Friday, July 13, 2018

Psycho sex [One Shot Chanbaek NC-18]




 Psychiatrist คือจิตแพทย์
Psychotic patient คือผู้ป่วยโรคจิต

“วันนี้ก็ปวดตัวอีกแล้วหรือครับ คุณชานยอล” น้ำเสียงใสกังวานสะท้อนเข้ามาในหู พาให้ร่างสูงกล้ามใหญ่ซึ่งนอนนิ่งบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อนตอบออกมาเสียงเบาหวิวคล้ายจะเป็นลม
“ครับ คุณแบคฮยอน”

ชานยอลเป็นคนไข้ประจำคลินิกแห่งนี้มาได้กว่าหกเดือนแล้ว ...คลินิกรักษาผู้ป่วยโรคจิต คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนที่เล่นกีฬาออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างแข็งแกร่งราวกับจะบีบคนอื่นไว้ในมือ แต่กลับเป็นคนหัวใจไร้เรี่ยวแรงขนาดนี้ได้

เขาถูกทิ้ง

กว่าหลายปีกับแฟนสาว ไม่เคยรู้เลยว่าตนเองทำผิดตรงไหน หาข้อบกพร่องไม่เคยเจอเพราะทุกอย่างก็ทุ่มให้เจ้าหล่อนมาตลอด แต่ปรากฏว่าหกเดือนก่อน แฟนสาวกลับพาผู้ชายคนอื่นมาร่วมรักบนเตียงนอนที่เขาใช้ เจ็บใจโดนนอกใจไม่พอ หลังจากให้เลือก กลับถูกทิ้งเอาดื้อๆ

เพราะเหตุผลเราไปด้วยกันไม่ได้

เขาสูญสิ้นพลังใจในการใช้ชีวิตต่อ กล้ามเป็นมัดๆ เกิดจากการออกกำลังกายเกินขนาดติดต่อกัน บางคนอาจจะใช้ยาเสพติดหรือสุราเพื่อตัดสินปัญหา แต่เขาไม่ใช่ ชานยอลตัดสินใจเข้ายิมตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ทำงาน และนั่นก็ทำให้เขาหมกมุ่นกับการออกกำลังกายจนเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบทั่วร่าง ซ้ำยังรู้สึกเหมือนเลิกไม่ได้ เขาต้องทำมันตลอดเพื่อให้ลืมเธอ

นานวันเข้าเขาก็ถูกเพื่อนหามเข้าโรงพยาบาลพร้อมกับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิต แล้วถูกส่งตัวเข้ามารักษาต่อที่คลินิกนี้


“คุณยังไปยิมวันละสิบชั่วโมงอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงใสของจิตแพทย์หนุ่มเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง
“ผมลดเหลือเก้าชั่วโมงแล้ว” ตอบเสียงอ่อนพลางพยายามขยับตัวอย่างอ่อนแรง ไอ้โรคกล้ามเนื้ออักเสบบ้านี่
“คนปกติไม่ควรเข้ายิมเกินวันละสามถึงสี่ชั่วโมงนะครับ ถ้าไม่ใช่นักกีฬา”
“ผมรู้...”
“ใช่ คุณรู้ แต่คุณก็ยังหยุดไม่ได้ใช่ไหม”
“ใช่...”

ชานยอลนอนหลับตา ครั้งนี้เขาถูกหามมาคลินิกเพราะกินยาแก้ปวดเกินขนาด ใครให้ไอ้อาการปวดกล้ามเนื้อบ้านี่มันทรมานนัก แม้จะรู้ว่าเกิดจากตนเองเข้ายิมมากเกินไป แต่มันก็หยุดไม่ได้ ยิ่งเขาออกกำลังกายมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าลืมเธอคนนั้นได้มากเท่านั้น
“ผมว่าเราคุยกันมานานจนรู้แล้วนะครับ ว่าผมอาจจะต้องขังคุณเอาไว้”

นั่นคือวิธีหนึ่งในการรักษาเขา ขังเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปยิมจนกว่าจะรักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบทั่วร่างกายจนหาย

