเข้ายิมอีกเลยแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกขัดขืนเมื่อโดนแบคฮยอนขึ้นนั่งคร่อมกลายเป็นความรู้สึกอยากกลืนกินร่างเล็กแทน เขายืมมองร่างขาวซีดแต้มลายแดงๆ เปียกชุ่มเหงื่อชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงออกคำสั่งอย่างเคยตัวของแบคฮยอน

“ช่วยแต่งตัวหน่อย” แม้จะออกคำสั่ง แต่แบคฮยอนกลับมีเสียงหวานล้ำไม่น่ากลัวสักนิด
ชานยอลหยิบโช้คเกอร์หนังขึ้นมาแล้วมองไปยังร่างเล็ก “คุณจะสวมเจ้านี่อีกงั้นหรือ” ถามพลางกลืนน้ำลายเล็กน้อย ถ้ากระดุมเสื้อหลุด คนอื่นไม่ตาค้างหรือนี่ที่จิตแพทย์คลินิกนี้มีรสนิยมแบบนี้ “บ้าชัดๆ” เขาสรุป
“งี่เง่า มีชั้นในสำรองที่ลิ้นชักต่างหาก หยิบให้หน่อย” ว่าพลางชี้ไปยังโต๊ะทำงานหนึ่งเดียวในห้อง
“อ้อ” ชานยอลจึงขานรับแล้วเปิดลิ้นชัก

แบคฮยอนลุกขึ้นมาจากเตียงคนไข้แล้วเริ่มทำความสะอาดตัวเองด้วยกระดาษทิชชู่ รับชั้นในและเสื้อเชิ้ตไปใส่ แต่ชานยอลก็ช่วยแต่งให้ตามคำสั่งด้วย จากนั้นร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อกางเกงก็เช็ดทำความสะอาดเสื้อผ้าบ้าง ได้ยินเสียงเหมือนคนในคลินิกกลับมาแล้วชานยอลก็พยายามนอนลงเหมือนปกติ แบคฮยอนกลับไปนั่งเก้าอี้จิตแพทย์เหมือนเก่า หยิบปากกาพลางเขียนอะไรบางอย่างก่อนจะเรียกพยาบาลเข้ามา
“จัดยาตามนี้”

สั่งการเสร็จก็เห็นสีหน้าประหลาดใจของพยาบาลครู่หนึ่งจึงพยักเพยิดให้ชานยอลลุกนั่ง หลังจากเห็นว่าคนไข้ไม่มีอาการปวดกล้ามเนื้อแล้วพยาบาลก็คิ้วขมวดนิด แต่ไม่รู้สาเหตุจึงได้แต่ออกห้องไป

“บอกผมได้รึเปล่าว่าชอบผมตอนไหน” ชานยอลได้ทีหลังจากเหลือแค่เขาสองคนจึงถามขึ้น
“จะบ้าเหรอ ใครเขาชอบคุณกันล่ะ” แต่คำตอบกลับทำให้หมั่นเขี้ยวคุณจิตแพทย์มากนัก
“ไม่ชอบแล้วทำไมรักษาผมแบบนี้กันล่ะ” ว่าพลางก็ยิ้มทำหน้าทะเล้น
“เป็นจิตแพทย์ก็ต้องรักษาคนไข้ให้หาย”
“ไม่กลัวผมหายแล้วไม่มาหาคุณอีกหรือ” พูดไปก็ไขว้นิ้วตัวเองไว้ ชานยอลไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่แบคฮยอนมีใจให้เขาแน่นอน และเขาเองก็ชอบตรงนี้ “ไอ้นี่แปลว่าอะไรนะ” เขายกมือที่อีกฝ่ายเอาปากกามาเขียนไว้ ปากกานี่ดีจริงๆ เหงื่อออกท่วมตัวแล้วยังไม่เลือนอีก
“นั่นเขียนเพื่อรักษาคุณต่างหาก” พูดไม่พอแต่กลับขยิบตาไว้ด้วย
“งั้นผมว่าผมยังไม่หาย”
“นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว”

แบคฮยอนเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษ จากนั้นก็ยื่นให้เขา

“นี่คือการรักษาครั้งหน้า กรุณามาให้ตรงนัดและผมแนะนำว่าคุณไม่ควรเข้ายิมเกินสามชั่วโมงต่อวันนะครับ”

ชานยอลยกกระดาษขึ้นมาอ่านเป็นที่อยู่และเบอร์โทรใครคนหนึ่งซึ่งเขาเดาว่าคนนั้นอยู่ในห้องนี้นั่นเอง

“เพราะถ้าคุณไปยิมมากเกินไป คุณก็จะเสียเวลารักษากับผม”


-END-

Monday, April 23, 2018

JUM The boss 9 [hunho 18+ NC cut]


“ก็เอาสิ”

หลังจบคำพูดของบอสตัวเล็ก เซฮุนก็รู้สึกว่ามือน้อยรั้งเขาให้ไปรับจูบโดยเร็ว ร่างกายไม่รอช้า ปล่อยตัวตามสบายให้อีกฝ่ายลวนลามเขาได้ตามใจชอบ จากจูบเบาๆ แลกรสแอลกอฮอล์กันก่อน ก็เริ่มขบกัดและสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าสู่พื้นที่ของกันและกันช้าๆ จุนมยอนในวันนี้กับคืนนั้นไม่ต่างกันเลยในความคิดของเซฮุน จังหวะรุกของคนตัวเล็กทำให้เขารับไหว และยามลิ้นใหญ่ต้องการรุกไปบ้างอีกฝ่ายก็แค่ออดแอดนิดหน่อยจากนั้นก็รับอย่างสมใจอยากคนทำยิ่งนัก

