Thursday, August 3, 2017

my hero-chanbaek

My hero

“ช่วยด้วย!
แบคฮยอนส่งเสียงร้องออกมาเพราะกำลังเข้าตาจน มือเรียวกุมหน้าท้องเอาไว้ ครางด้วยความเจ็บหนึ่งครั้ง แล้วจ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม

เขาไม่น่าเลือกทางนี้เลย แบคฮยอนมักจะทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเสมอ และวันนี้หัวหน้าให้เขาทำโอทีเพิ่มเพราะคนขาด อารามว่าอยากกลับหอพักเร็วหน่อยแต่ลืมไปว่านี่มันเที่ยงคืนแล้ว เขากลับเลือกเส้นทางที่เปลี่ยวแต่เดินแค่สิบนาทีก็ถึงแทนที่จะใช้เส้นทางอีกเส้นซึ่งกินเวลานานกว่า

พลาดชะมัด... กัดฟันกรอดจนทำให้รอยช้ำข้างปากแสบขึ้นเล็กน้อย ใครจะคิดว่าเขาเดินมาเกือบจะครึ่งทางแล้ว กลับปรากฏร่างของไอ้โม่งถือมีดเดินมาระยะประชิดและต่อยเขาที่ท้องหนึ่งหมัดทันที พอเขาขัดขืน ไอ้โจรชั่วก็ต่อยเขาที่ปากอีกแผล ตอนนี้ที่แบคฮยอนทำได้จึงมีแค่นั่งลงกุมท้องและร้องขอความช่วยเหลือซึ่งไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า

“ไม่เอาน่าคนสวย ส่งกระเป๋ามาให้พี่เถอะนะ แล้วพี่สัญญาว่าจะไม่ทำน้องเจ็บอีก”  
“สวยพ่อง” หงุดหงิดที่แรงน้อยกว่าโจรไม่พอ ยังต้องโดนมันชมว่าสวยอีก อ๊ากกกก อยากร้องไห้


มือกุมกระเป๋าแน่น เงินจากที่ทำงานเพิ่งได้มาเมื่อกี้และเขาไม่อยากเสียมันไปเลย มันคือเงินสำหรับหนึ่งเดือนเลยนะ แบคฮยอนพยายามหาทางหนีอีกครั้ง แม้ทางนี้จะโล่ง แต่ก็ไม่มีแสงไฟให้ความสว่างสักเท่าไหร่ ทางซ้ายคือทางที่เขาจะไปตอนแรก แต่กว่าจะถึงหอพักก็คงหมดแรงก่อน แต่ทางขวาก็ไม่แน่ว่าจะมีคนอยู่ตรงถนนสายหลักหรือไม่เพราะนี่มันดึกแล้ว

“ชักช้าจริง เอากระเป๋ามาสิว้อย” ไอ้โจรเห็นท่าทีว่าเขาคงไม่เอากระเป๋าให้ง่ายๆ เลยเข้ามาฉกเอง
“อ๊ากกก ไม่นะๆๆ ช่วยด้วยยยยย” แบคฮยอนก็ยื้อยุดกระเป๋าไว้อย่างสุดความสามารถพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง

ขอร้องล่ะ ใครก็ได้มาช่วยเขาที...



“หยุดนะว้อย!

แล้วพระเจ้าก็ได้ยินคำขอของเขาจนได้

ชายในชุดสีแดงสลับดำทั้งตัว กระโดดเข้ามาพร้อมกับร้องเสียงดัง โจรชั่วจึงเอามีดในมือแทงเข้าที่ลำตัวของเขาทันที แต่ชายคนนั้นกลับไวกว่า เท้าเตะไปที่ข้อมือของโจรทำให้มีดหล่นลงพื้น จากนั้นก็ต่อยเข้าหน้าก่อนจะสมทบอีกสองสามทีบริเวณลำตัวและปลายคาง เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่วินาที โจรชั่วที่กำลังจะเข้ามาเอากระเป๋าของแบคฮยอนไป ก็กลายเป็นก้อนเละๆ ก้อนหนึ่งกลางถนนเสียแล้ว

สุดยอด... ร่างเล็กคิดในใจพลางสำรวจชายคนนั้นอีกครั้ง ชุดหนังรัดรูปสีแดงสลับดำดูเท่บอกไม่ถูก กลางหลังยังมีสิ่งที่คล้ายท่อนกระบองสองท่อนไขว้กันอยู่ เขามองไม่เห็นใบหน้าอีกฝ่ายเพราะถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากหนังคล้ายชุด เหลือเพียงดวงตาเท่านั้นที่คล้ายจะมีช่องโปร่งแสงปิดอยู่