“แต่คุณก็รู้ว่าสุดท้ายผมจะต้องไปยิมอยู่ดี”

ชานยอลก็ตอบไปอย่างที่เคยทำ เขาห้ามตัวเองไม่ได้ พอรักษาอาการเจ็บทางกายเสร็จ เขากลับไปบ้านก็ทำใจไม่ได้ ยิ่งอยู่ในบ้านก็ยิ่งประสาท ต้องกลับไปยิมแล้วออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลังอีกครั้งอยู่ดี

“ถ้าอย่างนั้นผมว่าเราอาจจะต้องรักษาแบบใหม่” จิตแพทย์หนุ่มพูดเหมือนราวกับอยู่ใกล้เขามากจนชานยอลสงสัย จึงลืมตาขึ้นแล้วพบว่าใบหน้าของแบคฮยอนอยู่ใกล้จนปากเกือบจะสัมผัสใบหน้าเขาอยู่แล้ว “ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะไม่มีวันหาย...”  จากนั้นก็เป่าลมเข้าหูชานยอลเบาๆ หนึ่งครั้ง

ชานยอลขนลุกซู่

ราวกับร่างกายตอบสนองต่อเสียงใสของจิตแพทย์ข้างตัวแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อยามสบตาก็รู้สึกหัวใจแกว่งไกว แถมเมื่อตอนเป่าลมเข้าหูก็...

“ไม่นึกว่าเครื่องจะติดง่ายขนาดนี้นะครับ” แบคฮยอนยังคงไม่ผละสายตาออกจากเขา แถมยังวางมือไปยังจุดยุทธศาสตร์ที่ตื่นตัวนั่นเรียบร้อย
“คุณจะทำอะไรน่ะ” ชานยอลพยายามปัดตัวบ่ายเบี่ยง เขาไม่มีรสนิยมแบบนั้นเพราะคบแต่แฟนสาวมาตลอด แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอ้นั่นมันตื่นตัวเร็วจริงๆ
“คุณรู้ดีครับว่าผมจะทำอะไร คำถามคือผมไม่มีความคิดจะขืนใจคุณสักนิด” พูดพลางแบคฮยอนก็ไม่ละสายตาจากเขา ชานยอลเดาไม่ออกเลยว่าจิตแพทย์คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่มือเรียวราวกับหญิงสาวของอีกฝ่ายกำลังหยอกล้อเจ้านั่นของเขาไม่เลิก แถมไอ้แท่งกลางตัวของเขาก็ยังขืนตัวเล่นด้วยอย่างไม่ฟังเจ้านายด้วยซ้ำ

ชานยอลหวังว่าร่างกายของเขาจะมีแรงหน่อย คราวนี้เขาออกกำลังหนักไปจริงๆ ปวดกล้ามเนื้อไปทั้งตัวจนยัดยาแก้ปวดลงไปทั้งขวดแบบนั้นถึงได้โดนหามมาล้างท้องที่นี่ แม้พิษยาแก้ปวดจะหายไปแต่อาการปวดตัวยังคงอยู่ ยามนี้แบคฮยอนคร่อมลงนั่งบนตัวเขาแล้ว ก้นแน่นนุ่มที่ไม่เคยนึกว่าจะอยู่บนร่างของจิตแพทย์หนุ่มกำลังบดเบียดเข้ามาทีละน้อย

“ว่ายังไงครับ อยากรักษาแบบใหม่หรือเปล่า” อีกฝ่ายเริ่มผละใบหน้าออกจากหน้าเขาแล้ว แต่ส่งนิ้วเรียวที่เพิ่งเล่นกับไอ้น้องกลางตัวมาลากปลายคางให้รู้สึกเสียวเล่น
“ผม...” ชานยอลรู้สึกว่าจิตใต้สำนึกกำลังปฏิเสธ เขาเป็นคนไข้โรคจิตที่ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่ได้ชอบออกกำลังในร่มแบบนี้ กับผู้ชายด้วยแบบนี้...