ระเบียงบ้านพักริมชายหาดมีลมแรงพัดพาให้ผมปลิว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้คนคนหนึ่งล้มลงกับเก้าอี้ยาวจนหลังเลอะทรายไปได้ นั่นเป็นเพราะหลังจากปล่อยให้ปากสองเราเป็นอิสระแล้วเซฮุนก็ดันร่างเล็กให้แนบลงไปต่างหาก สองแขนแกร่งค้ำยันไว้ ปล่อยให้มือน้อยของบอสตัวเล็กคล้องคอเขาไว้เพื่อไม่ให้หัวต้องกระแทกกับม้านั่ง จากนั้นก็ก้มลงไปจูบอีกรอบ คราวนี้ถึงกับเรียกเลือดเมื่อดูดดื่มความวาบหวามแล้วเซฮุนทนไม่ไหว เสียงครางฮือจากคอปลุกให้ใต้กางเกงเขาปั่นป่วน ย้อนวนมายังปากให้อยากลิ้มเลือดของอีกฝ่ายเป็นประกันก่อนสักนิด

“ไปที่ห้องกันไหม” จุนมยอนเม้มปากไม่ให้เลือดออกมาก จากนั้นก็ถามเขาเสียงพร่า
“อืม” ซึ่งเซฮุนก็จำต้องดับอารมณ์ชั่วคราว สถานที่อย่างระเบียงแม้จะลมแรงได้ใจ แต่ไม่เหมาะกับการทำอะไรอย่างว่าจริงๆ

ร่างสูงผละออกจากร่างเล็ก ยืนปัดเศษทรายที่ปลิวมากับลมเล็กน้อย แถมยังปัดผมให้อีกฝ่าย จากนั้นไม่รอจุนมยอนเอ่ยปาก เซฮุนก็อุ้มอีกคนในท่าเจ้าสาวไปยังห้องพักด้วยความรวดเร็ว ไม่ลืมให้จุนมยอนปิดล็อกประตูก่อนจะขึ้นไปห้องนอนชั้นบน จากนั้นก็ปล่อยบอสลงบนเตียงกว้าง

ถอดเสื้อยืดออกแล้วเซฮุนก็เข้าไปคร่อมจุนมยอนไว้ทันที จูบหนักหน่วงกลับมาอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่มีการกัดปากอีกแล้ว บอกตรงๆ ว่าตอนเห็นจุนมยอนเลือดออกเพราะตัวเองแล้วเซฮุนก็ใจอ่อนเป็นกอง จึงเปลี่ยนเป็นค่อยๆ โลมเล้าไปทีละน้อย ผละจากปากก็แวะถอดเสื้อให้อีกคนก่อน แล้วจูบฝังรอยแสดงความเป็นเจ้าของตรงซอกคอ เรียกเสียงครางเล็กน้อยก็หันไปหาจุกนมสีชมพูบนอกขาว กัดดูดเบาๆ เอาให้ร้องไม่เป็นภาษา แล้วก็ถึงคราวถอดกางเกงเพื่อครอบครองส่วนอ่อนไหวกว่านั้นบ้าง

“อา เซฮุน อ๊า ตรงนั้น อืม...” ครางไปด้วยจิกเตียงไปด้วยคือสิ่งเดียวที่จุนมยอนทำได้ เนื่องจากปากเด็กหนุ่มกำลังครอบครองส่วนนั้นพร้อมปรนเปรออย่างไม่ต้องร้องขอด้วยซ้ำ ร่างเล็กโก่งเอวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะต้องเสียวใจจะขาดก็พบว่าอีกฝ่ายหยุดไปเสียอย่างนั้น

“จำได้รึยัง” เซฮุนถามอีกฝ่ายพลางถอดกางเกงตัวเองบ้าง เขาไม่ได้รับคำตอบใดๆ นอกจากจุนมยอนตรงเข้ามาจัดการเจ้าโลกผุ้แข็งขืนของตนทันที

“เก่งมากเด็กดี”  หลังจากเปลี่ยนเป็นฝ่ายนั่งคุกเข่าให้คนตัวเล็กจัดการส่วนกลางลำตัวบ้าง เซฮุนก็ลูบหัวทุยเบื้องหน้าแล้วกล่าวชม “อา... เยี่ยมยอด” พูดเสร็จเขาก็รู้สึกตัวเบาไปเล็กน้อย แต่ก่อนจะได้สุขสมคนทำก็หยุดเหมือนที่เขาทำก่อนหน้านี้ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาจูบเลย

เขาผลักร่างเล็กให้ลงไปนอนกับเตียงอีกครั้ง ไม่เบาไม่แรงเกินไปแต่ทำให้เตียงเด้งมานิดหน่อย ซึ่งจังหวะก็ดีเหลือเกินส่วนล่างลำตัวซึ่งไม่ได้สัมผัสกันมาก่อนก็เด้งมาชนกันพอดี

“อือ” เสียงครางฮือในลำคอของร่างใต้เขานั้นบ่งบอกว่าพร้อมแล้ว แต่เซฮุนก็ไม่อยากรีบเร่งอะไรนัก ถ้าจำไม่ผิดนี่ก็เพิ่งจะห้าทุ่มเท่านั้น ยังเหลือเวลาอีกมากหากอยากเล่นแบบนี้ไปจนรุ่งสาง ราวกับว่าจุนมยอนก็คิดเหมือนกัน ร่างเล็กพยายามดีดดิ้นจากการเกาะกุม แล้วจากนั้นก็ใช้แรงที่มีทั้งหมดดันให้เขากลายเป็นฝ่ายอยู่ด้านล่าง