ผู้ชายชุดหนังยื่นมือมาทางแบคฮยอน เมื่อมือวางลงก็ฉุดร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนได้อย่างรวดเร็ว แต่พอจะขอบคุณกลับพบว่าร่างของตัวเองอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่ายเสียแล้ว แม้ว่าแบคฮยอนจะมีรูปร่างแบบผู้ชายทั่วไปสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบหนักหกสิบกว่าโล แต่พอโดนคนอื่นอุ้มอยู่แล้วเขากลับพบว่าผู้ชายที่มาช่วยตัวใหญ่ชะมัด ไหล่กว้างกว่าเขามากๆ แถมยังแรงเยอะอีก

“เอ่อ...” กำลังจะบอกว่าปล่อยเขาลง ก็พบว่าชายชุดหนังกระโดดขึ้นสูงจนสามารถขึ้นไปอยู่บนเสาไฟได้อย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย!” แบคฮยอนร้องด้วยความตกใจหนึ่งครั้งแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายชุดแดงหยุดลง ร่างสูงกระโดดอีกสองสามครั้ง จากนั้นแบคฮยอนจึงพบว่าตัวเองอยู่หน้าหอพักเรียบร้อยแล้ว

อึ้งมากๆ เพราะปกติเขากึงเดินกึ่งวิ่งยังใช้เวลามาถึงที่นี่ตั้งสิบนาที นี่ชายชุดหนังกระโดดไม่กี่ครั้งก็มาถึงแถมยังรู้ด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่อีก

“อะ เอ่อ ขอบคุณ” ในที่สุดก็ได้พูดคำว่าขอบคุณเสียที แต่หลังจากแบคฮยอนโค้งคำนับเพื่อแสดงความขอบคุณเสร็จ ร่างสูงนั่นก็หายไปแล้ว

“มาไวไปไวแฮะ” บ่นอุบก่อนจะรีบเข้าหอพักเสียก่อน




วันรุ่งขึ้น...


“นายต้องได้เห็นนะจงแด ฮีโร่ของฉันเท่มากจริงๆ” แบคฮยอนฟุ้งใส่เพื่อนหลังจากโดนทักว่าหน้าไปโดนอะไรมา
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินข่าวว่าแถมมหาลัยเรามีฮีโร่อะไรแบบนั้นเลยนะ” มินซอกที่นั่งข้างจงแดหันหน้ามาถาม
“เค้าอาจจะออกมาทำหน้าที่เพราะฉันเป็นคนเรียกก็ได้ อิอิ” คนหลงตัวเองยังโม้ไม่เลิก
“ยังไม่เลิกคุยอีกอ่อเตี้ย” ชานยอลที่ไปซื้อน้ำกลับมาว่าเข้าให้
“นายเนี่ย นอกจากจะไม่ช่วยทำแผลให้ ยังว่าฉันอีกนะ” แบคฮยอนก็เลยค้อนกลับ
“เอ้า อย่าพูดมาก น้ำชาเขียวที่สั่ง” ชานยอลเลยเอาเครื่องดื่มที่ตัวเองไปซื้อมายัดปากซะ
“อื้อ ออบอุน” ได้ยินเสียงอู้อี้ขอบคุณกลับมา ชานยอลก็ยิ้มหนึ่งครั้งแล้วเอามือขยี้หัวเพื่อนตัวเล็กซะ

“ว่าแต่ชุดที่ผู้ชายคนนั้นใส่อ่ะ มันคล้ายๆ หนังที่ฉันไปดูมาไม่นานมานี้เลยนะ” จงแดพูดแล้วก็เอามือไถๆ โทรศัพท์ตัวเองก่อนจะร้อง อ้อ! ออกมาหนึ่งครั้งแล้วยื่นหน้าจอมาให้แบคฮยอนดู
“เฮ้ยยยยย” ซึ่งแบคฮยอนก็ร้องอย่างตกใจทันทีเพราะชุดที่คนในภาพใส่เหมือนกับชุดของคนที่มาช่วยเขาไว้
“นี่มันเดดพูดนี่หว่า” มินซอกชี้ๆ แล้วพูดชื่อออกมาทำเอาแบคฮยอนงง
“เดดพูลไหนอ่ะ”
“ถึงได้บอกให้นายไปดูหนังกับเพื่อนฝูงบ้าง” จงแดพูดก่อนจะเคาะหัวแบคฮยอนไปหนึ่งครั้ง “เนี่ย เดดพูล เป็นฮีโร่สายพันธุ์ใหม่จากมาร์เวล เจ้านี่ชอบใส่ชุดแบบนี้ไปช่วยคนอื่นแล้วยังกวนตีนสุดๆ ด้วย”
“แต่คนที่มาช่วยฉัน เค้าไม่กวนตีนนะ เอาจริงเค้าไม่พูดอะไรเลยต่างหาก” แบคฮยอนเอ่ยแย้ง
“เอ้า เค้าก็อาจจะเป็นแฟนหนังเรื่องนี้แล้วซื้อชุดไปใส่บ้างไงเล่า”
“แต่คนนั้นเค้ากระโดดได้ด้วยนะ” คนต้นเรื่องยังแย้งอีก
“เห็นว่าห้างที่ชานยอลทำงานก็มีขายนี่ ชุดพวกนี้” มินซอกพูดขึ้น
“เอ่อ ก็มีบ้าง”
“เหยยยย ชานยอลไม่เห็นเคยบอกเลยอ่ะ ถ้างั้นวันนี้ฉันขอไปดูหน่อยน้า เผื่อจะเจอคนที่มาช่วยฉันเมื่อวานไง” แบคฮยอนทำหน้าเป็นลูกหมาขี้อ้อนแล้วก็มองไปที่ชานยอลอย่างมีความหวัง
“ก็ได้”
“เย้!” แบคฮยอนร้องอย่างดีใจ ไม่แน่เขาอาจะเจอฮีโร่ที่มาช่วยไว้เมื่อวานกำลังมาซื้อชุดใหม่ก็ได้