หรือเขาจะชอบมากกว่า...

มือใหญ่ยกขึ้นมาบีบก้นงอนที่ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเองแล้วก็พลันได้ยินเสียง “อ๊า” จากปากจิตแพทย์หนุ่ม พร้อมกันนั้นอีกฝ่ายยกปากกาซึ่งมักจะนำมาจดอาการของเขาก็เปลี่ยนเป็นสิ่งที่เอาเข้าปากได้ ปากกาแท่งใหญ่ไม่สมกับความตัวเล็กของจิตแพทย์หนุ่มถูกรูดรั้งเข้าปากเล็กนั่นจนเปียกชุ่ม คุณภาพปากกาคือโดนลามเลียขนาดนี้ยังไม่เสียหาย แบคฮยอนสามารถเอามันมาเขียนบนแขนชานยอลได้เป็นคำว่า ‘I like you so much’

แทนที่จะรู้สึกรังเกียจเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่กลายเป็นว่าชานยอลราวกับต้นไม้แห้งเหือดผู้ต้องการน้ำ มือที่เคยบีบก้นงอนงามตรงเข้าบีบอีกครั้ง จนอีกฝ่ายส่งเสียงครางหวาน อาการปวดหนึบตรงเจ้าโลกที่ไม่ได้ทำกับใครมานานกว่าหกเดือนเกิดเครื่องติดอย่างหยุดไม่อยู่ทันที

ชานยอลไม่เข้าใจตัวเอง แบคฮยอนคือจิตแพทย์ผู้รักษาเขามากว่าหกเดือนแล้ว ไม่เคยเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจเขามาก่อน แต่จู่ๆ มาวันนี้เหมือนอยากจะมีเซ็กส์กับเขามากๆ ถ้าหากโดนถามเรื่องขึ้นเตียงก่อนหน้านี้เขาคงปฏิเสธ แต่จากปฏิกิริยาของร่างกายตอนนี้เขาว่า เขาปฏิเสธร่างเล็กนี่ไม่ได้

“ตกลง...” ขาดคำตอบรับ จิตแพทย์หนุ่มถอดเสื้อกาวน์ออกก่อนจะโน้มหน้าลงมาหาเขาแล้วจูบอย่างหนักหน่วงราวทะเลทรายขาดน้ำ เสียงครางอื้ออึงในลำคอปลุกทุกประสาทให้ชานยอลตอบสนองกลับ ลิ้นหน้าเกี่ยวตอบรับลิ้นบาง พร้อมมือทั้งสองยกขึ้นมากอดตระคองไม่ให้ร่างเล็กกลิ้งล้มบนเตียงไปก่อน

ดูเหมือนแบคฮยอนจะเชี่ยวชาญไม่น้อย หลังจากจูบร้อนแรงก็รู้จังหวะที่จะต้องถอย มือเรียวตรงเข้าปลดกางเกงซึ่งไอ้นั่นของชานยอลยืนตรงรับมืออีกฝ่ายนานแล้ว สองขาหนีบเข้ากับหน้าขาแน่นของชานยอลแล้วก็จัดการก้มลงจูบแท่งกลางตัวของเขาอย่างไม่รังเกียจ ชานยอลต้องฝืนตัวลุกเพราะอยากเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกลืนกินเขาแบบไหน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อขนาดเจ้าน้องชายเมื่อขยายเพื่อรับสัมผัสแบคฮยอนกลับใหญ่กว่าที่เคยเป็นมากนัก

“ปกติมันไม่เคยใหญ่ขนาดนี้... อืม...” ชานยอลพูดคล้ายจะขอโทษเมื่อแบคฮยอนต้องพยายามอ้าปากกว้างอย่างมากเพื่อทำให้เขาได้เสพความสุข ปากเล็กเชิดหยิ่งที่ชานยอลเคยเห็นตอนนี้กลับอมและดูดแท่งไอศกรีมของเขาไว้เกือบหมด ทั้งจูบ ขบกัดหรือกระทั่งลามเลียราวกับไม่ให้เสียของ ทะนุถนอมยิ่งกว่าเจ้าของมันเองด้วยซ้ำ