“ขี้เล่นเหมือนเดิมเลยนะครับ” เซฮุนหมายถึงเมื่อคืนนั้น
“คิกๆ แล้วชอบมั้ย”
“ไม่ชอบแล้วจะให้เล่นเหรอ” ตอบแล้วก็คิดอะไรได้อย่าง “นี่หรือว่าคุณจำได้แล้วว่า...” เซฮุนไม่ทันพูดได้จบเพราะอีกฝ่ายประกบปากมาแล้ว

จุนมยอนดันร่างเขาให้อยู่ใต้อาณัติแล้วจากนั้นก็จูบไล่จากปาก จมูก หน้าผาก แล้วย้อนลงกกหูเลื่อนไปจนไหล่กว้าง ขบกัดให้ได้ยินเสียงร้อง “โอ๊ย” จากนั้นก็บอกว่า “นี่สำหรับแก้แค้นที่กัดปากฉัน” จากนั้นก็ซบหน้าลงกับอกกว้างก่อนจะขยับสะโพกให้ส่วนล่างถูไถไปพร้อมกัน

“อา...” ทั้งสองครางขึ้นพร้อมๆ กันเพราะสัมผัสตรงแท่งไอศกรีมร้อน จุนมยอนขยับไปมาอย่างรวดเร็วจนเซฮุนคิดว่าจะต้องปล่อยออกมาในไม่ช้า แต่กลายเป็นเขาไม่เร็วเท่าอีกคน ขณะกำลังจะแตะขอบก็รู้สึกเหนอะหน้าท้อง คนตัวเล็กปล่อยออกมาก่อนเสียอย่างนั้น ไม่ขยับต่อแต่ผละใบหน้าจากอกเขาแล้วเริ่มเอาน้ำขุ่นจากหน้าท้องเซฮุนชโลมทั่วนิ้วตัวเอง จากนั้นก็ลงไปนั่งงอขาเป็นรูปตัวเอ็มแล้วสอดนิ้วเข้าไปช่องทางนั้นทีละนิ้ว

เซฮุนมองอีกฝ่ายกำลังเตรียมตัวด้วยหัวใจที่บีบคั้น บอสตัวเล็กของเขายามนี้น่ามองเหลือเกิน มือเล็กๆ นั่นข้างหนึ่งก็ค้ำด้านหลังไว้ไม่ให้ตัวเองหงายหลัง ส่วนอีกข้างก็สอดเข้าออกอย่างคล่องแคล่ว ใบหน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง นอกจากเสียงอืออาอย่างสมใจแล้วก็ยังมีเหงื่อไหลลงข้างขมับด้วย ทำเอาอยากเข้าไปจูบซับให้หมดเสียเดี๋ยวนั้น

ไวเท่าความคิด เซฮุนขยับตัวเข้าไปใกล้ทันที ด้วยความที่เตียงคิงไซส์นี้ออกแบบมาดีมากนัก เขาจึงดันให้ร่างเล็กลงไปนอนหลังแนบติดผ้าปูได้อีกครั้ง แม้จะมีเสียงห้ามทำนองว่าจะรีบเข้ามาทำไมยังเตรียมไม่เสร็จเลย แต่เซฮุนก็ใช้การจูบซับเหงื่อข้างขมับเป็นคำตอบแทน ใช่ว่าปากจะกระทำอย่างเดียวเพราะตอนนี้มือก็คว้าเข้าไปยังช่องทางนั้นแล้ว จูบปิดปากอีกทีก็ยับยั้งเสียงประท้วงของอีกฝ่ายได้ทันใจ

จุนมยอนขณะนี้ย้ายมือทั้งสองข้างไปขยุ้มผ้าปูเรียบร้อยแล้ว ยิ่งเซฮุนสอดนิ้วเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งขยำผ้าปูพลางส่งเสียงครางดังขึ้นเท่านั้น ก่อนที่เสียงจะดังเกินไปและน้ำขุ่นๆ จะออกมาอีกรอบ ร่างสูงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สอดแท่งเชื้อเพลิงร้อนของตัวเองเข้าไปทันที เนื่องจากครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แม้จะผ่านไปราวสองเดือนหลังจากวันนั้นแต่การตอดรัดและต่อต้านก็ไม่ทำให้เกิดติดขัดจังหวะมากนัก ร่างเล็กกลั้นหายใจชั่วครู่ก็พบว่าเขาสอดเข้าไปเกือบสุดแล้ว

เซฮุนจูบปลอบประโลมอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ ขยับ เห็นมือน้อยจิกลงกับผ้าปูช่างบาดใจเหลือเกิน แต่ทนไม่ไหวก็ต้องทนเพราะเจ้าน้องชายเขามันไม่ยอมอีกแล้ว ขยับสะโพกเข้าออกเป็นตายเพื่อให้ความสุขกับทั้งเขาและร่างด้านใต้ ไม่ใช่ว่าเพื่อความพอใจฝ่ายเดียวแต่หากสองร่างขยับไปเรื่อยๆ แล้วอีกไม่นานความเจ็บปวดที่จุนมยอนได้รับก็จะกลายเป็นความสุขสมเอง