หลังเลิกเรียนแบคฮยอนตามชานยอลไปที่ห้างสรรพสินค้าดิอีฟทันที ห้างแห่งนี้ไม่ใหญ่นักแต่ก็ไม่เล็กไป ชานยอลทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่จึงเข้าออกได้สะดวก

“ร้านนี้” ชานยอลชี้ไปที่ร้านขายชุดคอสเพลย์ซึ่งกินพื้นที่สองล็อคในชั้นสอง แบคฮยอนรีบเดินเข้าไปเหมือนเด็กๆ เห็นของเล่นก็ไม่ปาน
“อันนี้สไปเดอร์แมน อันนี้ซุปเปอร์แมน ไหนอ่ะเดดพูล” มือเรียวค้นชุดที่อยู่ในราวแขวนพลางบ่นเมื่อหาชุดของฮีโร่ตัวเองไม่เจอสักที
“อยู่ตรงนี้” ชานยอลที่เดินเข้ามากลับค้นในราวตรงข้ามแล้วยื่นมาให้

“ว้าววววว เท่อ่ะ อยากใส่บ้างอ่า” ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นชุดหนังนั้น
“ขอโทษนะคะ พอดีว่าที่ร้านมีชุดเดดพูลไซส์ใหญ่ คุณลูกค้าอาจจะใส่ไม่ได้” พนักงานที่เดินตามมาพูดขึ้น
“ง่า เสียดาย”
“แต่คุณผู้ชายท่านนี้อาจจะใส่ได้นะคะ” พนักงานพูดขึ้นหลังจากดูไซส์ชุดเทียบกับชานยอล แต่พอเธอมองชายร่างสูงอีกทีก็รู้สึกประหลาดใจ “แต่เอ๊ะ คุณมาซ...” พูดได้แค่นั้นก็หยุดเพราะชานยอลกลับเอาชุดวางกลับบนราวแล้วลากแบคฮยอนออกจากร้านซะอย่างนั้น
“ใกล้จะถึงเวลาเข้างานแล้ว เอาไว้มาดูใหม่” หลังจากลากแบคฮยอนมาหน้าร้านแล้วชานยอลก็พูดแค่นั้นก่อนจะเดินจากไป
“โธ่ อดให้ชานยอลลองชุดเลยอ่า” แบคฮยอนบ่นอุบก่อนจะเดินกลับหอพักเพราะตัวเองไม่ต้องเข้าทำงานพิเศษวันนี้


วันต่อมา...

แบคฮยอนแอบมาร้านที่ขายชุดฮีโร่อีกครั้ง ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ถามพนักงานว่ามีใครซื้อชุดนั้นบ้าง แถมเขาค่อนข้างสงสัยคำพูดของพนักงานที่ว่าชานยอลมาอะไรสักอย่างด้วย

“อ้าว คุณนั่นเอง วันนี้สนใจชุดไหนดีคะ” พนักงานสาวคนเดิมกล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ คือผมสนใจชุดเมื่อวานน่ะครับ ไม่รู้ว่าชุดเต็มๆ มันจะมีไม้กระบองพาดเป็นตัว x กลางหลังด้วยรึเปล่า”
“อ้อ ใช่เลยค่ะ เป็นเซตของมันเลย จะว่าไป เพื่อนคุณที่มาด้วยเมื่อวานก็...”
“ก็อะไรเหรอครับ”

“ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าจะมาซื้อชุดแบบเต็มเซ็ตไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเองค่ะ ตอนนั้นดิฉันก็เป็นคนขายให้เองด้วย”

หา........

แบคฮยอนอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินพนักงานตอบมาแบบนั้น เขาพาตัวเองกลับมายังหอพักแล้วนอนเอามือก่ายหน้าผากครุ่นคิด

ชานยอลเคยมาซื้อชุดเดดพูลแถมยังซื้อแบบครบเซ็ตด้วย ทำไมวันนั้นที่เขาบาดเจ็บกลับมา ร่างสูงได้ยินเรื่องของชายชุดหนังที่แบคฮยอนเล่าแต่กลับไม่ทักเรื่องที่ว่าชุดเหมือนเดดพูลแม้แต่น้อย

ไม่สิ ถ้าจำไม่ผิด เมื่อวานชานยอลทำท่าทางแปลกๆ ตอนพนักงานเดินเข้ามา แถมยังตัดบทกลางคัน ไม่ให้พนักงานพูดจนจบด้วย ถ้าเขาไม่แอบไปที่ร้านนั้นคนเดียววันนี้ก็คงไม่รู้ว่าชานยอลมีชุดแบบนั้นด้วย

มือเรียวเอื้อมมือไปจับไหล่ตัวเองแล้วหน้าขึ้นสีเล็กน้อย จำได้ว่าวันนั้นเดดพูลที่มาช่วยเขาอุ้มตัวเองขึ้นไปโดยเอามือหนึ่งจับไหล่ไว้และอีกมือก็จับขาเขาด้วย มือนั้นใหญ่พอๆ กับมือของรูมเมทเขาเลยนี่นา เพียงแต่เขายังไม่เคยโดนชานยอลอุ้มหรอกนะ ไม่งั้นเขาจะต่อยเจ้านั่นแน่ๆ

ส่ายศีรษะไปมาแล้วคิดว่านี่แบคฮยอนสงสัยว่าชานยอลคือฮีโร่ที่มาช่วยเขางั้นเหรอ บ้าไปแล้ว เดดพูลคนนั้นตัวสูงก็จริงแต่อ่อนโยนกับเขามากกว่าชานยอลตั้งหลายเท่า ตารูมเมทขาโก่งนี่นอกจากบ่นเรื่องเขาทำห้องเลอะ เล่นเกมบ่อย ทำกับข้าวไหม้แล้วก็ไม่มีอะไรดีเลย แม้ว่าวันนั้นจะช่วยเขาทำแผลก็เถอะ

แต่มันก็น่าคิดนะเนี่ย

ห้องในหอพักของแบคฮยอนมีสามห้องย่อย สองห้องคือห้องนอนของเขาและชานยอลส่วนอีกห้องคือห้องนั่งเล่นและห้องครัวรวมกัน เวลาปกติเขากับชานยอลก็นอนคนละห้องอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดว่าเขาจะเห็นว่าอีกคนมีเสื้อผ้าชุดอะไรบ้าง ก็ไม่เคยเข้าห้องส่วนตัวกันนี่นา

แต่วันนี้แบคฮยอนอยากเข้าไปในห้องชานยอลชะมัด เพื่อนตัวสูงนั่นซื้อชุดเดดพูลมาจริงๆ เหรอ ไม่ใช่ว่าพนักงานจำคนผิดใช่มั้ย แล้วซื้อมาทำไม จะได้เป็นฮีโร่มาช่วยเขาเหรอ

ส่ายศีรษะไปมาอีกครั้งกับความคิดงี่เง่า ชานยอลจะอยากมาเป็นฮีโร่ช่วยเขาทำไมเล่า พอคิดได้ดังนี้ แบคฮยอนก็ล้มเลิกความคิดจะบุกเข้าห้องรูมเมท จำได้ว่าเจ้าของห้องเคยห้ามไว้ว่าห้ามเข้ามาด้วย ถ้าเขาแอบเข้าไปแล้วชานยอลรู้จะต้องโดนบ่นอีกยาวแน่ๆ




“เฮ้ออออออออ” แบคฮยอนถอนหายใจยาวจนมินซอกที่นั่งด้านหน้าเขาหันมาถามด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย”
“ก็เดดพูลคนนั้นไง”
“คนไหน?”
“คนที่เค้ามาช่วยฉันจากโจรเมื่ออาทิตย์ก่อนไง”
“นี่นายยังคิดถึงเค้าอยู่เหรอเนี่ย” พอมินซอกทักอย่างนั้น แบคฮยอนก็พยักหน้าหงึกหงัก
“ทำไงดีมินซอก ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใครอ่ะ แล้วก็อยากขอบคุณด้วย แล้วก็เอ่อ... รู้สึกอยากเจออีกอ่า” แบคฮยอนอธิบายไปก็หน้าแดงแบบไม่ทราบสาเหตุ เขาจะบอกใครได้อย่างไรเล่าว่าตั้งแต่รู้ว่าชานยอลซื้อชุดแบบนั้นไปด้วยแถมตัวเองยังจำสัมผัสของเดดพูลคนนั้นได้ ใจมันก็ไม่ค่อยสงบ เหมือนจะเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะซะงั้น
“หืม? นี่นายชอบเดดพูลคนนั้นงั้นเหรอ” มินซอกเห็นอาการเพื่อนก็ทักไปตามนั้น

เคร้ง!