ยอมรับเลยว่าทำเก่งกว่าแฟนสาวของเขาเสียอีก ชานยอลเผลอคิดแล้วก็สะบัดศีรษะเบาๆ หนึ่งครั้ง

“ไม่ชอบเหรอครับ” นึกไม่ถึงว่าแบคฮยอนเงยหน้ามามองเขาพอดี เห็นว่าชานยอลสะบัดศีรษะก็เข้าใจว่ายังไม่ถูกใจ
“ไม่ใช่ อ่าส์” กำลังจะปฏิเสธก็ได้รับสิ่งเกินคาดหมายเมื่อแบคฮยอนกลืนแท่งไฟน้อยของเขาเข้าไปจนเกือบมิดแท่ง มันทั้งปวดหนึบและเร่าร้อนอยู่แล้ว พอโดนเข้าอย่างนี้ก็เต้นตุบๆ แบบดีใจจนตัวสั่นเลยทีเดียว ฟันเล็กๆ ขบกัดเขาให้เสียวมากขึ้นแล้วลิ้นร้อนก็ผลักดันให้แท่งร้อนเข้าออกปากซ้ำๆ ชานยอลรู้สึกดีจนแทบขาดใจตาย เขาอยากให้ตัวเองไม่ปวดกล้ามเนื้อเกินไปจนสามารถยกใบหน้าสวยนั้นขึ้นมาจูบอีกครั้งได้

เหมือนว่าใบหน้าเชิดหยิ่งของจิตแพทย์หนุ่มจะกลายเป็นใบหน้าสวยไปเสียแล้วในความคิด แถมยิ่งตอนมีน้ำอุ่นๆ ของเขาเลอะหน้าแบบนี้

รูดรั้งด้วยปากไม่นานชานยอลก็สุขสม น้ำขุ่นขาวๆ พ่นออกมาใส่ใบหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ ชานยอลจำไม่ได้เลยว่าเคยรู้สึกดีขนาดนี้ล่าสุดคือเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้มันแสดงออกมาทั้งร่างกายเขาแล้วว่า... ชอบ

และยิ่งชอบขึ้นอีกเมื่อแบคฮยอนกำลังถอดเสื้อ

ร่างบางตรงหน้าถอดเสื้อเชิ้ตซึ่งใส่ประจำออกด้วยการปลดกระดุมทีละเม็ด เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนปกติปลดกระดุมที่ความเร็วเท่าไหร่ แต่กับแบคฮยอนคือมันช้าเนิบนาบมากนัก ปลดกระดุมที่แขนเสื้อแล้วก็ค่อยปลดกระดุมเสื้อจากสาบเสื้อขึ้นมา เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบขาวนวลราวหญิงสาว เรื่อยขึ้นมามีเส้นหนังสีดำปรากฏสู่สายตาทำให้ชานยอลประหลาดใจนิดหน่อย แต่พอปลดกระดุมจนถึงคอชานยอลก็ถึงกับรู้สึกลมหายใจขาดห้วง

แบคฮยอนถอดเสื้อเผยให้เห็น choker chain หนังสีดำที่ปกปิดอกขาวนวลและตุ่มไตสีชมพูซึ่งอยู่ระหว่างช่องว่างของเส้นหนังเหล่านี้

ร่างบางถอดกางเกงออกเผยให้เห็นเส้นหนังสีดำซึ่งรัดส่วนล่างลำตัวอีกชั้นหนึ่ง เหมือนมันกำลังทำให้หัวชานยอลเกิดแสงสว่างวิ้งแล้วทั้งหมดก็คือกลุ่มควันขาวโพลน เขาไม่เข้าใจตัวเองยามยื่นมือไปดึงเส้นหนังของอีกฝ่าย รวมทั้งตอนที่ก้มลงดูดดุนจุดสนใจสีชมพูอย่างกระหายเลือดนั่นด้วย