ขยับได้สักพัก จูบขมับเพื่อปลอบไปสักสามสี่ที สถานการณ์ก็ดีขึ้น ตอนนี้บอสร่างเล็กไม่หลับตาปี๋เหมือนเมื่อตอนแรกแล้ว กลับค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมยิ้มบางให้ใจชื้น เซฮุนจึงเปลี่ยนจากจูบปลอบเป็นจูบเพื่อปลุกเร้าอีกฝ่ายพลางขยับทุกส่วนไปพร้อมกัน แม้จะมีเสียงครางอืออาในลำคอไม่ขาดสายแต่ด้านล่างที่ฝืดเคืองยามแรกก็ไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เขาขยับไปสักพักรู้สึกไม่หนำใจก็จับอีกคนให้ขึ้นมานั่งบนหน้าขาอีกครั้ง

“อ๊า... ลึก อื้อ มากๆ” จุนมยอนอดบ่นไม่ได้เมื่อท่านี้ทำให้สิ่งที่คากันอยู่สอดเข้าไปลึกอีกนิด
แต่นั่นกลับทำให้เซฮุนหัวเราะ
“หัวเราะทำไม อื้อ!” บ่นกระปอดกระแปดเป็นบอสร่างเด็กแล้วก็โดนกระแทกเข้าเสียอย่างนั้น
เซฮุนหัวเราะในลำคออีกครั้งด้วยความชอบใจแต่พอเห็นหน้าคนที่นั่งบนหน้าขาเหยเกก็เข้าไปกอดเอวไว้แล้วเอ่ยปลอบนิดๆ
“อดทนไว้นะ คุณก็ไม่ใช่จะผ่านมันครั้งแรกนี่”
“รู้ดีนัก อ๊ะ” จบคำบ่นเซฮุนก็จูบลงคอขาวก่อนจะขยับอย่างรุนแรงสวนกระแทกแท่งความร้อนให้เข้าเตาหลอมสุดทางอีกครั้ง

จุนมยอนไร้ซึ่งผ้าปูไว้ระบายความเสียวซ่านจึงเกาะเข้ากับไหล่กว้างของคนเบื้องหน้าไว้ เรียกเสียงซี้ดซ้าดเมื่อการกระแทกแรงเท่าไหร่ เล็บที่จิกเข้ากับหลังอีกฝ่ายยิ่งลึกเข้าเท่านั้น ราวกับการแก้แค้นเมื่อจิกจนเลือดออกให้เซฮุนได้แสบหลัง เมื่อครู่เขากัดปากน้อยๆ นั่นจนเลือดออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าเสมอกัน

บอกแล้วเกมรุกเกมรับของพวกเขาในคืนนั้นยากจะหาใครที่เข้ากันขนาดนี้ รอบนี้ก็เช่นกัน

กระแทกไม่กี่ครั้งจุนมยอนก็ไปถึงฝั่งฝันก่อนเขาอีก เซฮุนหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยแซว ร่างเล็กค้อนก่อนจะจิกเล็บลงหลังมากกว่าเดิมเมื่อเซฮุนก็อยากถึงจุดสูงสุดเช่นกัน แล้วไม่นานจากนั้น การเสียดสีก็ทำให้ของร้อนได้ปลดปล่อย เซฮุนรู้สึกหัวสมองว่างโล่งก่อนจะมองเห็นภาพเหมือนกับสวนซากุระบนชั้นเจ็ดที่เขาและจุนมยอนไปนั่งเล่นด้วยกันบ่อยๆ จากนั้นก็รู้สึกว่าน้ำเหลวไหลเลอะเปรอะลงมากับหน้าขาเขาเอง มือจุนมยอนทิ้งตัวลงกับหลังของเขา ส่วนใบหน้าน่ารักเปื้อนเหงื่อก็ซบลงกับไหล่กว้าง

“คราวที่แล้วไม่เห็นเหนื่อยแบบนี้เลย” คำพูดพื้นๆ แต่กลับทำให้ใจชื้น จุนมยอนจำได้แล้วจริงๆ ด้วย
“ก็คราวที่แล้วเราทำยกนึงไม่นานขนาดนี้นี่ครับ”
“งั้นคราวนี้ไม่เอาอีกแล้ว”
“แต่ผมยังไม่พอใจเลยนะ”
“งี่เง่า”
“แต่ก็ยอมมั้ยครับ”
“อื้อ ถือว่าจำนายช้าไปจะยอมก็ได้” จุนมยอนว่าพลางยกใบหน้าตนเองขึ้นมา ก่อนจะจุ๊บลงหน้าผากเซฮุนเพื่อขอโทษหนึ่งครั้ง
“น่ารักที่สุด” เซฮุนยกมือขึ้นมาลูบหัวคนน่ารัก จากนั้นก็จูบเข้าที่ปากอีกครั้ง

เขาดันอีกฝ่ายให้นอนลงบนเตียง จากนั้นก็จูบลงช้าๆ “จะเริ่มอีกรอบละนะ” ไม่สนใบหน้ายิ้มขี้เล่นของอีกฝ่าย “คราวนี้จะเอาให้ไม่ลืมไปตลอดชีวิตเชียว”
“ได้เลย” จุนมยอนก็ตอบแล้วจูบกลับเช่นกัน



By noeybaekbd
เจอกันตอน 10 ค่ะ

x

Tuesday, March 20, 2018

[one shot] hot concert [Sehun x Junmyeon] NC-17




เวลาตอนนี้ก็ตีสองแล้ว จุนมยอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอน เขากำลังจะถามคนข้างตัวว่าปิดไฟเลยไหม ก็พบว่าอีกฝ่ายเปิดไลฟ์อินสตาแกรมซะงั้น

“อันยองงงงง”