แบคฮยอนกำลังจะตอบว่าบ้ารึไง ก็โดนขัดจังหวะเพราะชานยอลซึ่งนั่งอยู่ข้างตัวเองดันทำกล่องดินสอหล่นเสียได้

“ชานยอลทำไมซุ่มซ่ามงี้เนี่ย” บ่นอุบแต่ก็ก้มลงเก็บของช่วยเพื่อนด้วยเหมือนกัน เขาคิดไปได้ยังไงว่าฮีโร่ที่มาช่วยวันนั้นเป็นรูมเมทตัวเองทั้งๆ ที่มันแสนจะเงอะงะขนาดนี้
“ขอโทษที” แต่ก็บ่นได้ไม่นานเพราะเสียงอ่อนของเพื่อน เอ๊ะ ชานยอลเป็นอะไรล่ะเนี่ย

“ทำยังไงจะได้เจอเค้าอีกทีอ่ะมินซอก” พอช่วยเก็บของเสร็จ แบคฮยอนก็หันหน้าไปถามเพื่อนอีกครั้ง เขาอยากจะเจอเดดพูลคนนั้นจริงๆ นะ
“ก็เขามาช่วยเพราะนายตกอยู่ในอันตรายใช่มั้ยล่ะ งั้นก็ลองหาอะไรอันตรายทำดูสิ ฮ่าๆ” มินซอกแนะนำไปอย่างนั้นเพราะเห็นว่าแบคฮยอนกวนไม่เลิก

ไม่ได้คิดเลยว่าเพื่อนสุดเพี้ยนมันจะเอาตัวเองไปล่อเสือล่อตะเข้จริงๆ ด้วย

แบคฮยอนในชุดกระโปรงสีขาวความยาวแค่ครึ่งหน้าขาเดินช้าๆ กลางซอยเปลี่ยวด้วยหัวใจตุ้มต่อม เพราะอยากให้ล่อโจรมากกว่าเดิมจึงได้แต่งตัวเป็นหญิงสาวแทนที่จะเป็นเด็กหนุ่มเหมือนทุกที แล้วชุดกระโปรงนี้ก็ยืมเพื่อนมาใส่ แต่เพื่อความปลอดภัย จึงกดโทรศัพท์ต่อสายกับมินซอกไว้ ถ้าเดดพูลไม่มา จงแดกับมินซอกจะได้มาช่วยไว้ทัน

“โอ๊ะ โอ๋ คนสวยมาทำอะไรในซอยเปลี่ยวล่ะเนี่ย” พูดไม่ทันขาดคำ โจรก็ปรากฏตัว ดูเหมือนไอ้โจรนี้จะเป็นคนเดิมที่เคยจะเข้ามาแย่งกระเป๋าของเขา แบคฮยอนจำมันได้จากน้ำเสียงแม้มันจะใส่หมวกไอ้โม่งมาเหมือนเคย แต่มันน่าจะจำเขาไม่ได้เพราะวันนี้แบคฮยอนมาในร่างสาวน้อย

“หลีกไปนะ ช่วยด้วย” รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันทีเพราะคุยกับมินซอกไว้ว่าจะร้องคำว่าช่วยด้วย หมดครั้งที่สามเมื่อไหร่ เดดพูลไม่มาก็ให้มาช่วยได้เลย

แบคฮยอนคิดว่าโจรจะเข้ามาเอากระเป๋าเหมือนทุกทีก็ทำเป็นยื้อยุดนิดหน่อย ที่จริงเขาซื้อกระเป๋าราคาถูก เอาของข้างในออกหมดแล้วเอามือถือซ่อนไว้ในบราเพื่อที่ว่าจะหนีไปได้ เซฟตัวเองสุดๆ แล้ว

แต่เขาลืมไปเลยว่าตัวเองแต่งเป็นผู้หญิงแถมยังนุ่งสั้นเสียจนโจรมันไม่สนของซะด้วย

โจรเข้ามากระชากกระเป๋าออกไปด้วยมือเดียวแล้วจากนั้นก็เอามีดมาจ่อคอเขาไว้ อีกมือก็ปิดปากแถมยังเอาตัวของมันมาทับแบคฮยอนไว้ทั้งหมดอีก จบกัน ตอนนี้เขาร้องช่วยด้วยอีกไม่ได้แล้ว

“คนสวยจ๋า มาเป็นของพี่เถอะนะ”

แบคฮยอนอยากจะร้องไห้ แม้แต่จะร้องคำว่าช่วยด้วยเพื่อเรียกมินซอกหรือเรียกเดดพูลตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ไอ้โจรชั่วเอาไอ้นั่นของมันออกมาแล้ว อี๋ ขยะแขยงชะมัด ทำไมคราวนี้มันผิดคาดขนาดนี้ เขาไม่อยากเป็นเมียโจรนะเว้ย ยิ่งถ้ามันรู้ว่าแบคฮยอนไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ อีก มันจะฆ่าเขามั้ยเนี่ย

น้ำตาไหลพรากเมื่อโจรพยายามจะถกกระโปรงของเขาขึ้น อ๊ากกกกก ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย ทำไมมินซอกไม่มาช่วยสักที ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะไม่ได้พูดคำว่าช่วยด้วยเป็นครั้งที่สามแต่ตอนนี้มันแย่แล้วนะ!

“หยุดนะ!