“อ๊า... อย่ากัดแรง อื้อ” แบคฮยอนพยายามจะห้ามเขาแต่กลับเหมือนไร้เรี่ยวแรงไปเสียอย่างนั้น เสียงกระเส่าที่ดังมาจากจิตแพทย์หนุ่มทำเอาสติเขากระเจิงจนหมด น้ำเสียงใสกังวานเช่นกับเมื่อตอนพยายามจะบังคับให้เขาพูดปัญหาออกมา ในตอนนี้กลับทำให้สัญชาตญาณดิบออกมาจนสิ้น ชานยอลไม่ฟังคำใดๆ ทั้งลามเลีย ขบกัดตุ่มไตนี้จนร่างบางสั่นระริก

เหมือนว่าไม่พอใจจึงผละออกจากอกขาวมาเป็นใบหน้าแทน จูบตั้งแต่กกหู ไซ้ซอกคอแล้วจบลงปากเล็กซึ่งเคยเชิดหยิ่ง ยามนี้ปากนั้นไม่ได้บังคับให้เขาต้องพูดปัญหาหรือกระทั่งออกคำสั่งให้พยาบาลพาเขาไปจับมัดบนเตียงอีกแล้ว เป็นชานยอลเองที่มัดแบคฮยอนไว้ด้วยปากของเขาเอง แต่กระนั้นก็ยังไม่พอ มือหนาจับหมับตรงก้นงอนสองลูก จากนั้นบีบคลึงเค้นเสียจนอ่อนคามือ ร่างเล็กที่คร่อมอยู่บนตัวเขาสั่นจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

ชานยอลจูบอีกฝ่ายจนมือน้อยต้องทุบอกเขาเพื่อให้หยุด “คุณรุนแรงไปนะบางที” เสียงบ่นราวกับงอนออกจากปากจิตแพทย์หนุ่มทำเอาใจอ่อนยวบ ยามนี้จึงค่อยปลดสายโซ่หนังออกจากร่างเล็กก่อน ค่อยๆ ปลดทีละจุดพลางจูบในจุดนั้นด้วยราวกับสำนึกผิด จนเมื่อปลดโช้คเกอร์จากลำคอระหงออกหมด ชานยอลก็ซุกไซ้เหมือนเด็กขาดความอบอุ่นอีกครั้ง เรียกเสียงครางหวานยามเขาจูบและทำรอย

“ยะ อย่าทำรอยสูงไป อ๊า” เสียงอ้อนวอนจากชายหนุ่มบนร่างห้ามทันเมื่อตอนชานยอลกำลังจะทิ้งร่องรอยสีแดงเลือดไว้ตรงลำคอพอดี เขาใจอ่อนอีกครั้งก่อนจะตรงเข้าวุ่นวายอกนวลต่อ แต่เจ้าแท่งไฟร้อนตรงหว่างขากลับไม่สุขใจเท่าหัวใจเขามากนัก เพราะมือเรียวของแบคฮยอนข้างหนึ่งเมื่อค้ำเข้ากับหน้าขาเขาจนมั่นคงแล้วก็ปล่อยอีกมือเล่นกับแท่งร้อนทันที

“อาส์ ผมปลดส่วนล่างคุณได้หรือยัง”
“ก็เอาสิ” ปากเล็กกระซิบเข้าข้างหูเขาก่อนจะครางเสียงหวานอ่อน “อื้อ” ชานยอลปลดโซ่หนังท่อนล่างด้วยการกระตุกแรงๆ จนเชือกขาดคามือ จากนั้นก็ส่งนิ้วกลางเข้าไปทักทายช่องทางร้อนของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
“อ๊า เจ็บ เบาๆ หน่อย” เล็บสั้นกุดจิกกลางหลังจนรู้สึกเหมือนได้เลือดยามเขาสอดนิ้วที่สอง เหมือนกล้ามใหญ่โตของเขาคือนิ้วมือทั้งห้าและฝ่ามือหนาหนัก เขาเคยเอากำไลที่สามารถใส่แขนหญิงสาวมาควงได้ด้วยสองนิ้วเลยทีเดียว นั่นทำให้เข้าใจได้ว่าการโดนนิ้วกลางและนิ้วชี้สอดแทรกช่องทางทำให้แบคฮยอนเจ็บปวดจนจะบ้า