เจ้าเด็กหัวฟูโอเซฮุนนึกครึ้มอะไรไม่รู้ ตัวเองนอนถอดเสื้ออยู่แต่ดันเปิดไอจีให้แฟนๆ เห็นกันหมด ร้อนถึงตัวเขาเองที่เป็นถึงลีดเดอร์ต้องแอบขยับผ้าห่มให้ และนั่นก็ทำให้แฟนๆ เห็นเขา คอมเมนท์รัวเข้ามาถามทันทีว่านี่ใช่ซูโฮไหม เด็กบ้าข้างๆ ก็หัวเราะแล้วตอบไปว่าใช่แล้ว คนที่นอนข้างกันก็คือจุนมยอนนั่นเอง

อันที่จริงเขาไม่ได้นอนถอดเสื้อเหมือนเซฮุนหรอกนะ แต่ก็อดเขินอายไม่ได้ เพราะตัวเองเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไม่มีสิวหรือริ้วรอยก็จริงแต่จะให้โชว์หน้าเต็มจอแบบเซฮุนน่ะ จุนมยอนก็ไม่กล้านักหรอก

“ออกมาเถอะน่า แฟนๆ ไม่ว่าหรอก”

พอเห็นเขาไม่โผล่หน้าไปในไลฟ์วีดิโอสักที เซฮุนก็เร่งยิกๆ จุนมยอนจึงยอมโผล่ไปใกล้หน้ากล้องสองครั้งแบบกวนๆ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับดีมากเพราะแฟนๆ ส่งคอมเมนท์รูปหัวเราะมากันใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ได้แต่หลบหลังผ้าห่มนวมต่อไป

“เมื่อไหร่จะหยุดสักทีนะ”

จุนมยอนพูดเบาๆ แค่พอเซฮุนได้ยิน เขาเหนื่อยจากคอนเสิร์ตวันนี้มามาก อยากนอนจะตายแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กบ้านี่เปิดไลฟ์อยู่ล่ะก็ จะลุกไปปิดไฟแล้วนอนให้รู้แล้วรู้รอดเลย

มือน้อยของคนพี่ยกขึ้นมาสะกิดน้องเล็กของวงยิกๆ สะกิดแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่หันมา จุนมยอนก็สะกิดต่อไปเรื่อยๆ อีก เอาให้รู้ไปว่าใครจะแพ้ก่อนกัน ระหว่างเซฮุนที่มัวแต่เล่นสติ๊กเกอร์ในไลฟ์อินสตาแกรมกับตัวเขาที่สะกิดไหล่น้องอย่างไม่ยอมแพ้

สุดท้ายจุนมยอนก็ชนะ

ไม่รู้ว่าเพราะอินเตอร์เน็ตประเทศไทยสัญญาณห่วยหรือเป็นเพราะเซฮุนเบื่อสติ๊กเกอร์กันแน่ จู่ๆ นายตัวดีของจุนมยอนก็กดปิดไลฟ์อินสตาแกรมแล้วหันหน้ามามองเขาด้วยสายตามีเลศนัย

“เบื่อแล้วใช่มั้ย งั้นนอนเถอะ” จุนมยอนเอ่ยทักเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดเล่น จากนั้นก็ทำท่าจะลุกไปปิดไฟนอนแต่ก็ลุกไปครึ่งตัวเท่านั้นเพราะมือข้างที่ยื่นไปสะกิดอีกฝ่ายถูกดึงไว้
“อะไรอีกเล่าเซฮุน” กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พี่จะหนีไปไหนเนี่ย”
“จะไปปิดไฟนอนไง”
“พี่ต้องรับผิดชอบผมก่อนสิ”

พอเจ้าเด็กตัวดีที่ดึงเขาไว้เอ่ยคำนี้ออกมา จุนมยอนก็งงไปเลย รับผิดชอบอะไรหว่า หรือน้องจะโกรธที่เขาสะกิดไม่หยุดเลยอารมณ์เสียกันเนี่ย

“พี่ว่านี่มันดึกแล้วนะ เราก็ทำงานมาเหนื่อยก็ควรจะปิดฟะ...”

จุนมยอนกำลังจะเทศน์ยาวอย่างที่ทำมาตลอด เพราะกับเซฮุนน่ะถ้าดุเฉยๆ ก็จะเถียงเอาอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียที แต่กลายเป็นว่าบ่นไปแค่ครึ่งทางก็โดนดึงให้เข้าไปใกล้อีกฝ่าย โดนปิดปากด้วยปากเสียอย่างนั้น

“อื้อ”

ร่างเล็กพยายามประท้วงด้วยการส่งเสียงแต่กลับไม่ได้ผลแถมยังโดนรั้งตัวให้เข้าไปใกล้อีกฝ่ายด้วย คราวนี้จุนมยอนเริ่มนิ่งเพราะเหมือนเขาจะรู้แล้วล่ะว่าทำไมต้องรับผิดชอบ ก็...ไอ้น้องชายของเซฮุนทิ่มหน้าขาเต็มๆ เลย

“สะกิดขนาดนั้น พี่รู้รึเปล่าว่ามันทำให้ผมตื่นน่ะ”

เซฮุนจูบเขาไปหนึ่งรอบจากนั้นก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา

“ก็เราน่ะ...”