แล้วก็มีคนมาช่วยสักที

แบคฮยอนมองข้ามหัวไอ้โม่งไปยังฝ่ายตรงข้าม ชุดหนังสีแดงพร้อมกับกระบองไขว้เป็นตัว x ด้านหลัง ร่างสูงที่เขารอคอยมาถึงแล้ว

เดดพูลมาหาเขาแล้ว!

ไอ้โจรเหมือนจะใช้ท่าเดิมคือพุ่งตัวเข้าไปแทงแต่คราวนี้มันไวจนแบคฮยอนร้องว่า “ระวัง!” แทนที่จะช่วยกลายเป็นว่าเดดพูลเสียจังหวะและโดนโจรแทงเป็นรอยถากที่ข้างแขนไปเสียอย่างนั้น เลือดไหลออกจากแผลเป็นรอยยาวแต่ชายร่างสูงกลับไม่หวั่น ตอกกลับด้วยลูกเตะเข้าก้านคอทำเอาเจ้าโจรหมอบในท่าเดียว จากนั้นก็เข้าหาแบคฮยอนในร่างหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

“เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงอู้อี้แต่กลับมีความคุ้นเคยถามเอ่ยออกมาเมื่อเห็นสภาพแบคฮยอน ซึ่งเจ้าตัวก็ก้มล้งมองกระโปรงซึ่งขาดปลายนิดหน่อยในช่วงจังหวะฉุดกระชาก กับรอยถลอกที่ขาเพราะขูดกับหิน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย แม้แต่มือถือที่ซ่อนไว้ในบราตอนนี้ก็ยังมีเสียงมินซอกตะโกนออกมาว่าปลอดภัยมั้ยอีกด้วย แหม ทีเมื่อกี้ล่ะเงียบเลย

“ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก เอ่อ ค่ะ” แบคฮยอนขอบคุณแล้วก็นึกได้ว่าตัวเองตอนนี้เป็นสาวน้อยอยู่
“ถ้าอย่างนั้นก็... เอ่อ ลุกไหวมั้ย?” เดดพูลยื่นมือมาให้เขาจับ แบคฮยอนจึงเพิ่งจะสังเกตว่าแขนเขามีรอยมีดถากยาวจนเลือดไหลเป็นทางเลย
“อ๊ะ คุณบาดเจ็บ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วหาอะไรมาซับเลือดให้ แต่เพราะเขาไม่มีผ้าเช็ดหน้าจึงฉีกปลายกระโปรงออกมาแล้วพันไว้
“ขอบคุณ” เดดพูลเอ่ยเมื่อเขาพันแผลให้
“ไปโรงพยาบาลมั้ยคะ เอ่อ ที่จริง คุณช่วยฉันไว้ ฉันอยากตอบแทน” แบคฮยอนรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ นี่เขาชอบเดดพูลจริงๆ หรือเนี่ย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปส่ง” พูดจบก็จะเข้ามาอุ้มเขาอีกครั้ง แบคฮยอนไม่ขัดขืนพลางคิดว่าเขาทำอย่างนี้กับทุกคนรึเปล่านะ พอบอกว่าหอพักอยู่ตรงไหน ก็พบว่าเดดพูลชะงักก่อนจะมองเขาจากศีรษะไปปลายเท้าครั้งหนึ่งแล้วปล่อยเขาลงให้ยืนขึ้นเสียอย่างนั้น

“มีอะไร?” แบคฮยอนเอ่ยด้วยความสงสัย
“แบคฮยอนเหรอ?” แต่เดดพูลกลับเอ่ยชื่อเขาขึ้นมา
“หืม?”
“ไม่มีอะไร ผมไปก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวก่อน! อย่าไปนะชานยอล!

เดดพูลหยุดชะงักทันทีที่เขาพูดออกมา แบคฮยอนรีบเดินไปกอดจากด้านหลังก่อนจะพูดอู้อี้

“ทำไมต้องปิดกันด้วยล่ะชานยอล นายมาช่วยฉันสองครั้งแล้วนะ นายคิดว่าฉันจำนายไม่ได้เหรอ ถึงเสียงนายจะอู้อี้เพราะอยู่ในหน้ากากแต่เราเป็นรูมเมทกันนะ ต้องจำได้สิ” น้ำตาไหลพรากเหมือนความกลัวเมื่อครู่กลับมา แบคฮยอนกลัวมากเลยว่าเดดพูลจะมาช่วยเขาไม่ทัน แล้วยังกลัวโจรนั่นจะทำร้ายชานยอลด้วย

“นะ...นายรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เดดพูลยืนนิ่งแต่พูดเสียงสั่นตอบมา
“ตั้งแต่ที่นายพาฉันไปร้านขายชุด พออีกวันนึงฉันก็ไปอีกครั้งแล้วพนักงานขายก็บอกว่านายซื้อชุดไป ฉันขอโทษที่เข้าห้องนายไปโดยพลการ แต่ทำไมนายถึงไม่บอกฉันว่านายมาช่วยฉันล่ะชานยอล” แบคฮยอนพูดเสียงอู้อี้เพราะเริ่มร้องไห้ด้วยความกลัวและน้อยใจ