นั่นทำให้ชานยอลพอใจหนักมาก

มือร้อนปาดเอาของเหลวจากเจ้าโลกที่เหนอะหนะเมื่อครู่แล้วส่งสองนิ้วเข้าไปอีกครั้ง “อา... ช้าลงหน่อย อืม อย่างนั้นแหละ ตรงนั้น อ๊า” เสียงตอบสนองยามเขาส่งกำลังพลเข้าบุกรุกช่องทางหวานทำเอาชานยอลใกล้จะคลั่ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ปวดตัวจะเป็นจะตาย แต่พอได้สัมผัสร่างกายแบคฮยอนมากเข้า เรี่ยวแรงที่ไม่เคยมีกลับปึ๋งปั๋งขึ้นมาขนาดนี้

“เข้ามาเถอะ อื้อ” หลังจากจิกเล็บลงหลังจนอ่อนแรง แบคฮยอนก็ทำสิ่งที่เคยตัว นั่นคือออกคำสั่งเพื่อบังคับตัวชานยอลให้กระทำ แต่การกระทำนี้ชานยอลกลับเต็มใจมาก เขาจับเจ้าแท่งกาวร้อนขึ้นมาจ่อปากทางนานแล้ว รอก็แค่ว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยปากก่อนหรือไม่เท่านั้น

“อ๊า ทำไมมันใหญ่ขึ้น” หลังจากหมดคำขอชานยอลก็บุกเข้าด้วยกำลังพลหลักทันทีและนั่นทำให้แบคฮยอนบ่นออกมา เอาจริงคำตอบนี้เขาก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่จนใจแล้วก็ดันให้แท่งร้อนนี้เข้าไปให้มากขึ้น เล็บสั้นจิกเข้าหลังอีกครั้งพร้อมขาอ้ากว้างขึ้นกว่าเก่า ราวกับว่าแบคฮยอนจะเชียวชาญแต่กับขนาดที่เล็กกว่านี้ พอเจอแบบใหญ่ๆ เข้าก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“คุณเจ็บเหรอ” ถามจบก็ได้รับการตอบกลับเป็นแรงกระแทกจากร่างเล็ก “เจ็บสิ ถามได้ คุณใหญ่เกินไปแล้วนะ อ๊า” บ่นได้แรงเท่ากับการกระทำเล่นเอาชานยอลอดหัวเราะไม่ได้
“ยังจะหัวเราะอีก ถ้ามีแรงก็ออกแรงให้เยอะหน่อยสิ”
“ย่อมได้” ยิ้มตอบรับกับความขำขันของการกระทำนี้แล้วสองร่างก็ออกแรงกระแทกใส่กันและกันให้ลึกสุดใจ เสียงครางและสูดปากสลับกันไปจนแว่บหนึ่งชานยอลคิดได้ว่ามันอาจดังไปถึงข้างนอก ราวกับรู้ใจเมื่อแบคฮยอนกระซิบว่าตอนนี้พักเที่ยง ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว นั่นทำให้เขาหัวเราะหึๆ ครั้งหนึ่งจากนั้นก็กระแทกใส่อย่างเต็มแรง ทำเอาแบคฮยอนกัดหูเขาเบาๆ แล้วบอกว่าแก้แค้น

ชานยอลกระแทกกระทั้นใส่ช่วงล่างคนตัวเล็กไปไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงครางแบบหมดแรงจากคนตรงหน้าเสียแล้ว ของเหลวข้นหนืดออกมาจากกลางท่อนขาขาวนวล เขาอยากจะก้มลงไปช่วยทำความสะอาด เสียแต่ว่าส่วนของเขามันนานกว่ามากนัก ตอนนี้อีกฝ่ายไปถึงฝั่งฝันแต่ตัวเขารอบสองนี่ยังไม่ถึงไหน แบคฮยอนตอนแรก็กระแทกช่วยอย่างดีแต่ร่างเล็กๆ นั่นจะมีแรงเสียเท่าไหร่ หลังปล่อยหนึ่งรอบก็อ่อนปวกเปียกเสียจนแรงน้อยกว่าตอนแรกมากนัก