จุนมยอนกำลังจะแก้ตัวอีกรอบแต่คราวนี้ก็โดนปิดปากอีกครั้ง จากรอบแรกที่โดนดูดริมฝีปากเฉยๆ มารอบนี้ก็โดนงับปากเบาๆ ก่อนจะเอาลิ้นร้อนเข้ามากระหวัดเกี่ยวจนจุนมยอนเริ่มหัวหมุน สติยามที่โดนเซฮุนหยอกล้อแบบนี้ เขาบอกเลยว่าไม่เคยจะมี แม้อยากถามว่าจะไหวหรือเพราะวันนี้ทำงานกันมาเหนื่อยมาก แต่เจ้าแท่งแข็งๆ นั่นก็บอกเขาแล้วว่าไม่รอดแน่

มือใหญ่ที่รั้งเอวไว้เริ่มสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาว หลังจากทำให้เคลิ้มด้วยการจูบปาก พอได้จังหวะ เซฮุนก็ไม่รอช้าที่จะถอดเสื้อ จากนั้นก็กอบโกยความหอมหวานจากจุดสีชมพูบนหน้าอกของจุนมยอนจนเรียกเสียงครางหวานออกมา

“อา...”
“ผมยังไม่ทันทำอะไรก็ครางแล้วเหรอ?”
“ก็เรานั่นแหละ อื้อ”

เป็นอีกครั้งที่จุนมยอนโดนเจ้าเด็กบ้านี่แกล้ง แม้ว่าการเป็นลีดเดอร์ที่ใจดีจะทำให้โดนเจ้าชานยอล จงอินหรือแบคฮยอนแกล้งบ่อยๆ แต่จุนมยอนอยากจะบอกเหลือเกินว่าคนที่แกล้งบ่อยสุดก็น้องเล็กขี้อายเซฮุนนี่แหละ ปากก็บอกว่าขี้อายแต่ดูเอาว่าตอนนี้ทำเรื่องหน้าไม่อายขนาดไหน เขากำลังจะตัดพ้อเพราะโดนแกล้งก็กลายเป็นว่าอีกฝ่ายเอามือไปเกาะกุมส่วนอ่อนไหว ส่วนปากก็วุ่นวายแถวๆ หน้าอกอีกด้วย

“เซฮุนนา ขยับเร็วอีกนิด” สุดท้ายก็ทนไม่ไหวแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งกันอยู่แต่ก็เอ่ยปากบอกให้เร่งเครื่องเสียอย่างนั้น
“รีบไปไหนเนี่ย” แต่ดันได้เสียงกลั้วหัวเราะกลับมา
“ก็วันนี้ทำงานหนะ อื้อ มาหนัก” จังหวะที่จะพูดทีไรก็เป็นต้องได้โดนสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวเสียทุกครั้งไป

“ทำงานหนักแต่ทำน้องชายผมตื่นเองเนี่ยนะ?”
“มะ อื้อ ไม่ได้ตั้งใจนี่” ประคองเสียงพูดได้ลำบากทุกครั้ง บอกแล้วว่าน้องเล็กขี้อายน่ะไม่มีหรอก มีแต่น้องเล็กขี้แกล้งเนี่ยแหละจะเหมาะสมสุด
“พี่เหนื่อยก็ไม่ต้องขยับมากนะเดี๋ยวผมทำเอง”

พูดจบก็ไม่รอคำตอบใดๆ เซฮุนก็ผลักจุนมยอนให้นอนลงบนเตียงจากนั้นปลดกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวที่ใส่อยู่ เผยให้เห็นรูปร่างงาม สัดส่วนสามเหลี่ยมคว่ำตามแบบผู้ชายที่ออกกำลังกายประจำ สะโพกแข็งแรง บั้นท้ายแน่นและแน่นอนว่าส่วนนั้นแข็งขืนรอนานแล้ว

จุนมยอนไม่ใช่เด็กไม่รู้ความ เขาเองก็ถอดเสื้อผ้าออกเช่นกัน แต่เหมือนจะเร็วไม่พอกับความใจร้อนของอีกฝ่ายเพราะเขาเพิ่งจะถอดบ็อกเซอร์ลงนิดหน่อยก็โดนกระชากออกพร้อมกับเซฮุนโถมน้ำหนักตัวลงมาบังคับให้ต้องอ้าขารับอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พี่จะต้องน่ารักน่ากินขนาดนี้ทุกครั้งเลยหรือไง” พูดข้างหูไม่พอ เซฮุนยังจูบไล่ตั้งแต่หน้าผากขาว จมูก ปาก คอ ขบทำรอยตรงช่วงหน้าท้องแบนราบให้จุนมยอนต้องแอ่นตัวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เริ่มเร้าอารมณ์ด้วยการจูบปากอีกครั้ง

เซฮุนทำราวกับว่ากำลัง กิน จุนมยอนอยู่จริงๆ ทั้งส่งลิ้นเข้าไปรับความหวานจากริมฝีปากงามแล้วยังเลื้อยมือไปมาทั่วร่างราวกับกำลังหยอกล้อให้ประสาทสัมผัสทั้งตัวของจุนมยอนได้รับรู้ความวาบหวามอย่างถ้วนทั่ว คล้ายการนวดก้อนแป้งขาวนวลก้อนหนึ่ง นวดให้อ่อนคามือ จากนั้นก็กลืนกินเข้าไป