“นี่นาย.. ร้องไห้เหรอ?” เดดพูลหันหน้ามาแล้วจับไหล่แบคอยอนไว้
“ฮื่อ กลัวอ่ะชานยอล ถ้าเมื่อกี้นายมาช่วยไม่ทัน มันก็คง ฮือ กลัวอ่า”
“ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่นี่แล้ว” ปาดน้ำตาออกให้ แต่ก็ยังไม่ถอดหน้ากากออก

แบคฮยอนสูดน้ำมูกก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตา ใบหน้าของสาวน้อยที่มินซอกอุตส่าห์แต่งหน้าให้ ตอนนี้หลุดลอกกลายเป็นใบหน้าของแบคฮยอนรูมเมทคนทะเล้นของชานยอลเสียแล้ว มือใหญ่เลยลูบศีรษะคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู

แต่กลายเป็นว่าตอนเดดพูลลูบศีรษะตนพร้อมก้มหน้าลงมานั้น กลับโดนแบคฮยอนคว้าเอาหน้ากากหนังดึงออกมาจนผมยุ่งเลยทีเดียว

“จับได้แล้ว!” แบคฮยอนโบกหน้ากากที่ตัวเองดึงออกมาได้สะบัดไปมาผ่านหน้าชานยอล พลางร้องดีใจ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเมื่อครู่หายไปอย่างรวดเร็ว

กลายเป็นว่าชานยอลต้องเอามือปิดหน้าเนื่องด้วยเสียรู้อีกฝ่ายเสียแล้ว แต่ก็นะ เขาดันยอมรับตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เพียงแต่ไม่ยอมเปิดหน้ากากออกมาเอง

“เฮ้อ โดนนายจับได้ซะแล้ว” พอโดนจับได้ก็เลยลงไปนั่งบนพื้นเสียเลย
“นี่ ชานยอลอ่า ถามได้มั้ยอ่ะ ว่าทำไมต้องปลอมตัวมาช่วยกันด้วย”
“ก็...”
“เพราะว่านายชอบฉันเหรอ?” ถามแล้วไม่พอ ยังมานั่งยองๆ ต่อหน้าอีก เล่นเอากระโปรงที่ขาดไปส่วนหนึ่งเปิดไปถึงไหนต่อไหน
“ถ้าจะให้ตอบก็มานั่งนี่” มือใหญ่เลยฉุดให้คนตัวเล็กมานั่งตักเสียเลย
“ตอบได้ยัง” แบคฮยอนถามไปใจก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไป ก็ตอนนี้หลังของเขาชิดกับแผ่นอกชานยอลเต็มๆ เลยนี่นา แถมตรงกระโปรงก็นั่งทับบนชุดหนังที่มันรัดรูปด้วย...

ชานยอลเอาคางตัวเองมาเกยบนไหล่มน จากนั้นก็เอ่ยช้าๆ “อือ ชอบนานแล้ว”

เล่นเอาเขินหน้าแดงเลยง่า

“เอ้อ นึกขึ้นได้ว่าตากผ้าไว้ เดี๋ยวฝนจะตก ไปเก็บผ้าก่อนนะ” ตัดบททำท่าจะลุกไปแต่ก็มีแขนแกร่งมากอดไว้

ตอนนั้นเองที่แบคฮยอนเห็นว่าแขนอีกฝ่ายมีเลือดไหลเยอะขนาดไหน

“เจ็บมั้ยชานยอลอ่า” ลูบตรงแผลแล้วก็ถามเสียงอ่อน
“ถ้าแบคฮยอนตอบว่าชอบฉันบ้าง ก็จะไม่เจ็บ”

โอ้โห รุกแรงไปแล้วนะ แง

“อื่อ ชอบ”  ตอบเบาๆ เพราะเขิน
“ว่าไงนะ”
“ก็บอกว่าชอบไงเล่า ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างนี้เพื่อล่อให้เดดพูลออกมาเหรอ ตาบ้าเอ๊ย มาก็ช้า นึกว่าจะเสร็จไอ้โจรนั่นไปซะแล้ว” พูดแล้วก็งอนอีกครั้งเลยต้องเอามือทุบๆ ไอ้เจ้าชุดหนังเจ้าปัญหาเข้าให้

ตั้งแต่พบว่าชุดหนังนี่อยู่ในห้องชานยอลแถมยังมีรอยเหมือนไปต่อยใครมา แบคฮยอนก็แน่ใจว่าชานยอลต้องเป็นเดดพูลที่เขาตามหาแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรชานยอลก็ไม่พูดออกมาสักทีว่าเป็นคนช่วยแบคฮยอน ดังนั้นเขาจึงวางแผนกับมินซอกและจงแดว่าจะพูดให้ชานยอลรู้ว่าเขาจะมาหาเดดพูลแต่ไม่บอกว่าจะมาในรูปแบบสาวน้อย ดังนั้นเดดพูลจึงออกมาแต่ไม่รู้ว่านี่คือแบคฮยอน