“หมดแรงแล้วหรือครับคุณจิตแพทย์” ชานยอลยั่วเย้า กับจิตแพทย์คนนี้รู้จักกันมาหลายเดือนก็ใช่ว่าจะไม่สนิทเลยทีเดียว แต่แค่ว่าทุกครั้งแบคฮยอนมักจะบีบคั้นให้เขาเจ็บใจบ่อยก็เท่านั้นเลยไม่เคยมองว่าร่างเล็กมีใจให้ มาวันนี้ได้ทีก็ขอแกล้งหน่อย
“ใครจะไปบ้าออกกำลังกายอย่างคุณ”
“ผมนึกว่าคุณออกกำลังกายในร่มบ่อย” พูดจบก็ขบกัดใบหูน้อยๆ หนึ่งครั้ง
“รอคุณมาหลายเดือนแล้วคิดว่าจะไปทำกับคนอื่นได้เหรอ”

ชานยอลโคตรจะใจชื้น

ผลของการเข้ายิมวันละสิบกว่าชั่วโมงออกมาอย่างชัดเจนก็วันนี้ เห็นได้ชัดเมื่ออะดรีนาลีนหลั่งขั้นสุด และออกซิเจนจากการหายใจเข้าออกจะช่วยกำจัดกรดยูริกซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อได้มากที่สุด จากปวดตัวจนแทบลุกไม่ขึ้น ชานยอลก็ไม่รู้ว่าเขามีเรี่ยวแรงมหาศาลราวกับจะฉุดช้างได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ เจ้าช้างกลางหว่างขาตัวนี้กำลังโดนยื้อยุดให้ขึ้นลงอย่างไม่หยุดในตอนนี้

“อ๊า แรงอีก อ๊า เสียว อ๊ะๆๆๆ อ่าส์” เสียงครางและหลักฐานการปล่อยของเหลวรอบสองเป็นสิ่งการันตีถึงความร้อนแรงของช้างชานยอลในตอนนี้ ในขณะที่เขายังไม่ถึงรอบสอง แต่แบคฮยอนกลับไปอีกรอบในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว ร่างเล็กอ่อนปวกเปียกเข้าไปอีก ทำเอาชานยอลแทบบ้า ตอนนี้เหงื่อของทั้งคู่คงออกมาเป็นลิตรแล้วเพราะมันชุ่มร่างกายจนหมด พร้อมๆ กับอาการปวดตัวหายเป็นปลิดทิ้งชานยอลกระแทกเจ้าโลกเข้าไปจนสุดแล้วก็รู้สึกว่าร่างกายได้ปลดปล่อยอีกครั้ง

“คุณนี่มันบ้าออกกำลังกายจริงๆ ด้วย” แบคฮยอนบ่นก่อนจะซบลงกับอกเขาอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้ชานยอลจัดการอุ้มร่างเล็กวางบนเตียงเสียอย่างนั้น

ชานยอลมอลผลงานตัวเองแล้วรู้สึกเนื้อตัวเบาหวิวอย่างประหลาด เขาไม่รู้สึกอยากเข้ายิมอีกเลยแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกขัดขืนเมื่อโดนแบคฮยอนขึ้นนั่งคร่อมกลายเป็นความรู้สึกอยากกลืนกินร่างเล็กแทน เขายืมมองร่างขาวซีดแต้มลายแดงๆ เปียกชุ่มเหงื่อชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงออกคำสั่งอย่างเคยตัวของแบคฮยอน