“อา...” จุนมยอนครางอย่างหน้าไม่อาย มือหนึ่งจับผ้าปูที่นอนเพื่อลดความเกร็ง อีกมือจับศีรษะคนรักไว้ เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนจากการใช้ปากประกบปากไปเป็นปากประกบล่างแทน ทั้งดูด ดุน งับ เล่นเอาเจ้าของแท่งไอติมน้อยๆ ต้องสั่นสะท้าน ร้องขอทั้งความรุนแรงและความปราณีจนมั่วไปหมด จากนั้นก็ได้รับจนอิ่มเอิบต้องปลดปล่อยออกมาใส่ปากน้องอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อืม... พี่อร่อยมาก รู้รึเปล่า” แลบลิ้นเลียปากตัวเองแล้วเซฮุนก็เอื้อมตัวไปหยิบเจลซึ่งอยู่ในกระเป๋าออกมาบีบใส่มือจากนั้นก็ทาเจลทั้งส่วนแข็งขืนของตัวเองและช่องทางของคนพี่พร้อมสอดนิ้วเข้าไปเตรียมตัวด้วย
“อ๊า เบาๆ ก่อนฮุน โอ๊ย” ไม่รู้ว่าเพราะยืนเกือบตลอดสามชั่วโมงหรือเปล่าทำให้ช่วงล่างเกร็งแน่นขนาดนี้ จุนมยอนแสบร้อนแม้จะมีเจลช่วย เล่นเอาเซฮุนต้องชะงัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อให้พี่เบาๆ แล้วค่อยสอดนิ้วเข้าไปลึกอีกนิด

จูบพรมเกือบทั่วใบหน้าแล้วจุนมยอนก็เริ่มสงบลง ความเจ็บตอนเริ่มต้นก็เปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านอย่างรวดเร็ว แม้จะเห็นว่าคนพี่เริ่มนิ่งแล้วแต่เซฮุนก็ยังไม่รีบดึงดันเข้าไป กลับเปลี่ยนเป็นจูบประกบปากเบาๆ ขบเม้มเรียกอารมณ์พร้อมเพิ่มนิ้วเปิดช่องทางไปอีกทีละน้อย จนกระทั่งสังเกตว่าคนใต้ร่างคลายมือออกจากผ้าปูที่นอนได้หน่อย ช่องทางก็คล้ายจะไม่เกร็งเท่าเก่าจึงเริ่มเสือกกายเข้าไปช้าๆ

“ผมจะค่อยๆ เข้าไปละนะ” เพราะเซฮุนรักจุนมยอน ดังนั้นเขาจึงกระซิบเสียงเบาด้วยคำพูดคล้ายจะขออนุญาต พอเจ้าของทางเข้านั้นไม่ขัดขืนก็ค่อยๆ เข้าไปอย่างที่บอกทีละนิดละน้อย
“อา... อืม เซฮุนอ่า เข้ามาทั้งหมดเลยก็ได้” แต่กลายเป็นว่าอารมณ์ของจุนมยอนเริ่มใกล้จะถึงขีดสุดอีกแล้ว จึงเร่งให้น้องรีบส่งความสุขเข้ามาเสียที
“พี่นี่มัน...” พูดกลั้วหัวเราะแล้วก็เสือกกายทีเดียวพรวด เล่นเอาคนร้องขอสะดุ้งกับขนาดอันใหญ่โตจากนั้นก็กระตุกตัวมากอดน้องอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“ไหนว่าจะเบาๆ ไงเล่า” บ่นกระปอดกระแปดเหมือนเด็กๆ หมดมาดพี่ชายลีดเดอร์แสนอบอุ่น กลายเป็นกระต่ายน้อยหน้าเบะไปในทันที
“ก็พี่บอกว่าเข้าทั้งหมดก็ทั้งหมดไง” ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าน้องเล็กขี้แกล้งน่ะมีอยู่จริง ยิ้มจนตาหยีจากนั้นก็ทำหน้าตายคล้ายไม่รู้ว่าการกระทำของเขาทำเอาอีกฝ่ายต้องสะดุ้งมากอดขนาดนี้
“งั้นเอาออกเลย”
“ออกไม่ได้หรอก”
“ออกเดี๋ยวนี้ อื้อ!” กำลังจะใช้สิทธิ์คนรักอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทันได้ใช้แล้ว เพราะพอจุนมยอนบอกให้น้องถอนตัวออก ก็กลายเป็นว่าโดนรุกเข้าหนักเสียอย่างนั้น มือแข็งแรงผลักให้คนพี่ตัวเล็กล้มตัวลงกับเตียงแล้วจากนั้นสะโพกแกร่งของคนน้องก็ขยับอย่างเร็ว เล่นเอาจะร้องเพราะความเสียวก็ยังแทบไม่ไหวเพราะจังหวะที่เซฮุนขยับเข้าออกนั้น แม้ตอนเจ้านั่นไม่ขยายยังต้องบอกว่าแทบขาดใจ แล้วตอนนี้เหมือนจะใหญ่กว่าเดิมมาก ขาดใจแน่เลยทีนี้

“อา.....” แม้จะบอกว่าขาดใจตายแน่ๆ แต่มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น สุดท้ายจุนมยอนก็กลั้นเสียงไม่ไหว ร้องออกมายามเมื่อส่วนนั้นของน้องกระทบกับช่องทางของเขาเสียงดังพึ่บพั่บ ยิ่งขยับก็เหมือนว่าเซฮุนยิ่งคึก จากเข้าออกไม่เร็วไม่ช้า ก็กลายเป็นเร็วสุดๆ แล้วในขณะที่ใกล้จะเห็นสวรรค์รำไร เจ้าตัวร้ายบนร่างจุนมยอนก็หยุดนิ่งเสียอย่างนั้น

“ยะ หยุดทำไม” บ่นออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พี่รู้รึเปล่าว่าพี่น่ารักที่สุดในโลกเลยน่ะ” คาดว่าจะได้รอยยิ้มแสนทะเล้นตอบกลับมา แต่กลายเป็นคำชมว่าน่ารักซะงั้น เล่นเอาจุนมยอนไปต่อไม่ถูก อารมณ์เกือบขึ้นจนสุดแล้วหยุดลงตรงหน้าทำให้หงุดหงิดก็จริงแต่เขากลับงงมากกว่าว่าทำไมอีกฝ่ายมาชมกันดื้อๆ อย่างนี้
“นายต่างหากเล่า ที่น่ารัก” จุนมยอนเดาอารมณ์คนน้องไม่ถูก แต่ก็เอ็นดูเหลือหลาย จึงยกตัวขึ้นนิดหน่อย จากนั้นก็จุ๊บปากคนรักเบาๆ “คนน่ารักจะขยับได้รึยัง?” พร้อมกับถามว่าจะไปต่อหรือไม่?