“ไม่ทุบสิ ไม่ใช่เพราะชุดนี้เหรอ เราถึงได้รู้ว่าใจตรงกัน” มือใหญ่กว่ารวบมือเล็กกว่าเอาไว้

เป็นความจริงที่ว่าแบคฮยอนแอบชอบชานยอลมานานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าบอกอีกฝ่ายเสียที เพราะเป็นเพื่อนกันแถมยังเป็นรูมเมทกันอีก กลัวว่าถ้าบอกความจริงออกไป ชานยอลก็อาจจะตีตัวออกห่าง
แต่พอได้เห็นชุดนี้ก็ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าชานยอลมาช่วยเพราะมีใจให้ เล่าให้คู่หูจงแดมินซอกฟัง พวกนั้นก็เลยยุจนได้แผนนี้ออกมา แล้วก็ใจตรงกันจริงๆ ด้วย

“นายแอบชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?” พอโดนรวบมือเลยทำเป็นถาม
“ก็นานพอๆ กับที่นายชอบฉันแหละมั้ง”
“ย่าห์! กวนตีนอ่อ ปาร์คชานยอล”

แบคฮยอนทำท่าจะต่อยชุดอีกครั้งคราวนี้ชานยอลเลยใช้ไม้เด็ดซะเลย ใบหน้าได้รูปก้มลงมาทีละน้อยๆ ให้ใจสั่นเล่น แล้วสุดท้ายก็จบลงที่ปากเล็กๆ นั่น แม้จะมีท่าทีขัดขืนแต่พอรสจูบถูกใจ ผ่านไปไม่นานมือที่จะมาทุบอกชานยอลกลับกลายเป็นคล้องคอกดท้ายทอยให้อีกฝ่ายก้มลงมาอีกนิดจนได้

“ฉันชอบนาย ชานยอล ฮีโร่ของฉัน” บอกรักได้อ่อนหวานแล้วก็ได้รอยยิ้มหวานตอบกลับมาพร้อมจูบอีกรอบ หลังจากนั้นก็เป็นคำพูดหวานๆ
“ฉันชอบนายมากกว่า แบคฮยอนสาวน้อย ฮ่าๆๆๆ” ตบท้ายแบบตลกจนโดนทุบอั่กๆ สมใจ บรรยากาศเป็นใจจนลืมอะไรไปบางอย่างทีเดียว





หลายสัปดาห์ต่อมา

“นายว่าแถวนี้มันมีมดขึ้นมั้ยจงแด”
“ฉันว่ามันขึ้นตลอดแหละมินซอก”
“อ่อ ก็คู่รักหวานเค้ามานี่แล้วเนอะ”
“ก็นั่นสิน้า ฮ่าๆๆ”

“ย่าห์! พวกนาย” แบคฮยอนตวาดแหวเมื่อโดนแซ็วเป็นรอบที่ล้าน

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนตอนที่ชานยอลแต่งตัวเป็นเดดพูลไปช่วยแบคฮยอนนั้น พวกเขาลืมไปเลยว่ากำลังเปิดโทรศัพท์คุยกับพวกมินซอกอยู่ ดังนั้นถ้อยคำหวานๆ ที่คิดว่าพูดกันให้รู้สองคนก็กลายเป็นว่าคนอื่นได้ยินไปกันหมด เนื่องจากมินซอกเปิดลำโพงไว้ แล้วเพื่อนกลุ่มใหญ่ก็กำลังมาหาพอดี คราวนี้ทั้งแบคฮยอนและชานยอลเลยกลายเป็นคู่รักหวานของสาขาไปแล้ว อ๊ากกกก

“ไม่เอาน่า” ชานยอลห้ามร่างเล็กไม่ให้ไปเตะพวกเพื่อนๆ ด้วยการดึงมือไว้
“นายไม่หงุดหงิดเหรอห๊ะ”
“ก็นิดหน่อย”
“ใช่มั้ย ต้องเตะเจ้าพวกนั้นให้ได้”
“แต่ทำอย่างนี้จะทำให้หายหงุดหงิดมากกว่า” ชานยอลว่าพลางดึงแบคฮยอนเข้ามาในอ้อมกอด จากนั้นก็จุ๊บลงหน้าผากเบาๆ เรียกเลือดขึ้นสีหน้าจนจะระเบิดเป็นภูเขาไฟได้แล้ว นี่มันกลางโรงอาหารเลยนะ!

“ไม่หงุดหงิดแล้วนะครับ” ยังต่อด้วยคำหวานอีก ใครจะทนไหว
“ไม่แล้วก็ได้”

ฝากไว้ก่อนเลยนะชานยอล เดี๋ยวคืนนี้จะให้เดดพูลทำการบ้านให้หนัก

โทษฐานทำแฟนเขินกลางโรงอาหารว้อย จำไว้!


จบเถอะเนาะ


 by @noeybaekbd