“ช่วยแต่งตัวหน่อย” แม้จะออกคำสั่ง แต่แบคฮยอนกลับมีเสียงหวานล้ำไม่น่ากลัวสักนิด
ชานยอลหยิบโช้คเกอร์หนังขึ้นมาแล้วมองไปยังร่างเล็ก “คุณจะสวมเจ้านี่อีกงั้นหรือ” ถามพลางกลืนน้ำลายเล็กน้อย ถ้ากระดุมเสื้อหลุด คนอื่นไม่ตาค้างหรือนี่ที่จิตแพทย์คลินิกนี้มีรสนิยมแบบนี้ “บ้าชัดๆ” เขาสรุป
“งี่เง่า มีชั้นในสำรองที่ลิ้นชักต่างหาก หยิบให้หน่อย” ว่าพลางชี้ไปยังโต๊ะทำงานหนึ่งเดียวในห้อง
“อ้อ” ชานยอลจึงขานรับแล้วเปิดลิ้นชัก

แบคฮยอนลุกขึ้นมาจากเตียงคนไข้แล้วเริ่มทำความสะอาดตัวเองด้วยกระดาษทิชชู่ รับชั้นในและเสื้อเชิ้ตไปใส่ แต่ชานยอลก็ช่วยแต่งให้ตามคำสั่งด้วย จากนั้นร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อกางเกงก็เช็ดทำความสะอาดเสื้อผ้าบ้าง ได้ยินเสียงเหมือนคนในคลินิกกลับมาแล้วชานยอลก็พยายามนอนลงเหมือนปกติ แบคฮยอนกลับไปนั่งเก้าอี้จิตแพทย์เหมือนเก่า หยิบปากกาพลางเขียนอะไรบางอย่างก่อนจะเรียกพยาบาลเข้ามา
“จัดยาตามนี้”

สั่งการเสร็จก็เห็นสีหน้าประหลาดใจของพยาบาลครู่หนึ่งจึงพยักเพยิดให้ชานยอลลุกนั่ง หลังจากเห็นว่าคนไข้ไม่มีอาการปวดกล้ามเนื้อแล้วพยาบาลก็คิ้วขมวดนิด แต่ไม่รู้สาเหตุจึงได้แต่ออกห้องไป

“บอกผมได้รึเปล่าว่าชอบผมตอนไหน” ชานยอลได้ทีหลังจากเหลือแค่เขาสองคนจึงถามขึ้น
“จะบ้าเหรอ ใครเขาชอบคุณกันล่ะ” แต่คำตอบกลับทำให้หมั่นเขี้ยวคุณจิตแพทย์มากนัก
“ไม่ชอบแล้วทำไมรักษาผมแบบนี้กันล่ะ” ว่าพลางก็ยิ้มทำหน้าทะเล้น
“เป็นจิตแพทย์ก็ต้องรักษาคนไข้ให้หาย”
“ไม่กลัวผมหายแล้วไม่มาหาคุณอีกหรือ” พูดไปก็ไขว้นิ้วตัวเองไว้ ชานยอลไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่แบคฮยอนมีใจให้เขาแน่นอน และเขาเองก็ชอบตรงนี้ “ไอ้นี่แปลว่าอะไรนะ” เขายกมือที่อีกฝ่ายเอาปากกามาเขียนไว้ ปากกานี่ดีจริงๆ เหงื่อออกท่วมตัวแล้วยังไม่เลือนอีก
“นั่นเขียนเพื่อรักษาคุณต่างหาก” พูดไม่พอแต่กลับขยิบตาไว้ด้วย
“งั้นผมว่าผมยังไม่หาย”
“นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว”

แบคฮยอนเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษ จากนั้นก็ยื่นให้เขา

“นี่คือการรักษาครั้งหน้า กรุณามาให้ตรงนัดและผมแนะนำว่าคุณไม่ควรเข้ายิมเกินสามชั่วโมงต่อวันนะครับ”

ชานยอลยกกระดาษขึ้นมาอ่านเป็นที่อยู่และเบอร์โทรใครคนหนึ่งซึ่งเขาเดาว่าคนนั้นอยู่ในห้องนี้นั่นเอง

“เพราะถ้าคุณไปยิมมากเกินไป คุณก็จะเสียเวลารักษากับผม”


-END-

No comments:

Post a Comment