“เนี่ย พี่ก็เป็นซะอย่างนี้” เซฮุนพูดจบก็ก้มลงจูบปากสวยอีกครั้ง ใช้ริมฝีปากบดบี้สักพักก็ให้ลิ้นช่วยคลายความร้อน จากนั้นก็ขยับท่อนล่างต่อราวกับเมื่อครู่ไม่เคยออกแรงใดๆ ทั้งสิ้น
“อา... อีกนิด อื้อ” ผละริมฝีปากให้คนพี่หายใจ ก่อนจะได้รับการร้องขอความรุนแรงด้านล่าง เล่นเอาเซฮุนทนไม่ไหว ในขณะที่ขยับส่วนล่างเร็วขึ้นอีกจังหวะ ก็ใช้ปากเร้าอารมณ์ด้วยการวุ่นวายกับหน้าอกจุนมยอนอีกครั้ง

ขยับไปขยับมาไม่กี่ทีก็ค้นพบคนพี่ตัวเล็กปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจากส่วนล่างอีกครั้ง เซฮุนหัวเราะกับท่าทางอ่อนแรงของคนใต้ร่าง ดูสิ ตัวเขาเองเป็นคนทำทุกอย่าง นอกจากจะไม่ไปสักรอบแล้ว คนไม่ทำอะไรยังเสร็จก่อนเขาไปแล้วตั้งสองรอบเชียว

“พี่รีบเหรอเนี่ย รอผมด้วยสิ” พูดจบก็เปลี่ยนท่าให้คนรักนอนตะแคง จากนั้นก็นอนซ้อนด้านหลัง ยกขาเรียวขึ้น สอดกายเข้าแทรกแล้วขยับเข้าออกอีกครั้ง

อันที่จริงท่านี้ก็ลำบากไม่ใช่น้อยแต่เขาว่ามันก็ดีอยู่ เพราะการนอนซ้อนตัวแบบนี้ทำให้เจ้าโลกของเขาเข้าไปได้ลึกหน่อย แถมยังได้มองหน้าคนรักด้านข้างด้วย ซึ่งตรงนี้แหละที่เซฮุนภูมิใจ ใบหน้าทองคำของจุนมยอมน่ะ มองข้างๆ แล้วดูดีที่สุดเลย

“อื้ม” เสียงร้องประท้วงดังออกมาจากลำคอสวย เมื่อส่วนล่างทำงานไม่หยุด แล้วด้านบนยังโดนเซฮุนจูบปิดปากเสียอีก
“เหนื่อยหรือยังครับ?” ถามแล้วก็ไม่ต้องการคำตอบเพราะการกระแทกกระทั้นแรงขึ้นจนจุนมยอนต้องเอามือจับหมอนแน่นขึ้น ตาก็หลับแน่นเนื่องจากอาการเสียวไล่ไปตามท้องน้อยอีกแล้ว เซฮุนเห็นท่าทางนั้นก็หัวเราะเบาๆ สงสัยเขาต้องเร่งเครื่องให้ตัวเองเสร็จบ้างแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคนรักตัวเล็กได้ไปสามรอบก่อนเขาอีกแน่ๆ

“อ๊า!” แล้วในที่สุดเซฮุนก็สมหวัง น้ำขุ่นๆ พุ่งเข้าช่องทางด้านหลังคนรักจนล้นออกมาพร้อมกับที่จุนมยอนก็ไปสวรรค์รอบที่สามเช่นกัน ส่ายศีรษะไปมาให้กับความเหนื่อยนี้ จากนั้นก็ถอนกายออก จูบพรมข้างขมับคนรัก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานที่สุดที่เขาทำได้

“ขอบคุณมากนะครับที่พาผมขึ้นสวรรค์ จุนมยอนที่รัก”

แล้วจากนั้นเชยคางคนรักเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับจูบลงไปอีกครั้ง

จูบอ่อนหวานหลังเสร็จกิจจบไป ทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน จุนมยอนตัดพ้อเรื่องทำให้เหนื่อยนิดหน่อย แต่พอเซฮุนอ้อนเหมือนเด็กๆ ก็ยอมแพ้ไม่บ่นแล้ว นอนกอดกันสักพักก็ปิดไฟแล้วนอน จากสะกิดเพื่อที่จะให้นอนกลายเป็นสะกิดแล้วได้เหงื่อแบบนี้ คราวหน้าจุนมยอนสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่สะกิดยิกๆ อีก คราวหน้าจะปิดไฟเลยล่ะ

เอ๊ะ? หรือถ้าปิดไฟเลยจะทำให้เซฮุนโมโหแล้วจัดการเขาอย่างหนักหน่วงแทนนะ


[end]

ลงเป็นน้ำจิ้มจ้ะ กำลังจะแต่งฟิคฮุนโฮเรื่องยาวเร็วๆ นี้
@noeybaekbd